เจ้าหน้าที่รายงานเมื่อวันศุกร์ (28 พ.ย.) ว่า น้ำท่วมรุนแรงหลายวันทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 300 รายในอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย เนื่องจากฝนตกหนักในฤดูมรสุมต่อเนื่องเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ประกอบกับพายุโซนร้อนหายากที่ก่อตัวขึ้นในช่องแคบมะละกา และพายุไซโคลน จึงทำให้พื้นที่น้ำท่วมขังทั่วทั้ง 3 ประเทศ ส่งผลให้ประชาชนต้องติดค้างอยู่บนหลังคาบ้านและถูกตัดขาดจากชุมชน
พายุโซนร้อนทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอินโดนีเซียและไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ จากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ในอินโดนีเซียยังคงพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดบนเกาะสุมาตรา ขณะที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทางภาคใต้ของประเทศไทยต้องนำรถตู้คอนเทนเนอร์แช่แข็ง มาใช้เก็บร่างผู้เสียชีวิตชั่วคราว เนื่องจากห้องเก็บศพของโรงพยาบาลไม่เพียงพอ
มิสเนียติ วัย 53 ปีซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดสุมาตราตะวันตกของอินโดนีเซีย เล่าเหตุการณ์ตอนประสบน้ำท่วมให้สำนักข่าว AFP ฟังว่า วันนั้นขณะที่เธอกลับจากการละหมาดตอนเช้าที่มัสยิด เธอก็สังเกตเห็นว่าถนนถูกน้ำท่วม “ฉันพยายามวิ่งกลับบ้านไปบอกสามี แต่น้ำก็ท่วมถึงเอวแล้ว...และกว่าจะถึงบ้าน น้ำก็ท่วมไปจนถึงหน้าอก”
เจ้าหน้าที่บนเกาะสุมาตราเผยว่า “น้ำท่วมและดินถล่มในสัปดาห์นี้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 174 ราย และมีผู้สูญหายเกือบ 80 ราย”
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ของไทยมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้วอย่างน้อย 145 ราย เฉพาะที่จังหวัดสงขลา 110 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับผลกระทบรวมกว่า 3.5 ล้านคน ขณะเดียวกัน สาธารณชนต่างก็ไม่พอใจ วิพากษ์วิจารณ์ภาครัฐว่า ‘บริหารจัดการน้ำท่วมได้ไม่ดี’
ชาวบ้าน 2 รายบอกกับ Reuters ว่า พวกเขาไม่ได้รับคำเตือนที่ชัดเจนจากหน่วยงานท้องถิ่นในขณะที่ฝนตกไม่หยุดทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนเสียงวิจารณ์ที่กว้างขวางตอกย้ำถึง ‘ความล้มเหลว’ ของรัฐบาลในการจัดการกับวิกฤตนี้
ส่วนที่มาเลเซีย พายุโซนร้อนเซนยาร์พัดขึ้นฝั่งราวเที่ยงคืนของวันศุกร์ (28 พ.ย.) และอ่อนกำลังลงแล้ว แต่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยายังคงเตรียมรับมือกับฝนตกหนักและลมกระโชกแรง พร้อมเตือนว่าทะเลที่มีคลื่นแรงอาจเป็นอันตรายต่อเรือขนาดเล็ก
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2 ราย และมีผู้อพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวรวม 30,000 คน ลดลงจากกว่า 34,000 คนในวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.)
นอกจากนี้ ยังมีรายงานอุทกภัยจากประเทศทางฟากฝั่งเอเชียใต้อย่างศรีลังกาที่เจอพายุไซโคลนพัดถล่ม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 69 ราย สูญหายอีก 34 ราย และส่วนใหญ่เสียชีวิตจากดินถล่ม เนื่องจากมีฝนตกหนักกว่า 300 มม.ในภาคตะวันออกและภาคกลางของประเทศ
(Photo by : MOHD RASFAN / AFP)



