จีนเอาจริง! ตัดสินประหาร 11 หัวโจกตระกูลหมิง เจ้าของศูนย์สแกมใหญ่ในเมียนมา

30 ก.ย. 2568 - 09:12

  • สื่อทางการจีนรายงานว่า ศาลจีนได้ตัดสินประหารชีวิตสมาชิก 11 คนจากตระกูลหมิงฐานก่ออาชญากรรมดำเนินกิจการศูนย์หลอกลวงในเมียนมา

  • รายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนระบุว่า สมาชิกตระกูลหมิงทั้งหมด 39 คนถูกศาลตัดสินเมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.) ที่เมืองเวินโจว ทางตะวันออกของประเทศ

  • นอกจากสมาชิก 11 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ยังมีอีก 5 คนที่ได้รับโทษประหารชีวิตแต่รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี โดยอีก 11 คนถูกจำคุกตลอดชีวิต และสมาชิกที่เหลือได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 5-24 ปี

จีนเอาจริง! ตัดสินประหาร 11 หัวโจกตระกูลหมิง เจ้าของศูนย์สแกมใหญ่ในเมียนมา

สื่อทางการจีนรายงานว่า ศาลจีนได้ตัดสินประหารชีวิตสมาชิก 11 คนจากตระกูลหมิงฐาน ‘ก่ออาชญากรรม’ ดำเนินกิจการศูนย์หลอกลวงในเมียนมา  

ตระกูลหมิงทำงานให้กับ 1 ใน 4 ตระกูลที่บริหารเมืองเล่าไก่ เมืองเล็กๆ อันเงียบสงบของเมียนมา ใกล้ชายแดนจีน และเปลี่ยนเมืองนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางการพนัน ยาเสพติด และศูนย์หลอกลวง แต่ในท้ายที่สุด เมียนมาก็ดำเนินปราบปราม และจับกุมสมาชิกหลายคนของตระกูลเหล่านี้ในปี 2023 แล้วส่งตัวพวกเขาให้กับทางการจีน 

รายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนระบุว่า สมาชิกตระกูลหมิงทั้งหมด 39 คนถูกศาลตัดสินเมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.) ที่เมืองเวินโจว ทางตะวันออกของประเทศ 

นอกจากสมาชิก 11 คนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว ยังมีอีก 5 คนที่ได้รับโทษประหารชีวิตแต่รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี โดยอีก 11 คนถูกจำคุกตลอดชีวิต และสมาชิกที่เหลือได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 5-24 ปี 

ศาลพบว่าตั้งแต่ปี 2015 ตระกูลหมิงและกลุ่มอาชญากรอื่นๆ ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญาต่างๆ รวมถึงการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม กาสิโนผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด และการค้าประเวณี ซึ่งกิจกรรมการพนันและการหลอกลวงของพวกเขาสร้างรายได้มากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.5 หมื่นล้านบาท) โดยก่อนหน้านี้ มีผู้ประเมินว่า กาสิโนของแต่ละตระกูลทั้งสี่กำลังทำธุรกรรมหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐทุกปี 

นอกจากนี้ ศาลยังพบว่าตระกูลหมิงและกลุ่มอาชญากรอื่นๆ ยังมีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพนักงานศูนย์หลอกลวงหลายราย รวมถึงการยิงพนักงานในเหตุการณ์หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขากลับประเทศจีน 

อย่างไรก็ดี เดิมทีกาสิโนในเล่าไก่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฉวยโอกาสจากความต้องการเล่นการพนันของจีน ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีนและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ และในเวลาต่อมาได้พัฒนาเป็นฉากบังหน้าของการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และศูนย์หลอกลวงอีกหลายแห่งที่ทำกำไรมหาศาล 

สถานที่แห่งนี้ถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางของสิ่งที่องค์การสหประชาชาติเรียกว่า ‘การระบาดของการโกง’ ซึ่งมีชาวต่างชาติกว่า 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ถูกล่อลวงไปยังศูนย์หลอกลวงที่ทั้งขังและบังคับให้พวกเขาทำงานเป็นเวลานานด้วยการดำเนินการโกงออนไลน์ที่มุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก 

ตระกูลหมิงเคยเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรัฐฉานของเมียนมา และเคยบริหารศูนย์หลอกลวงในเมืองเล่าไก่ ซึ่งมีคนงานอย่างน้อย 10,000 คน โดยศูนย์ที่ฉาวโฉ่ที่สุดคือ ‘Crouching Tiger Villa’ หรือคฤหาสน์เสือหมอบ ที่ลือกันว่า คนงานถูกทุบตีและถูกทรมานเป็นประจำ 

เมื่อ 2 ปีก่อน กลุ่มกบฏพันธมิตรได้เปิดปฏิบัติการโจมตีขับไล่กองทัพเมียนมาออกจากพื้นที่ขนาดใหญ่ของรัฐฉาน และยึดครองเมืองเล่าไก่ ทั้งนี้ มีการสันนิษฐานว่า จีนมีอิทธิพลอย่างมากในการอนุมัติให้กลุ่มเหล่านี้ดำเนินการโจมตี 

มีรายงานว่า หมิง เสวี่ยชาง หัวหน้าตระกูลได้ฆ่าตัวตาย ส่วนสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่จีน และบางคนสารภาพด้วยความสำนึกผิด ขณะที่พนักงานหลายพันคนที่ทำงานในศูนย์หลอกลวงเหล่านี้ก็ถูกส่งตัวให้กับตำรวจจีนเช่นกัน 

จากคำตัดสินเหล่านี้สื่อให้เห็นว่า จีนกำลังส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นในการจัดการกับธุรกิจหลอกลวงตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด และแรงกดดันจากจีนยังบีบให้ไทยต้องดำเนินการกับศูนย์หลอกลวงตามแนวชายแดนที่ติดกับเมียนมาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาด้วย 

แต่ดูเหมือนว่าธุรกิจหลอกลวงเหล่านั้นจะย้ายไปดำเนินการในกัมพูชาเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะยังคงแพร่หลายในเมียนมาก็ตาม 

(Photo by AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์