รัฐบาลสิงคโปร์เสนอแก้กฎหมายเพิ่มโทษ ‘เฆี่ยนตี’ สำหรับความผิดฉ้อโกงเพื่อจัดการกับเหล่าสแกมเมอร์ “การต่อสู้กับการฉ้อโกงยังคงเป็นภารกิจสำคัญระดับชาติ จำนวนคดีฉ้อโกงและความเสียหายจากการฉ้อโกงยังคงน่ากังวล” กระทรวงมหาดไทย (MHA) ระบุเมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.)
ภายใต้ข้อเสนอแก้กฎหมายระบุว่า เหล่าสแกมเมอร์ สมาชิก และผู้ชักชวนให้เข้าร่วมขบวนการหลอกลวงจะถูกเฆี่ยนตีเป็นจำนวน 6-24 ครั้ง ส่วนผู้ล่อลวงที่ช่วยเหลือฟอกเงินจากการฉ้อโกง หรือให้ซิมการ์ดและบัตรประจำตัว ‘Singpass’ จะถูกเฆี่ยนตีตามดุลพินิจสูงสุด 12 ครั้ง
อย่างไรก็ดี การเฆี่ยนตีสแกมเมอร์ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาระหว่างการอภิปรายงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย (อ่านเพิ่มเติม : สิงคโปร์เอาจริง! เล็งใช้โทษ ‘เฆี่ยนตี’ สแกมเมอร์ที่ก่อคดีร้ายแรง)
ซุน เสว่หลิง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและการพัฒนาสังคมและครอบครัว เผยว่า “สิงคโปร์จะพิจารณาเฆี่ยนตีสแกมเมอร์ในบางกรณี โดยคำนึงถึงความเสียหายร้ายแรงที่พวกเขาก่อขึ้น”
“ปัจจุบัน การกำหนดโทษเฆี่ยนตีนั้นก็เพื่อยับยั้งผู้กระทำความผิด และผู้ที่อาจกระทำความผิดไม่ให้กระทำความผิดอีก โดยจะลงโทษให้เหมาะสมกับความผิด...ปัจจุบันมีความผิด 161 คดีที่เข้าข่ายการเฆี่ยนตี โดยมี 96 คดีที่เฆี่ยนตีตามดุลยพินิจ ขณะที่ 65 คดีเป็นการเฆี่ยนตีสถานหนัก”
— กระทรวงมหาดไทย ระบุ
นอกจากการฉ้อโกงแล้ว การเฆี่ยนตีจะถูกนำมาบังคับใช้ในคดีการโกง เช่น การฉ้อโกงแบบดั้งเดิม ภายใต้ร่างกฎหมายแก้ไขที่เสนอในประมวลกฎหมายอาญา
“นี่เป็นการยอมรับว่ายังมีคดีฉ้อโกงแบบดั้งเดิมที่ร้ายแรงซึ่งอาจสมควรได้รับการเฆี่ยนตีเป็นทางเลือกในการลงโทษ” กระทรวงมหาดไทย ระบุ
‘ยกเลิก’ เฆี่ยนตีในบางกรณี...
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอแนะในการปรับปรุงระบบการเฆี่ยนตีของประเทศให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยทางกระทรวงมหาดไทยตั้งใจที่จะยกเลิกโทษเฆี่ยนตี หรือกำหนดให้เป็นการลงโทษตามดุลพินิจแทนที่จะเป็นการบังคับสำหรับความผิด 22 คดี จากทั้งหมด 161 คดีที่กำหนดโทษเฆี่ยนตีในปัจจุบัน
อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ การลงโทษรูปแบบอื่นๆ เช่น การเฆี่ยนตีตามดุลพินิจ การจำคุก หรือการปรับเงิน จะสามารถยับยั้งและป้องปรามความเสียหายที่เกิดจากความผิดนั้นได้เพียงพอหรือไม่
“การลงโทษเฆี่ยนตีจะเปลี่ยนจากการลงโทษโดยบังคับเป็นการลงโทษตามดุลพินิจสำหรับความผิดดังนี้ เช่น การละเมิดลิขสิทธิ์ การพยายามปล้นทรัพย์ และการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะยังคงทบทวนและปรับรายการความผิดที่อาจต้องโทษเฆี่ยนตีตามความเหมาะสมเป็นระยะๆ” กระทรวงมหาดไทย ระบุ
(Photo by CHAIDEER MAHYUDDIN / AFP)


