จบลงไปแล้วเรียบร้อยทั้งสองนัดสำหรับโปรแกรมของทัพ ‘ช้างศึก’ ในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก รอบสาม ที่จะหาอีก 6 ทีมเพื่อผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในปี 2027 โดยหลังจากผ่านสี่นัดตอนนี้ทีมชาติไทยรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงของกลุ่ม D มี 9 คะแนนเท่ากับจ่าฝูงทีมชาติเติร์กเมนิสถาน แม้ลูกได้เสียจะดีกว่าแต่เรายังเป็นรองเรื่องเฮดทูเฮดที่บุกไปแพ้เขามาทำให้หลังจากนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือต้องเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดเท่านั้น
โดยจากผลงานสองนัดที่ผ่านมาในเบรกครั้งนี้ก็ต้องบอกว่า มาซาทาดะ อิชิอิ ทำได้ดีเพราะชนะทีมชาติไชนีส ไทเปได้ทั้งไปและกลับ เก็บมา 6 คะแนนเต็มแถมยิงไป 8 ประตูและเสียเพียงแค่ประตูเดียว วันนี้เราเลยจะพาไปเจาะหลังเกมทั้งสองนัดกันครับ

ใช้กองหน้าปุ๊บก็ยิงได้กระจุยปั๊บ
สำหรับปัญหากองหน้าคือเรื่องที่ทีมชาติไทยมีมาตลอด ยิ่งตอนนี้ตัวหลักหลายคนที่เป็นความหวังทยอยมาเจ็บตามๆ กันไปก็ยิ่งทำให้มีปัญหาเรื่องจบสกอร์กันมาเรื่อยๆ ทางด้าน มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือของทีมก็โดนวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าถ้าขาดกองหน้าจริงๆ ทำไมเขาถึงไม่เคยเรียกเพชฌฆาตมือเก๋าอย่าง ‘เจ้ามุ้ย’ ธีรศิลป์ แดงดา มาใช้งานเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิ่งในนัดแรกที่เจอไชนีส ไทเปก็ยิ่งทำให้แฟนบอลตั้งคำถามกันไปอีกเมื่อเจ้าตัวไม่เลือกใช้ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าธรรมชาติคนเดียวในชุดนี้ลงสนามเลยแม้กระทั่งตัวสำรอง แต่กลับเลือกใช้ เบนจามิน เดวิส เล่นเป็นตัว False 9 แทน แต่ก็ยังดีที่ผ่านพ้นมาได้จากชัยชนะด้วยสกอร์ 2-0 จนมาถึงนัดล่าสุดที่เพิ่งจบไปเขากลับมาเลือกใช้ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าจากการท่าเรือ เอฟซี ลงสนามเป็นตัวจริงและผลปรากฎว่าก็ไม่ผิดหวังเมื่อ ‘เจ้าต้น’ ระเบิดฟอร์มสุดยอด กดแฮตทริกเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทีมชนะไปแบบถล่มทลาย 6-1

อีกครั้งที่ ‘อิชิอิ เซนเซย์’ สยบทุกคำวิจารณ์
อย่างที่บอกไปว่าแม้ มาซาทาดะ อิชิอิ จะโดนวิจารณ์ โดนค่อนขอดมากมายแค่ไหนแต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาเอาผลงานในสนามมาเป็นคำตอบที่สามารถสยบทุกคำวิจารณ์ได้อย่างสำเร็จเด็ดขาด เริ่มตั้งแต่เรื่องประเด็นแรกที่เราเขียนถึงไปก่อนหน้าคือปัญหา ‘กองหน้า’ ที่มีตัวธรรมชาติแค่คนเดียว แม้นัดแรกจะทำการทดลองระบบที่ดูแล้วจะไม่ค่อยเข้าท่าแต่ในนัดที่สองเขาก็ไม่ดื้อดึงทำแบบเดิมอีกเพราะคงเห็นแล้วว่ามันไม่เวิร์คและรู้อยู่แล้วว่าฝั่งไต้หวันต้องมาเปิดเกมแลกแน่นอน เนื่องจากต้องการแต้มอิชิอิก็เลยเลือกใช้แผนการเล่นกองหน้าปกติ เล่นรับรอสวน ผลปรากฎคือ ‘เจ้าต้น’ ระเบิดฟอร์มซัดแฮตทริกสยบไปได้หนึ่งปัญหา
เรื่องต่อมาคือการเรียกตัวมาทดแทน โจนาธาร เข็มดี และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่บาดเจ็บจากแมตช์แรก โดยตัวที่เสียไปมี 1 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กับ 1 ปีกขวา แต่กุนซือชาวญี่ปุ่นตัดสินใจเรียก ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ กับ สันติภาพ จันทร์หง่อม มาแทน คือเรียกกองหลังมาสองคนเลย เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 1 แบ็คซ้าย-ขวา 1 แน่นอนแฟนบอลก็มีคำถามกันมากมายในโลกโซเชียลว่านี่ขนาดปีกเจ็บแล้วเขายังไม่เรียกปีกหรือกองหน้ามาทดแทน ดันไปเรียกกองหลังมาสองคนเสียอย่างนั้น ส่วนวิธีการแก้ไขเขาจัดการเอา เสกสรรค์ ราตรี ดาวรุ่งที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักลงเล่นปีกขวาแทนซึ่งทำได้ดีด้วยการยิงไป 1 ประตู ในขณะที่ สันติภาพ แม้จะไม่ได้ลงตัวจริงเป็นแค่ตัวสำรองแต่ก็ลงมามีส่วนร่วมกับสองประตูที่ไทยทำได้ สุดท้ายเซนเซย์สยบไปได้อีกหนึ่งปัญหา
หลังจากนี้ต้องโฟกัสกันต่อกับโปรแกรมอีกสองนัดที่เหลือ ตอนนี้ ‘ช้างศึก’ มีแต้มเท่าเติร์กเมนิสถานที่ 9 คะแนน ลูกได้เสียดีกว่า แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง ดังนั้นนัดต่อไปกับศรีลังกาในเดือนพฤศจิกายนเราต้องบุกไปชนะเท่านั้น และถ้าเติร์กเมนิสถานก็ชนะเหมือนกันเกมในบ้านสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้าจะเป็นนัดชี้ชะตาว่าใครจะได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ติดตามและเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยกันต่อไปนะครับ



