พรีเมียร์ลีก 2025/26 หลังจบสัปดาห์ที่แปด แน่นอนว่าไฮไลต์อยู่ที่ศึก ‘แดงเดือด’ นัดแรกซึ่งเป็นทางด้าน ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเฉือน ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 2-1 ทำให้ทีมแชมป์เก่าแพ้รวด 4 นัดติดในทุกรายการ ในขณะที่คู่แข่งแย่งแชมป์ของพวกเขา ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ยังชนะต่อเนื่องนำจ่าฝูงต่ออีกหนึ่งอาทิตย์

‘ผี’ บุกคว่ำ ‘หงส์’ ถึงแอนฟิลด์ในแดงเดือดยกแรก
ไฮไลต์สัปดาห์ที่แปดอยู่ที่เกม ‘แดงเดือด’ ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทางฝั่งเจ้าบ้านตอนนี้ฟอร์มย่ำแย่สุดๆ แพ้มาสามนัดติดต่อกันแล้ว แฟนบอลก็ยังหวังว่าหลังกลับมาจากเบรกทีมชาติพวกเขาจะกลับมาอยู่ในร่องในรอยได้ในขณะที่ทีมเยือนก็หวังจะคว้าชัยชนะติดต่อกันเป็นนัดที่สองให้ได้เหมือนกัน
ผลสกอร์ออกมาเป็นฝั่งเจ้าบ้าน ‘หงส์แดง’ ที่ยังฟอร์มพังต่อไป หลังเปิดบ้านครองเกมได้มากกว่าแต่ก็ยังต้องพบกับความพ่ายแพ้โดยพวกเขาโดนออกนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกมจาก ไบรอัน เอ็มเบอโม่ แม้จะมาไล่ตามตีเสมอได้จาก โคดี้ กัคโป แต่สุดท้ายก็มาเสียง่ายๆ จากลูกโหม่งของ แฮรี่ แมคไกวร์ ที่ขึ้นโล่งๆ ไม่มีใครประกบแม้แต่คนเดียว โดยชัยชนะครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีของทัพ ‘ปีศาจแดง’ เพราะเป็นครั้งแรกในรอบเก้าปีที่พวกเขาบุกมาชนะได้ถึงแอนฟิลด์ซึ่งน่าจะเป็นการเรียกความมั่นใจได้เป็นอย่างดีเพื่อที่จะสานต่อฟอร์มยอดเยี่ยมต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนฝั่งลิเวอร์พูลต้องบอกว่าตอนนี้เต็มไปด้วยปัญหาเพราะนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาแม้จะมีนัดที่คว้าชัยชนะกันมาได้แต่ต้องบอกตามตรงว่าพวกเขายังไม่เจอฟอร์มที่เหมือนกับซีซันที่แล้วเลยด้วยซ้ำ มีเพียงแค่ความโชคดีที่ยิงคู่แข่งได้ในนาทีบาป นั่นทำให้เริ่มเกิดคำถามขึ้นกับตัวเฮดโค้ช อาร์์เน่อ สล็อต ที่ยังทำอะไรแบบเดิมๆ แต่หวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นทาง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่ฟอร์มดร็อปมาตั้งแต่ก่อนเบรกทีมชาติแต่ก็ยังได้ลงจนเกือบจบเกมแถมยังไม่มีทีท่าว่าจะถูกดร็อปด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับคำถามที่ว่า ฮูโก้ เอกิติเก้ ฟอร์มดีมาตลอดแต่ดันถูกดร็อปเป็นตัวสำรองเพราะต้องหลีกทางให้ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่ยังยิงประตูในลีกไม่ได้ ก็คงต้องมาดูว่าบอลยุโรปกลางสัปดาห์พวกเขาจะเรียกสติกลับมาได้ไหม

‘ปืน’ ยังแกร่งเอาตัวรอดได้อีกนัด พร้อมนำจ่าฝูงต่อ
ส่วนคู่แข่งแย่งแชมป์ปีนี้ ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ก็ยังโชว์ฟอร์มแข็งแกร่งต่อไป เอาตัวรอดได้อีกหนึ่งนัดกับเกม ‘ลอนดอน ดาร์บี้’ ที่บุกไปเฉือนชนะฟูแล่มได้ 1-0 จากประตูชัยของ เลอันโดร ทรอสซาร์ คว้าสามคะแนนสำคัญเก็บเพิ่มเป็น 19 คะแนน นำจ่าฝูงต่อไปได้อีกหนึ่งสัปดาห์โดยมีแต้มห่างจากอันดับสองคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3 คะแนน
โดยประตูที่พวกเขาได้ยังคงมาจากลูกทีเด็ดสูตรลับสำคัญของพวกเขาอย่าง ‘ลูกเซ็ตพีซ’ ซึ่งเกมนี้เป็นลูกเตะมุมที่ กาเบรียล มากัลเญส โหม่งเช็ดไปให้ ทรอสซาร์ ตีเข่าจ่อๆ เข้าไปตุงตาข่าย นั่นทำให้พวกเขาได้ประตูจากลูกเตะมุมเป็นครั้งที่ 7 แล้วในซีซันนี้ สำหรับรูปเกมโดยรวมพวกเขาก็ทำได้ดีกว่าเจ้าบ้านทั้งการครองบอลที่มากกว่า โอกาสเข้าทำประตูที่มากกว่า จะเหลือจริงๆ ก็แค่ความเฉียบคมที่ต้องเพิ่มให้มากกว่านี้เพื่อที่จะรักษาโมเมนตั้มดีๆ แบบนี้ไว้ได้ต่อไป

‘เรือ’ เริ่มคัมแบ็ก ส่วน ‘สิงห์’ แม้ชนะแต่ยังคงโดนใบแดงต่อเนื่อง
ส่วนอีกทีมที่ตอนนี้เริ่มกลับมาแล้วแบบเงียบๆ คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่นับตั้งแต่แพ้สองนัดรวดกับ สเปอร์ และ ไบรท์ตัน ช่วงต้นฤดูกาลหลังจากนั้นพวกเขายังไม่แพ้ใครมาแล้ว 8 นัดในทุกรายการโดยเป็นการชนะถึง 6 นัด และเสมอไป 2 นัด ทำให้ตอนนี้เผลอแป๊บเดียวทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ขึ้นมาอยู่อันดับสองของตารางแล้ว ต้องมารอดูกันต่อไปว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ ลำนี้จะแล่นฉิวแบบนี้ไปเรื่อยๆ ได้ไกลแค่ไหน
ปิดท้ายที่อีกหนึ่งทีมจากลอนดอน เชลซี ที่ก็ยังสานฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้ต่อไปหลังจากที่ก่อนเบรกทีมชาติพวกเขาเปิดบ้านชนะลิเวอร์พูลได้ 2-1 มาในสัปดาห์นี้พวกเขาสามารถบุกไปถล่ม น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้ยับเยิน 3-0 จนเป็นเหตุให้ อังเก้ ปอสเตโคกลู กระเด็นตกจากเก้าอี้ทันที แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือพวกเขาโดนใบแดงอีกแล้วซึ่งเป็นเกมที่ 5 จาก 6 นัดหลังสุด แม้ว่าจะชนะได้แต่ถ้ายังไม่หยุดสถิติแย่ๆ บางทีการชนะก็อาจจะไม่มีความหมายอะไรถ้ายังเสียตัวผู้เล่นไปเรื่อยๆ ทุกนัดแบบนี้



