กรมอนามัย เปิดข้อมูลไขความกระจ่าง 6 ความเชื่อที่ผิด เกี่ยวกับการดื่มนมวัว

11 พ.ย. 2568 - 01:10

  • กรมอนามัย ไขความกระจ่าง 6 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดื่มนมวัว

  • เปิดข้อมูลเทียบประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการของนมจากแหล่งต่างๆ

กรมอนามัย เปิดข้อมูลไขความกระจ่าง 6 ความเชื่อที่ผิด เกี่ยวกับการดื่มนมวัว

เพจเฟซบุ๊ก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (10 พฤศจิกายน 2568) ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความอธิบายความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดื่มนมวัว พร้อมอธิบายข้อเท็จจริง 6 ความเชื่อที่ผิด เกี่ยวกับการดื่มนมวัว โดยระบุว่า...

- อาการท้องอืด และท้องเสียจากการดื่มนม เกิดจากการแพ้นม
ความจริง อาการท้องอืดและท้องเสียจากการดื่มนมมิใช่การแพ้ (allergy) แต่เกิดจากร่างกายหยุดสร้างเอ็มไซม์แล็กเทส ทำให้ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแล็กโทสในน้ำนมได้ ส่งผลให้มีอาการ ท้องอืด ท้องเสีย ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว โดยแนะนำให้ดื่มนม 1 แก้ว ต่อ 1-2 สัปดาห์ และไม่ควรดื่มนมตอนท้องว่าง ควรดื่มนมหลังอาหารหรือเลือกดื่มนมที่ปราศจากแลคโตส (lactose-free)

- นมผงมีคุณภาพสู้น้ำนมโคสดไม่ได้
ความจริง นมผงมีคุณค่าโภชนาการด้อยกว่าน้ำนมสดเพียงเล็กน้อย จากการที่โปรตีนและวิตามินบางส่วนในน้ำนมสดสลายตัวไปกับความร้อน ซึ่งในทางโภชนาการนับว่าไม่รุนแรง เพราะสารอาหารหลักที่คาดหวังจากการดื่มน้ำนมยังคงอยู่ และที่สูญเสียไปก็สามารถทดแทนด้วยการเสริมลงไปได้

- ดื่มนมข้าว นมถั่ว นมนัท ทดแทนนมโคได้ 
ความจริง คุณภาพของโปรตีนในข้าวและถั่วซึ่งเป็นโปรตีนจากพืช มีคุณภาพด้อยกว่าโปรตีนในน้ำนมซึ่งเป็นโปรตีนจากสัตว์ ดังนั้นผลิตภัณฑ์นมข้าว นมถั่ว และนมนัทที่อาจผลิตขึ้นมาให้มีปริมาณโปรตีนเท่าน้ำนมโค จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายที่ด้อยกว่า เนื่องจากมีกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบถ้วน

- การดื่มนมเป็นประจำทำให้ดื้อยาปฏิชีวนะจากยาปฏิชีวนะที่ปนเปื้อนในน้ำนมโค
ความจริง เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว อาจเป็นความจริง เพราะเกษตรกรบางราย ใช้ยาปฏิชีวนะผสมกับอาหารแม่โคเพื่อป้องกันโรคเต้านมอักเสบ (mastitie) แต่ปัจจุบันการเลี้ยงดูแบบปล่อยทุ่ง ดูแลด้านโภชนาการและสุขภาพของแม่โคตามแนวทางนมพรีเมียมของ อย. และเฝ้าระวังคุณภาพน้ำนมดิบและผลิตภัณฑ์ ทำให้ปัญหาดังกล่าวไม่เกิดขึ้นแล้ว

- ดื่มนมโคแล้วเกิดมะเร็ง
ความจริง ผลวิเคราะห์เอกสารงานวิจัยอย่างเป็นระบบ (systematic reviews) ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์ต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไต มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งต่อมไทรอยด์ และ มะเร็งเม็ดโลหิตขาว การดื่มนมและผลิตภัณฑ์นม ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งทวารหนัก

- ดื่มนมกับเนื้อสัตว์ไม่ได้
ความจริง การห้ามกินเนื้อสัตว์ร่วมกับน้ำนมเป็นเหตุผลด้านศาสนามากกว่าอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากการฆ่าลูกโคตัวผู้ที่เพิ่งคลอดตามเเนวปฏิบัติของฟาร์มโคนม ทำให้เกรงว่าจะนำเนื้อของลูกโคไปบริโภคพร้อมกับน้ำนมที่ควรจะเป็นอาหารของมัน ซึ่งเป็นข้อห้ามตามความเชื่อในศาสนายิว มิได้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านอาหาร

The-Department-of-Health-clarifies-6-misconceptions-about-drinking-cow-milk-photo01.jpg

เทียบคุณประโยชน์-คุณค่าทางโภชนาการของนมจากแหล่งต่างๆ

แหล่งของนม มาจากหลายแหล่ง ได้แก่ นมจากสัตว์ เช่น นมวัว นมควาย นมแพะ นมจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง นมถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เช่น นมอัลมอนด์ นมพิสตาชิโอ นมแมคคาเดเมีย ฯลฯ

แหล่งของนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่างกัน โดยเปรียบเทียบ นมวัว นมแพะ นมควาย นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง ปริมาณ 200 มล.คุณค่าทางโภชนาการต่างกัน ดังนี้

พลังงาน (กิโลแคลอรี) นมวัว 124 ,นมแพะ 132 ,นมควาย 198 ,นมอัลมอนด์ 27 ,นมถั่วเหลือง 68.4

โปรตีน (กรัม) นมวัว 6.6 ,นมแพะ 6.8 ,นมควาย 8 ,นมอัลมอนด์ 0.72 ,นมถั่วเหลือง 6.4

แคลเซียม (มิลลิกรัม) นมวัว 224 ,นมแพะ 236 ,นมควาย 382 ,นมอัลมอนด์ 331.2 ,นมถั่วเหลือง 181.8

ฟอสฟอรัส (มิลลิกรัม) นมวัว 182 ,นมแพะ 200.8 ,นมควาย 370 ,นมอัลมอนด์ 16.2 ,นมถั่วเหลือง 124.2

ไขมัน (กรัม) นมวัว 6.6 ,นมแพะ 7.8 ,นมควาย 15 ,นมอัลมอนด์ 1.7 ,นมถั่วเหลือง 3.4

รู้หรือไม่?นมจากพืชบางชนิดจะมีแคลเซียมสูงกว่านมจากสัตว์ แต่ร่างกายอาจจะดูดซึมแคลเซียมได้น้อยกว่า เนื่องจากมีสารไฟเตต (Phytate) ที่ขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม นมพืชมีโปรตีน รวมทั้งกรดอะมิโนที่จำเป็นน้อยกว่านมจากสัตว์

The-Department-of-Health-clarifies-6-misconceptions-about-drinking-cow-milk-photo02.jpg

ข้อมูลจาก: กรมอนามัย สำนักโภชนาการ ร่วมกับ FAO และ USDA

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์