ผลสำรวจพบชาวยุโรป 47% หันมาเลือกซื้ออาหารแช่แข็งช่วยลด Food Waste

18 ส.ค. 2568 - 04:51

  • รู้หรือไม่? ขยะอาหาร (Food Waste) มีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 8-10% ของโลก มากกว่าภาคการบินทั้งโลกถึง 4 เท่า

  • เมื่อของเย็นกลายเป็นคำตอบของความยั่งยืน ชาวยุโรปหันซื้ออาหารแช่แข็งเพราะช่วยลดขยะอาหาร พร้อมเลือกตู้แช่ที่ลดพลังงานช่วยโลก

ผลสำรวจพบชาวยุโรป 47% หันมาเลือกซื้ออาหารแช่แข็งช่วยลด Food Waste

ในขณะที่ผู้คนทั่วโลกต่างพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสนใจได้เกิดขึ้นในซูเปอร์มาร์เก็ตของยุโรป นั่นคือการเลือกซื้อ “อาหารแช่แข็ง” ตัวเลือกเย็นๆ ที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรงบนเส้นทางสู่ความยั่งยืน

อาหารแช่แข็ง ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นตัวเลือกสำรองในวันที่ไม่มีเวลา ทว่า กลับถูกยกระดับให้เป็น “เมนูฮีโร่” ที่ช่วยลดขยะอาหาร (Food Waste) ลดการใช้ทรัพยากร และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขยะอาหาร คือปัญหาโลกร้อนที่หลายคนมองข้าม

องค์การผู้บริโภคแห่งยุโรประบุว่า ในแต่ละปีประเทศในสหภาพยุโรปสร้างขยะอาหาร (Food Waste) รวมกันมากถึง 59 ล้านตัน ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการสูญเสียอาหาร แต่ยังหมายถึงการสูญเสียทรัพยากรในการผลิต ทั้งน้ำ พลังงาน แรงงาน พื้นที่เพาะปลูก และบรรจุภัณฑ์ ที่ต้องจบลงด้วยการถูกฝังกลบ และที่สำคัญคือ อาหารที่เน่าเสีย ยังปล่อย “ก๊าซมีเทน” (Methane) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่รุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึงหลายเท่า ส่งผลโดยตรงต่อการเร่งภาวะโลกร้อน

ในสหราชอาณาจักรเพียงประเทศเดียว ช่วงปี 2021–2022 ขยะอาหารปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 18 ล้านตัน CO₂e

ข้อมูลจากองค์กรการกุศลด้านอาหาร FareShare ระบุว่า การแช่แข็งอาหารสามารถยืดอายุการเก็บรักษา ลดการเน่าเสีย และช่วยกระจายอาหารส่วนเกินไปยังผู้ที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 ผลสำรวจ Frozen in Focus
ผลสำรวจ Frozen in Focus

เมื่อของเย็นกลายเป็นคำตอบของความยั่งยืน

ผลสำรวจจากรายงาน Frozen in Focus 2025 ของ Nomad Foods บริษัทอาหารแช่แข็งรายใหญ่ที่สุดของยุโรป เผยว่า 47% ของผู้บริโภคในยุโรป เลือกซื้ออาหารแช่แข็งเพราะช่วยลดขยะอาหาร โดยมีตัวเลขที่สูงถึง 60% ในสหราชอาณาจักร

ประเทศอื่นๆ เองก็แสดงแนวโน้มเช่นเดียวกัน อาทิ

  • อิตาลี 50%
  • ฝรั่งเศส 49%
  • เยอรมนี 44%
  • สวีเดน 43%

นอกจากนี้ 39% ของผู้บริโภคยุโรป เห็นว่าอาหารแช่แข็งช่วยให้สามารถใช้ผลผลิตตามฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี ลดความจำเป็นในการนำเข้าสินค้า และลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากการขนส่งอาหารระยะไกล ทั้งนี้ ผลสำรวจเผยว่าตู้แช่แข็งและอาหารแช่แข็งที่เก็บรักษาไว้จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น เมื่ออาหารถูกทิ้ง ไม่เพียงแต่ตัวอาหารเท่านั้นที่สูญเสียไป แต่ยังรวมถึงทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตและการขนส่งด้วย ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิง น้ำ ที่ดิน แรงงาน ปุ๋ย และบรรจุภัณฑ์

sustainability-europeans choose frozen foods to reduce food waste-SPACEBAR-Photo02.jpg

‘ตู้แช่แข็ง’ พื้นที่เล็กๆ ที่เปลี่ยนโลกได้

รายงานยังระบุว่า 29% ของผู้บริโภคใช้ตู้แช่แข็งมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และกว่า 59% ยืนยันว่า “ไม่สามารถขาดตู้แช่ได้อีกแล้ว” ขณะที่ 44% มองว่าตู้แช่แข็งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มักถูกมองข้ามทั้งที่มีศักยภาพสูงในการช่วยวางแผนมื้ออาหารและลดของเสียในครัว

โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ กลุ่มอายุ 18–34 ปี มากถึง 41% ต้องการพื้นที่แช่แข็งที่มากขึ้น เพราะมองว่าอาหารแช่แข็งช่วยให้จัดการวัตถุดิบได้ดีและลดการทิ้งอาหารได้จริง

เทคโนโลยีเปลี่ยนอาหารแช่แข็งให้ “ไม่แพ้อาหารสด”

ข้อครหาว่าอาหารแช่แข็งด้อยคุณค่าทางโภชนาการกำลังถูกท้าทาย เมื่อผลสำรวจพบว่า 63% ของผู้บริโภค ยอมรับว่าโภชนาการของอาหารแช่แข็งเทียบเท่ากับอาหารสด

พร้อมกันนั้นเทคโนโลยีการถนอมอาหารแบบใหม่ การจัดการอุณหภูมิ และการบรรจุแบบทันสมัย ทำให้อาหารแช่แข็งวันนี้ไม่เพียงแต่เก็บได้นาน แต่ยังอร่อย สด และปลอดภัยต่อสุขภาพ นอกจากนี้ โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok ยังมีบทบาทในการจุดประกายให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากอาหารแช่แข็งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถนอมอาหาร การจัดเมนู หรือแนวคิดการไม่ทิ้งของเหลือ

แช่แข็งอย่างชาญฉลาด = ลดพลังงาน ลดโลกร้อน

แม้ว่าการใช้ตู้แช่แข็งจะมีข้อกังวลด้านการใช้พลังงาน แต่ Nomad Foods และองค์กรพันธมิตรในโครงการ Move to –15°C Coalition ได้เสนอให้ เปลี่ยนอุณหภูมิแช่แข็งจาก –18°C เป็น –15°C เพื่อลดการใช้พลังงานลงราว 10–11% โดยไม่กระทบคุณภาพของอาหาร

ความร่วมมือนี้ซึ่งเปิดตัวในงาน COP28 ปี 2023 ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรขนาดใหญ่ เช่น Maersk, Iceland, และ Morrisons และถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำให้ “ความเย็น” กลายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

sustainability-europeans choose frozen foods to reduce food waste-SPACEBAR-Photo03.jpg

จากช่องแช่แข็งในครัวสู่แนวหน้าของความยั่งยืน

อาหารแช่แข็งอาจไม่ได้เป็นคำตอบเดียวของระบบอาหารที่ยั่งยืน แต่กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า “การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ” อย่างการเลือกสินค้าแช่แข็ง แทนของสดที่หมดอายุง่าย ก็สามารถลดการทิ้ง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่ากว่า

“การแช่แข็งอาหารไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวก แต่มันคือเครื่องมือที่ทรงพลังในการรักษาความสด ใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า และสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน”


David Pettet หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืน Nomad Foods ระบุ

โลกกำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ช่องแช่แข็งในบ้านของเราอาจเป็นที่ที่เริ่มต้น “การเปลี่ยนแปลง” ได้ง่ายที่สุด หากเรากินอย่างรับผิดชอบ…อาหารที่แช่ไว้อาจกลายเป็นอาหารที่ “ไม่ถูกทิ้ง” และไม่ทิ้งภาระไว้ให้โลกใบนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์