สถานการณ์ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังแม่น้ำยมล้นตลิ่ง ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดสุโขทัย ได้ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำยม พบว่าลำห้วยสาขาของแม่น้ำยมเริ่มล้นตลิ่ง บริเวณ อ.ศรีสัชนาลัย และเริ่มส่งผลกระทบในพื้นที่ ต.แม่สิน ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และติดตามข่าวสารจากทางราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ปภ. จึงได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS True และ NT ส่งข้อความแจ้งเตือนพื้นที่ ต.แม่สิน ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ทั้งนี้ สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” เพิ่มเพื่อนที่ Line ID @1784DDPM หรือโทรสายด่วนนิรภัย (ปภ.) 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

5 เหตุผลทำคนสุโขทัยระทม ลุ่มน้ำยมจมทุกปี
ทางด้าน ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat อธิบายสาเหตุหลักที่ทำให้สุโขทัยและลุ่มน้ำยมน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี โดยระบุ 5 สาเหตุดังนี้
1. ปริมาณน้ำฝน
หลังจากพายุวิภาได้เคลื่อนที่พัดผ่านประเทศไทยไปแล้ว แต่ภาคเหนือตอนบนยังมีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพัดผ่านอยู่ และในบรรยากาศยังมีความชื้นอยู่ค่อนข้างมาก เมื่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดขึ้นมาจากอ่าวไทยและทะเลอันดามันพัดเข้ามาปะทะทำให้มีฝนตกหนักอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ทุกปีช่วงฤดูฝนจะมีฝนที่ตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำยมในจังหวัดแพร่และจังหวัดอื่นๆ ทางตอนบนของแม่น้ำยม จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่ น้ำยมมีจำนวนมากและไหลลงมาท่วมพื้นที่ลุ่ม

2.ภูมิประเทศ
ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของจังหวัดสุโขทัยเป็นที่ราบลุ่มแอ่งกระทะ ซึ่งเป็นแอ่งที่รองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบน ด้านทิศเหนือของจังหวัดเป็นที่ราบสูง มีภูเขายาวเป็นพืดพาดมาทางทิศตะวันตก พื้นที่ตอนกลางจะเป็นที่ราบแอ่งกระ ทะ ทำให้มวลน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียงไหลมารวมกันใน จ.สุโขทัย ขณะที่มีแม่น้ำยมไหลผ่านกลางจังหวัด
3. แม่น้ำยมไม่มีเขื่อนเก็บกักน้ำ
โดยแม่น้ำยมเป็นแม่น้ำแห่งเดียวในพื้นที่ภาคเหนือที่ไม่มีเขื่อนขนาดใหญ่กั้น หากมีฝนตกหนักในปริมาณมวลน้ำมหาศาลจะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัยซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.แพร่ และ จ.พะเยา

4.พนังกั้นน้ำ
พนังกั้นน้ำริมแม่น้ำยมที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม มักจะเกิดการชำรุดหรือพังทลายลงได้ง่ายเมื่อเจอกับปริมาณน้ำที่มากและไหลเชี่ยว ทำให้ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้อย่างเต็มที่
5.ประตูระบายน้ำ
จ.สุโขทัยมีประตูระบายน้ำที่สำคัญ คือที่บ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก และเป็นปัจจัยหลักที่จะชี้วัดว่าน้ำจะท่วมตัวเมืองสุโขทัยหรือไม่ โดยประตูน้ำดังกล่าวสามารถกั้นและกักเก็บน้ำได้ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำหน้าที่กั้นแม่น้ำยมเพื่อผันน้ำออกไปตามคลองต่างๆ ต้องลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองให้เหลือไม่เกิน 700 ลบ.ม/วินาที หากทำไม่ได้จะทำให้ตัวเมืองเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ทั้งนี้ ข้อมูลหรือเส้นทางของพายุฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศเบื้องต้น