พบสาร PFAS เกินค่ามาตรฐาน 8,000 เท่า เขย่าเป้าหมายความยั่งยืนสนามบินอังกฤษ

15 ส.ค. 2568 - 07:20

  • ตรวจพบสารเคมีอมตะ หรือ PFAS ในระดับสูงบนพื้นที่สนามบิน 17 แห่งทั่วอังกฤษ บางแห่งพบสูงเกินค่ามาตรฐานถึง 8,000 เท่า

พบสาร PFAS เกินค่ามาตรฐาน 8,000 เท่า เขย่าเป้าหมายความยั่งยืนสนามบินอังกฤษ

การพัฒนาเศรษฐกิจในโลกยุคใหม่มักมากับต้นทุนที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะเมื่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทิ้งร่องรอยของมลพิษไว้เบื้องหลัง ความสะดวกสบายที่มนุษย์ได้รับอาจต้องแลกมาด้วยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ยากจะเยียวยา หนึ่งในตัวอย่างล่าสุดคือกรณีการตรวจพบ “สารเคมีอมตะ” หรือ PFAS (Per-and Polyfluoroalkyl Substances) ในระดับสูงมากบนพื้นที่สนามบิน 17 แห่งทั่วอังกฤษ ซึ่งกำลังกลายเป็นประเด็นร้อนทางสิ่งแวดล้อมและท้าทายหลักการของความยั่งยืนในระดับโครงสร้าง

PFAS สารเคมีที่ไม่มีวันหายไป

PFAS เป็นกลุ่มสารเคมีมากกว่า 10,000 ชนิดที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กระทะเคลือบสารกันติด เสื้อผ้ากันน้ำ และโฟมดับเพลิง โดยจุดเด่นของมันคือคุณสมบัติที่ไม่ย่อยสลายง่าย แต่ในทางกลับกัน ความทนทานนี้เองที่ทำให้ PFAS กลายเป็นภัยเงียบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมนุษย์ เพราะมันสามารถสะสมในร่างกายสัตว์และคนได้ในระยะยาว

รายงานล่าสุดจากการเปิดเผยของ The Guardian และ Ends Report ซึ่งอ้างอิงเอกสารภายในจากหน่วยงานสิ่งแวดล้อมของอังกฤษ (Environment Agency) พบว่า สนามบิน London Luton มีระดับ PFAS ในน้ำใต้ดินสูงถึง 36,084 นาโนกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่าความปลอดภัยที่สหภาพยุโรปเสนอไว้ คือ 4.4 นาโนกรัมต่อลิตร เท่ากับว่าสนามบินแห่งนี้มีระดับ PFAS สูงกว่าค่าแนะนำถึงกว่า 8,000 เท่า

pfas-found-8000-times-over-limit-threatening-uk-airport-sustainability-SPACEBAR-Photo01.jpg

สารเคมีเหล่านี้กำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน?

สิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่แค่ปริมาณของ PFAS แต่คือทิศทางการแพร่กระจายจากแหล่งกำเนิดสู่สิ่งแวดล้อมโดยรอบ รายงานระบุว่าสนามบิน 4 แห่งจากทั้งหมดตั้งอยู่ในพื้นที่คุ้มครองแหล่งน้ำดื่ม (Drinking Water Safeguard Zones) ซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวที่ต้องการการควบคุมมลพิษเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น ที่สนามบิน Farnborough ในแคว้นแฮมป์เชียร์ มีการตรวจพบ PFOS (หนึ่งใน PFAS ที่เป็นสารก่อมะเร็ง) สูงถึง 180 นาโนกรัมต่อลิตร ในขณะที่เกณฑ์แนะนำของผู้ตรวจการน้ำดื่มในสหราชอาณาจักรคือ 100 นาโนกรัมต่อลิตรสำหรับ PFAS ทั้งหมด

แม้ว่าการตรวจพบ PFAS ในดินหรือน้ำผิวดินไม่ได้แปลว่าแหล่งน้ำดื่มจะปนเปื้อนทันที แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมชี้ว่า หากมีเส้นทางการเคลื่อนย้ายจากแหล่งมลพิษสู่ระบบน้ำธรรมชาติ เช่น การรั่วไหลผ่านชั้นดินสู่ชั้นหินอุ้มน้ำ หรือการไหลบ่าระหว่างฤดูฝน ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในระยะยาวโดยไม่รู้ตัว

ความรับผิดชอบของอุตสาหกรรม และช่องว่างของนโยบาย

ตัวแทนจากสนามบิน London Luton ชี้แจงว่าการเก็บข้อมูลเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจคัดกรองเบื้องต้น และยังไม่สามารถสรุปได้อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การที่ PFAS ยังคงไม่มีเกณฑ์ควบคุมที่ชัดเจนในสหราชอาณาจักร ถือเป็นข้อกังวลใหญ่ด้านนโยบาย ซึ่งอาจทำให้เกิด “พื้นที่สีเทา” ระหว่างอุตสาหกรรมกับสิ่งแวดล้อม

แม้ว่าภาคสนามบินและรัฐบาลเริ่มมีการดำเนินการ เช่น การลงทุนราว 5 ล้านปอนด์เพื่อศึกษาปัญหา และการทบทวนกฎระเบียบทางเคมี (UK REACH) เพื่อเพิ่มมาตรการคุ้มครอง แต่ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ยังห่างไกลจากสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นเมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงในระยะยาว

ก่อนหน้านี้เคยบทเรียนจากต่างประเทศที่เกาะเจอร์ซีย์มีรายงานว่าประชาชนที่บริโภคน้ำจากแหล่งส่วนตัวที่ปนเปื้อน PFAS จากสนามบินในพื้นที่ มีระดับสารเหล่านี้ในเลือดสูงมากจนแพทย์ต้องแนะนำให้บริจาคเลือดเพื่อช่วยลดปริมาณสารพิษในร่างกาย ขณะที่ในฝรั่งเศส บางภูมิภาคต้องปิดแหล่งน้ำดื่มทั้งระบบหลังพบการปนเปื้อน PFAS จากสนามบิน

กรณีเหล่านี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ และชี้ให้เห็นว่าหากไม่มีการจัดการเชิงป้องกันที่จริงจัง ปัญหาที่วันนี้ยังอยู่ใต้ดิน อาจกลายเป็นวิกฤติระดับชาติในอนาคตอันใกล้

pfas-found-8000-times-over-limit-threatening-uk-airport-sustainability-SPACEBAR-Photo02.jpg

PFAS กับความยั่งยืน ทางแยกที่ต้องเลือก

เมื่อพิจารณาภายใต้กรอบความยั่งยืน สถานการณ์นี้สะท้อนความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนอย่างชัดเจน มันบ่งบอกถึงความล้มเหลวในการประยุกต์ใช้แนวทาง Precautionary Principle หรือการจัดการความเสี่ยงเชิงป้องกันซึ่งเป็นหัวใจของแนวคิดความยั่งยืน

สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นบทเรียนว่า “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงคำขวัญ หรือพันธกิจที่อยู่ในรายงานประจำปีขององค์กร หากแต่คือกระบวนการที่ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริง และลงมือแก้ปัญหาจากรากฐาน

อนาคตที่ไม่ฝากไว้กับสารเคมี

PFAS อาจเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของสารเคมีที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อความสะดวกในระยะสั้น แต่สร้างผลกระทบระยะยาวที่ยากจะแก้ไข การจัดการกับปัญหา PFAS ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล นักวิทยาศาสตร์ และประชาชน เพื่อกำหนดทิศทางใหม่ของการพัฒนา ทิศทางที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ในฐานะต้นทุน แต่ในฐานะทุนทรัพยากรที่ไม่สามารถถูกทำลายได้อย่างไม่รับผิดชอบ

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของสนามบินในอังกฤษ แต่เป็นบทสะท้อนที่ทั่วโลกควรรับฟัง หากเรายังต้องการอนาคตที่มีน้ำสะอาด ดินบริสุทธิ์ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์