บรรยากาศในช่วงค่ำคืนของวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ในโครงการเคเคปาร์ค จังหวัดเมียวดี พื้นที่อิทธิพลของทหาร BGF ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นข้ามแดนมาถึงฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และสามารถมองด้วยสายตาเปล่า เห็นแสงประกายไฟ และควันสีขาวอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านบริเวณบ้านแม่กุท่าซุงใหม่ ต่างตกใจ แม้ว่าทางผู้นำท้องถิ่นจะประกาศเสียงตามสายล่วงหน้าว่า ทางทหารเมียนมาจะมีการระเบิดตึก ตามที่ได้แจ้งมาให้กับทางการไทยรับทราบก็ตาม
แหล่งข่าวจากชายแดนฝั่งเมียนมา กล่าวว่า พื้นที่โครงการเคเคปาร์คอยู่ในความดูแลของทหาร BGF และการร่วมมือกับทหารเมียนมาในการลอยแพชาวต่างชาตินับพันคน ถือว่า มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว แม้กระทั่งการระเบิดอาคารขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งปฎิบัติงานของบรรดาแก๊งสเแกมเมอร์ ก็เพื่อจะทำลายฐานต่างๆ ที่ไปเชื่อมโยงกับแก๊งอาชญากรรม และครั้งนี้ แตกต่างกว่าครั้งก่อน เพราะไม่มีการรวบรวมคนมาคัดกรองก่อนส่งกลับประเทศ แต่กลับปล่อยให้เผชิญตามชะตากรรมโดยไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม และถือว่าเป็นการจัดฉากการปราบปราบแก๊งสแกมเมอร์อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน โดยคาดว่า ทางการเมียนมาน่าจะต้องการจะสร้างสถานการณ์ รับเวทีการประชุมอาเซียนสุดยอดครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่บริเวณแนวชายแดนไทย บริเวณท่าข้าม ม.9 ต.แม่กุท่าซุงใหม่ อำภอแม่สอด จังหวัดตาก มีการหนีตายของบรรดาชาวต่างชาติที่ทำงานในแหล่งขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ยังพบว่ามีการลักลอบข้ามแม่น้ำเมยอย่างต่อเนื่อง โดยทางศูนย์ด้านศูนย์สั่งการชายเดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก รายงานสถานการณ์ปัญหาบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองว่า ได้ควบคุมบุคคลต่างชาติลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ผ่านช่องทางธรรมชาติข้ามมาฝั่งไทย เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2568 มียอดรวมเป็น 1,198 คน จากคนต่างชาติทั้งหมด 21 สัญชาติ โดยพบว่า ชาวต่างชาติสัญชาติอินเดียมีจำนวนมากที่สุด รองมา คือ ชาวจีน และชาวเวียดนาม และพบว่ามีทั้งผู้ที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ และผู้ที่ไม่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวภายหลังเดินทางมาลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัด เพื่อให้กำลังใจกองกำลัง หน่วยเฉพาะกิจราชมนูญ และติดตามสถานการณ์ชาวต่างชาติหนีเข้ามายังฝั่งไทยว่า ได้มีการบูรณาการทุกภาคฝ่าย กำชับให้ลาดตระเวณตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตลอด24ชั่วโมง และได้จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับผู้หลบหนีเข้าเมืองไว้ทั้งหมด4แห่ง พร้อมกับเตรียมอาหารไว้ด้วย เพราะขณะนี้ยังคงมีชาวต่างชาติหลบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการระเบิดตึกสแกมเมอร์ในโครงการเคเคปาร์ค ในจังหวัดเมียวดีนั้น ไม่มีผลกระทบต่อฝั่งไทย และทางการเมียนมาได้ประสานงานส่งหนังสือมาแบบทางการ ในการจะใช้ระเบิดทำลายอาคารสแกมเมอร์ โดยทางไทยได้ขอความร่วมมืออย่าให้มีผลกระทบต่อประชาชนในฝั่งไทย
พันเอกชนกานต์ แสงศร ผบ.หน่วยเฉาะกิจราชมนู กล่าวว่า ประชาชนอย่าพึ่งตื่นตัว สถานการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในฝั่งเมียนเมียนมา การระเบิดตึกในเคเคปาร์คไม่ได้มีผลกระทบมาถึงฝั่งไทยแต่อย่างใด ขอให้ประชาชนฟังข่าวสารจากทางการไทยเป็นหลัก


