กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย คือ
- นายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ฯ อายุ 66 ปี อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และ 157
- นางสาวภูธินี อายุ 56 ปี หญิงคนสนิทของนายสฤษฎิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในความผิดฐาน เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และ 157 ประกอบมาตรา 86
โดยเจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.ภูธินี ได้ที่ บ้านพัก ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะที่จับกุมที่นายสฤษฏิ์ได้ประสานขอเข้ามอบตัวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำหรับพฤติการณ์ของคดี สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนกรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายสฤษฏิ์ฯ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ (อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์) มีพฤติกรรมยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ไปเป็นประโยชน์ของตนหรือผู้อื่น (นางสาวภูธินีฯ)
ต่อมา ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กองกำกับการ 4 สืบสวนกรณีดังกล่าว จากการสืบสวนพบว่าระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567 ถึง 10 กรกฎาคม 2568 ผู้ต้องหาที่ 1 ใช้อำนาจหน้าที่ของตนซึ่งมีตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์สั่งการให้พระลูกวัดเบิกถอนเงินจากบัญชีธนาคารของวัดนครสวรรค์ และนำฝากเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวของพระศตยาก่อนให้ทำการโอนต่อเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 2 บัญชี รวมมูลค่ากว่า 4.1 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาที่ 1 เข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ที่ 2 ในห้วงวันเวลาเดียวกันนี้ รวมเป็นเงิน 405,000 บาท โดยพระศตยา พระลูกวัดเจ้าของบัญชีธนาคาร ให้การยืนยันว่าได้รับคำสั่งโดยตรงให้เบิกถอนและโอนเงินดังกล่าว อีกทั้งยืนยันว่าพบเห็นผู้ต้องหาที่ 2 เดินทาง มาหาผู้ต้องหาที่ 1 ที่วัดนครสวรรค์หลายครั้ง
พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย กระทั่งวันนี้(14 ส.ค.68) บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา