กิจกรรมดูดาวเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและระดับโลก ซึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เองมีหลายพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการชมบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืน สังเกตดวงดาวที่ส่งแสงสวยงามอยู่บนท้องฟ้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการดูดาวเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นสบาย ทำให้การดูดาวที่เชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว


โดยปัจจุบันมีการส่งเสริมให้มีเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมต่อการสังเกตการณ์ท้องฟ้าและปรากฏการณ์ฝนดาวตก ทั้งความมืดของท้องฟ้า และมีพื้นที่โล่งกว้างปราศจากสิ่งบดบังบริเวณขอบฟ้า ทำให้สามารถชมฝนดาวตกได้รอบทิศทาง รวมถึงมีการบริหารจัดการแสงสว่างอย่างเหมาะสม
เจษฎา กีรติภารัตน์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ดูดาวและผู้เชี่ยวชาญท้องฟ้า ในสังกัดของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า กิจกรรมการสังเกตวัตถุบนท้องฟ้าหรือการดูดาวในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้คนโหยหาที่จะไปสัมผัสกับความเงียบสงบ ออกจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่
“ซึ่งในแต่ละช่วงของปีเสน่ห์ของการดูดาวก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น ฝนดาวตก สังเกตทางช้างเผือก หรือปรากฏการณ์ต่างๆ ทำให้หลายคนหลงใหลในกิจกรรมนี้เราต้องหาโอกาสหนึ่งถึงสองครั้งเพื่อไปร่วมกิจกรรมทั้งแบบกลุ่มและไปกันเอง”

เจษฎา กล่าวว่า การดูดาวนั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่ใช้ตาเปล่าก็สามารถเพลิดเพลินได้ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมกับการดูดาวไม่มีเสียงรบกวนมาก ผู้ใดสนใจก็สามารถปิดไฟ ปิดโทรศัพท์ ให้ตาค่อยๆ คุ้นกับความมืด มองหากลุ่มดาวพื้นฐาน เช่น ดาวนายพราน แคสสิโอเปีย หรือทางช้างเผือก
“แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับกลุ่มดวงดาวก็สามารถสนุกสนานได้เช่นกัน ด้วยการมองความสวยงามและสังเกตดวงดาวบนท้องฟ้า เพียงแค่ตนเองชอบและมีความสุขก็ถือว่าเพียงพอ ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นต้องการเพลิดเพลินกับอะไร สุดท้ายเวลาเงยหน้าดูดาว เราไม่ได้แค่มองท้องฟ้าแต่เราอาจจะกำลังมองตัวเองผ่านท้องฟ้าด้วยเช่นกัน”

เจษฎา กล่าวต่อว่า ในส่วนของชุมชนก็สามารถมีส่วนร่วมได้เช่นกัน อย่าง “ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” คือ เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน เทศบาล ตำบล ที่รักษาและสงวนท้องฟ้าในเวลากลางคืนให้มีความมืดที่เหมาะสม ภายใต้การร่วมมือและสนับสนุนจากประชาชน ด้วยวิธีการใช้แสงสว่างอย่างระมัดระวัง เหมาะสมต่อการใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสงที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ การสิ้นเปลืองพลังงาน ความปลอดภัยบนท้องถนน และการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
“รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเชิงดาราศาสตร์ ที่ช่วยเผยแพร่และสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของมลภาวะทางแสงแก่ประชาชน อาทิ บริเวณอ่างเก็บน้ำ เขื่อน สวนสาธารณะ มีค่าความมืดท้องฟ้าอยู่ในระดับที่สามารถสังเกตเห็นวัตถุท้องฟ้าได้ด้วยตาเปล่า” เจษฎา กล่าว


สำหรับอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหน หมู่บ้านแม่ผาแหน หมู่ที่ 6 ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ไกลมาก มีจุดเด่นคือ บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำเป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีแนวเขาเป็นฉากหลังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งจะเห็นเป็นภูเขาหินที่มีหน้าตัดเหมือนหน้าผา
บริเวณสันเขื่อนเหมาะแก่การถ่ายภาพบุคคลคู่กับวัตถุท้องฟ้า เช่น ทางช้างเผือก กลุ่มดาว ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ รวมถึงวัตถุในห้วงลึกอวกาศ เช่น เนบิวลา ซึ่งมีนักถ่ายภาพทางดาราศาสตร์กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เหมาะเป็นสนามซ้อมมือของพรานดาราที่เพิ่งเริ่มฝึกถ่ายดาว

ด้าน เศรษฐศักดิ์ ฟักสด ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์โคนมสันกำแพง (ป่าตึงห้วยหม้อ) จำกัด เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่คนที่สนใจจะมาถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ ทั้งนักถ่ายภาพมือใหม่ และนักถ่ายภาพมืออาชีพ
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางด้านดาราศาสตร์ตามปรากฎการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ เช่น สุริยุปราคา จันทรุปราคา ดาวเคียงเดือน ดาวเคราะห์ชุมนุม และฝนดาวต รวมมีมีการท่องเที่ยวหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ CIV ออนใต้ ในช่วงกลางวัน และสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าในช่วงเวลากลางคืน-เช้ามืด การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เดินออกกำลังกายระยะทางสั้น จากจุดเริ่มต้นในหมู่บ้านป่าตึงไปอ่างเก็บน้ำแม่ผาแหน พร้อมสอดแทรกความรู้เรื่องมลภาวะทางแสงให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

เศรษฐศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กิจกรรมการดูดาวและการอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อชุมชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากชุมชนของเราเป็นชุมชนที่อยู่พื้นที่รอบนอกแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่มากแต่ก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักหากเทียบกับชุมชนอื่นๆ พอมีกิจกรรมเกี่ยวกับการดูดาวเข้ามาก็ทำให้มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาในชุมชนของเรามากขึ้น ทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น ทั้งจากการค้าขาย และการเปิดเป็นที่พักโฮมสเตย์
“โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาพักภายในหมู่บ้านเพราะง่ายต่อการเดินทางที่จะไปดูดาวหรือทำกิจกรรมอื่นๆ นับว่าได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี อีกส่วนหนึ่งก็เป็นผลดีต่อการรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า เพราะชุมชนก็จะช่วยกันไม่ให้ป่าไม้ถูกทำลาย”
“อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากิจกรรมนี้สามารถพัฒนาต่อเนื่องได้อีกมาก เพราะเป็นผลดีต่อชุมชนรวมถึงการท่องเที่ยวในภาพรวม ทั้งนี้จึงอยากจะอยากให้หน่วยงานท้องถิ่นเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารจัดการพื้นที่ให้ดีขึ้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่ที่มาร่วมกิจกรรมมากยิ่งขึ้น และปรับพื้นที่ให้เหมาะสมกับการดูดาวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก” เศรษฐศักดิ์ กล่าว




