วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อมด้วย ภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศ เดินทางเยือนเมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายหลุยจี บรุญญาโร (H.E. Mr. Luigi Brugnaro) นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส ณ ศาลาว่าการเมืองเวนิส
ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงประเด็นความร่วมมือต่างๆ ที่สามารถจะดำเนินการร่วมกันระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองเวนิสในอนาคต ได้แก่ การจัดการน้ำ การจัดการขยะ เรือโดยสารไฮโดรเจน การท่องเที่ยว การส่งเสริมการค้าการลงทุน และการส่งเสริมเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯกับเมืองเวนิส

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายกเทศมนตรีเมืองเวนิส ได้ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างเมืองเวนิส และกรุงเทพมหานคร โดยมีนายพุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐอิตาลี และนายอันเดรอา มาร์กอน กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเวนิส ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างเมืองเวนิสและกรุงเทพมหานคร นับเป็นก้าวแรกของการสถาปนาและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีในด้านต่างๆ ของกรุงเทพฯ ในอนาคตต่อไป

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ได้มาราชการที่ประเทศอิตาลี โดยเยือนเมืองมิลานและเมืองเวนิส และวันนี้มาเยือนเมืองเวนิส ซึ่งกรุงเทพมหานครยังไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างเมืองอย่างเป็นทางการมาก่อน
“เราอยากพัฒนาความสัมพันธ์เป็น Sister City เมืองพี่เมืองน้องกับเวนิส เพราะลักษณะหลายอย่างคล้ายคลึงกัน เวนิสมีประชากรประมาณ 250,000 คน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีคลองเยอะและมีสะพานข้ามคลองเชื่อมระหว่างเกาะต่างๆ ในเมืองประมาณ 400 สะพาน เวนิสไม่มีถนน แต่ใช้คลองแทนถนนและใช้เรือเป็นแท็กซี่ จะเห็นว่าหน้าบ้านก็เป็นคลองเลย คล้ายกับกรุงเทพฯ สมัยก่อน เช่น แถบฝั่งธนฯ ที่หน้าบ้านเป็นคลองและใช้เรือเป็นพาหนะหลัก”
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวด้วยว่า เมืองเวนิสมีปัญหาคล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ คือ ประสบกับน้ำทะเลหนุน เมืองมีวิกฤตจมน้ำและมีน้ำท่วมหนัก โดยเวนิสมีการทำเขื่อนขนาดยาวริมทะเลเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน เน้นแก้ปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุน และ Storm Surge จากทะเลที่ส่งผลให้เมืองเวนิสน้ำท่วม
อีกปัญหาหนึ่งที่คล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ คือการจัดการขยะ เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว ไม่ได้ค้างในเวนิส แต่ซื้ออาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ มาจากนอกเมือง ก่อให้เกิดขยะแต่ไม่ได้สร้างรายได้ให้กับเมือง จึงมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีนักท่องเที่ยว นอกจากนี้จะเข้าดูการทำงานของ Smart Control Room และสถานีตำรวจในเมืองเวนิส
“การลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงระหว่างเมืองเวนิสและกรุงเทพมหานคร เป็นความตั้งใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันเพราะเราเชื่อว่ามีหลายอย่างที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ และเชื่อว่าการมาเยือนครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากรุงเทพมหานครต่อไป” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว



