‘นายกฯ อนุทิน’ มอบนโยบาย ‘ตำรวจ’

1 ต.ค. 2568 - 08:22

  • ‘นายกฯ อนุทิน’ มอบนโยบาย ‘ตำรวจ’ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด พนันออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ขอบคุณบุคลากรทำงานหนักพิทักษ์สันติราษฎร์

  • ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุน ‘สวัสดิการ’ พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ ขอช่วยกันทำให้เป็นองค์กรหลักที่ดำรงความเป็นนิติรัฐ เป็นที่พึ่งของประชาชน

  • บอกอย่าว่า ‘กัมพูชา’ หน้าไหว้หลังหลอก พร้อมหนุนกองทัพเต็มที่ เตรียมความพร้อม-ย้ำจุดยืนประโยชน์ปท. จนกว่าภัยเขมรหมดไป

‘นายกฯ อนุทิน’ มอบนโยบาย ‘ตำรวจ’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 3 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจในโครงการสัมมนาผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และระดับผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 338 คน แบ่งเป็นระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า จำนวน 44 คน และระดับผู้บังคับการหรือเทียบเท่า จำนวน 294 คน ให้การต้อนรับและรับมอบนโยบาย

anutin-police-1oct25-SPACEBAR-Photo02.jpg

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อพูดถึงอาชีพตำรวจ ต้องยอมรับว่าเป็นงานที่หนักที่สุดงานหนึ่ง เพราะต้องทำงานภายใต้ความกดดันตลอดเวลา บริหารจัดการเวลาส่วนตัวได้ยาก และอยู่กับความเสี่ยงภัย รวมถึงความคาดหวังสูงจากสังคม ดังนั้น สิ่งแรกที่อยากจะกล่าวถึงและให้ความสำคัญคือ การดูแลทรัพยากรบุคคลของเราให้ได้รับความเป็นธรรม ทั้งเรื่องการเบิกจ่ายสวัสดิการ ความเจริญก้าวหน้า การบริหารกำลังคน และที่สำคัญ การดูแลสุขภาพใจของตำรวจทุกนาย เพราะสิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานที่จะทำให้พี่น้องตำรวจ มีความพร้อมในการดูแลประชาชน พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำถึงการยกระดับวิธีการทำงานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เท่าทัน พร้อมรับมือกับอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการปรับระบบระเบียบให้คล่องตัว เพราะความเร็ว และความแม่นยำเป็นปัจจัยสำคัญ

anutin-police-1oct25-SPACEBAR-Photo03.jpg

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวฝากถึงภารกิจการปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งสำหรับนโยบายสำคัญเร่งด่วน ขอให้ยกระดับการจัดการปัญหายาเสพติด การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นภัยคุกคามและส่งผลกระทบต่อชีวิตของพี่น้องประชาชนในวงกว้าง และยังเป็นผลลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศด้วย โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาอาชญากรรม และแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในการร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และยาเสพติด ทั้งในประเทศและกับประเทศเพื่อนบ้าน

“การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับการพัฒนางานในอนาคต เป็นการเตรียมความพร้อมให้ตำรวจทั่วประเทศ รับมือกับอาชญากรรม และปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นโยบายและแนวทางที่ร่วมกันแลกเปลี่ยนในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนภารกิจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ ขอให้ทุกท่านยึดมั่นในหลักนิติธรรม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหนึ่งในองค์กรหลักที่ดำรงความเป็นนิติรัฐให้แก่ประเทศ และเป็นที่พึ่งของประชาชนในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต่อไป นอกจากนี้อีกภารกิจสำคัญคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของพวกเราด้วยชีวิต”

นายกรัฐมนตรี กล่าว

จากนั้น อนุทิน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการแก้ปัญหายาเสพติดว่า ในฐานะที่วันนี้ มาทำงานกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีหน้าที่รมว.มหาดไทย ดูแลฝ่ายปกครองด้วย ดังนั้นต้องเร่งแสวงหาความร่วมมือกันเพราะการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องถ้าสนธิกำลังกันได้แล้วอย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ก็อยู่ภายใต้การดูแลด้วย เราก็น่าจะใช้โอกาสนี้สร้างกลไกดำเนินการกวางล้างป้องกันให้สิ้นซากให้ได้ เพราะเคยทำงานร่วมกับ ผบ.ตร.ตั้งแต่เป็นรองผบ.ตร.อยู่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ได้ไปดูแลการกวาดล้างด้วยตัวเองหลายครั้ง เห็นถึงความสำคัญและประสิทธิภาพของตำรวจไทยสามารถดำเนินการยาเสพติดได้แน่นอนถ้าเราให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อนุทิน กล่าวว่า มันมีอาชญากรรมในยุคปัจจุบันที่เป็นภัยความมั่นคง ทั้งสแกมเมอร์ ค้ามนุษย์ ยาเสพติด การค้าประเวณี อาวุธปืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นเรื่องที่เราสามารถกระชับความร่วมมือซึ่งกันและกัน สมัยก่อนมหาดไทยไปทาง ตำรวจไปทาง เพราะบางทีผู้กำกับดูแลสูงสุดมาจากคนละซีก คนละพรรคการเมืองกันก็ไม่คล่องตัว แต่วันนี้ไม่มีข้อแก้ตัวถ้าทำไม่สำเร็จก็ตนนี้แหละครับ

anutin-police-1oct25-SPACEBAR-Photo04.jpg

ทั้งนี้ ที่มีกระแสข่าวว่าหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชามีความสนิทกับอดีตนายกฯ อนุทิน ตอบว่า เขาไม่ได้สนิทกับนายกฯ ปัจจุบัน และมั่นใจว่าไม่ได้สนิทกับ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน คงไม่มีอิทธิพลใดๆ และคนที่กำกับดูแลสำนักงานตรวจแห่งชาติคือนายกฯเพราะฉะนั้นจะไม่มมีอิทธิพลใดๆมากดดันให้พวกเราชะงัก ตนไม่รู้จักพวกนี้ไม่มีอะไรไปติดค้างเขา

anutin-police-1oct25-SPACEBAR-Photo01.jpg

อนุทิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาว่า ตอนนี้เรื่องการตรึงกําลังตามแนวชายแดนยังคงเต็มที่อยู่ ตนดําเนินงานควบคู่กับกระทรวงการต่างเทศ ในเรื่องทางการทูต และการตั้งเงื่อนไขของประเทศไทย รวมถึงจุดยืนของประเทศไทย โดยเรื่องของการดูแลอธิปไตยไทย และการดูแลอาณาเขตประเทศไทย ตนได้หารือกับรมว. กลาโหม และหารือใกล้ชิดกับผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงเสนาธิการทหารบก ซึ่งได้ให้การยืนยันกับทุกท่านในด้านการทหาร ในแต่ละเหล่าทัพไปว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน รวมถึงตํารวจด้วย ในภารกิจตํารวจตระเวนชายแดน สิ่งที่ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาล ดําเนินการด้วยความรวดเร็วอย่างเต็มที่

“อย่างเมื่อวานนี้ในที่ประชุม ครม. ก็ได้เร่งอนุมัติงบกลาง เพื่อสนับสนุนภารกิจกองทัพ ในการปกป้องแนวชายแดนของประเทศไทยที่เรากําลังมีปัญหากับกัมพูชา ซึ่ง ผบทบ.ได้ให้ความมั่นใจกับผมว่าเราไม่เสียเปรียบ เรารักษาอธิปไตยของเรา และเราได้ทําในสิ่งที่เราต้องทํา และจะทําในสิ่งที่ประชาชนจะไม่ผิดหวัง”

นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้เราดูในเรื่องประโยชน์ของประเทศไทยเท่านั้น เราเปลี่ยนท่าทีแล้ว เพราะสิ่งที่เขาปฏิบัติมา ก็ไม่มีอะไรที่เราจําเป็นจะต้องไปให้ความเกรงใจ ถ้าอะไรก็ตามที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และถ้าถึงขั้นที่ว่า มีไปก็ไม่เกิดคุณค่าอะไร ครม. ก็พร้อมจะยกเลิกเอ็มโอยู ทั้งสี่เหล่าทัพจะดํารงสภาพนี้ในการเตรียมพร้อม ในเรื่องของจุดยืน จนกว่าความเป็นภัยของประเทศกัมพูชา จะหมดไปต่อประเทศไทย ถือเป็นความชัดเจนที่รัฐบาลยึดถือกรอบนี้ เพื่อสนับสนุนข้อสรุปของฝ่ายความมั่นคง

เมื่อถามว่าพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกของกัมพูชาที่ไว้ใจไม่ได้  นายกฯ ตอบว่า “ไม่เอา เราไม่ว่าประเทศเพื่อนบ้าน เขาจะมีพฤติกรรมอะไรก็แล้วแต่ จะหลอกหรือไม่หลอก แต่ว่าเรามีความสามารถเพียงพอ รู้ว่าจุดยืนของเราอยู่ตรงไหน แล้วเวลาใดที่เราควรจะตอบสนองการกระทําของเขา ด้วยวิธีใด อันนี้ผมขอให้ความมั่นใจ”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์