หมดพายุ ‘วิภา’ กรมอุตุฯ แนะจับตา 3 พายุ ยันไม่เข้าไทยโดยตรงแต่ฝนยังหนัก

26 ก.ค. 2568 - 06:55

  • กรมอุตุนิยมวิทยาแนะจับตาสภาพอากาศต่อเนื่อง เหตุมีพายุหมุนเขตร้อน 3 ลูกในแปซิฟิกตะวันตก ยันไม่กระทบไทยโดยตรงแต่อาจส่งผลต่อภูมิภาค

  • อัปเดตภาพถ่ายดาวเทียมและภาพเรดาร์ 26 ก.ค. เมฆฝนส่วนใหญ่ยังปกคลุมบริเวณภาคอีสานด้านตะวันออกระวังฝนตกหนัก

หมดพายุ ‘วิภา’ กรมอุตุฯ แนะจับตา 3 พายุ ยันไม่เข้าไทยโดยตรงแต่ฝนยังหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยาแนะจับตาสภาพอากาศต่อเนื่อง ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568 มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้เผชิญกับการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนพร้อมกันถึง 3 ลูก ได้แก่ พายุ  “ฟรานซิสโก” พายุ “ก๋อมัย” และพายุ  “กรอซา” แม้พายุทั้งหมดจะไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนให้ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิทธิพลของระบบมรสุมในพื้นที่อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในบางภูมิภาคของไทย

3-storms-no-direct-threat-to-thailand-but-heavy-rain-continues-SPACEBAR-Photo01.jpg

รายละเอียดของพายุทั้ง 3 ลูก

พายุ “ก๋อมัย” (CO-MAY)

พายุลูกที่ 11 ของฤดูกาลปี 2568 ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ และทวีกำลังขึ้นเป็น “พายุโซนร้อน” เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ก่อนกลายเป็น “พายุไต้ฝุ่น” ในวันถัดมา เส้นทางของพายุมุ่งหน้าไปยังเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และขึ้นฝั่งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ส่งผลให้พื้นที่ฝั่งตะวันตกของลูซอนและมินโดโรเผชิญฝนตกหนัก ปริมาณฝนรวมบางจุดอาจสูงถึง 650 มิลลิเมตร พายุลูกนี้ถือเป็นหนึ่งในพายุที่มีความรุนแรงมากที่สุดที่ขึ้นฝั่งด้านตะวันตกของลูซอนในรอบ 16 ปี

แม้พายุ “ก๋อมัย” จะไม่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า อิทธิพลของพายุอาจส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกของไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงนี้–27 กรกฎาคม

พายุ “ฟรานซิสโก” (FRANCISCO)

พายุลูกที่ 10 ของฤดูกาล ตั้งชื่อโดยสหรัฐอเมริกา หมายถึงชื่อบุคคลเพศชายในภาษาชามอร์โร พายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก และเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกของจีน โดยมีแนวโน้มอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่องก่อนขึ้นฝั่ง เส้นทางและตำแหน่งพายุอยู่ห่างไกลจากประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศ

พายุ “กรอซา” (KROSA)

พายุลูกที่ 12 ของฤดูกาล ตั้งชื่อโดยกัมพูชา แปลว่า “นกกระเรียน” หรือ “นกกระสา” พายุก่อตัวในบริเวณใกล้เคียงกับพายุฟรานซิสโก และมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่น เส้นทางของพายุมุ่งไปทางทิศเหนือเช่นเดียวกับฟรานซิสโก โดยยังไม่ปรากฏแนวโน้มว่าจะขึ้นฝั่งบริเวณใด

แนวโน้มผลกระทบต่อไทย

แม้ว่าทั้งสามพายุจะไม่มีเส้นทางเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่มวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาในช่วงเวลาเดียวกันส่งผลให้ทิศทางและความรุนแรงของพายุเบี่ยงเบนจากประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงในช่วงเดียวกัน อาจทำให้บางพื้นที่ในประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะบริเวณลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่ม ซึ่งอาจเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม

ข้อแนะนำจากกรมอุตุนิยมวิทยา

◦            ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

◦            เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายต่อพืชผลจากฝนตกหนัก

◦            ชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรระวังอันตรายจากคลื่นสูง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ซึ่งคลื่นอาจสูงเกิน 2 เมตร

◦            ผู้ที่มีแผนเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ จีน หรือญี่ปุ่นในช่วงนี้ ควรตรวจสอบสภาพอากาศและสถานะเที่ยวบินล่วงหน้า

แม้ว่าพายุทั้ง 3 ลูกจะยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยในขณะนี้ แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีความไม่แน่นอนสูง การติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการเตรียมพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น

3-storms-no-direct-threat-to-thailand-but-heavy-rain-continues-SPACEBAR-Photo02.jpg

อัปเดตภาพถ่ายดาวเทียมและภาพเรดาร์ เช้าวันที่ 26 กรกฎาคม  2568

เมฆฝนส่วนใหญ่ยังปกคลุมบริเวณภาคอีสานด้านตะวันออก ยังต้องระวังฝนตกหนัก ใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุม สปป.ลาว และเวียดนามตอนบน

26-28 ก.ค. 2568

ภาคเหนือ

ยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนองกระจาย บริเวณประเทศไทยตอนบน ส่วนใหญ่ยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลางและยังมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจตกซ้ำในพื้นที่ที่มีสถานการณ์อุทกภัยอยู่แล้วในบริเวณภาคเหนือตอนบนและด้านตะวันออก (เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา อุตรดิตถ์)

ภาคอีสาน ได้แก่ ตอนบนและด้านตะวันออก เช่นอุบลราชธานี อำนาจเจริญ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี) ใกล้หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุม

ภาคตะวันออก (จ.จันทบุรี ตราด) ด้านรับมรสุม ส่วนภาคอื่นๆ จะยังคงมีฝนบางแห่ง จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมมีเริ่มมีกำลังอ่อนลงบ้าง 

ภาคใต้ ฝนยังน้อยในระยะนี้ เนื่องจากลิ่มความกดอากาศสูงจากทางซีกโลกใต้แผ่ขึ้นมาสูง คลื่นลมยังมีกำลังค่อนข้างแรง โดยเฉพาะทะเลอันดามันตอนบน ชาวเรือ ชาวประมงยังต้องเดินเรือด้วยความระวัง

ช่วงวันหยุด ผู้ที่เดินทางไปภาคเหนือในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยต้องตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง  และท่านที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่ง ทั้งภาคใต้และภาคตะวันออก ยังต้องระวังคลื่นลมยังมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง 

521538950_1186745670164233_8780624043460151893_n.jpg

พยาการณ์อากาศล่วงหน้า 29  ก.ค.- 9 ส.ค. 2568

ทั่วไทย ฝนเริ่มลดลง แต่ยังมีฝนบางแห่ง อยู่ในเกณฑ์กระจายเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง เกิดจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังพัดปกคลุม

ส่วนภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น ช่วงปลายเดือน คลื่นลมเบาลง วางแผนทำกิจกรรมได้ตามปกติ ระวังฝน/ฝนฟ้าคะนองช่วงเย็นถึงค่ำช่วง

ระยะนี้ยังไม่มีพายุที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ฝนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมาจากอิทธิพลของมรสุม 

ทั้งนี้ ข้อมูลหรือเส้นทางของพายุฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆมาเกี่ยวข้องในช่วงที่พายุกำลังเข้าใกล้ชายฝั่ง  ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศเบื้องต้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์


หมดพายุ ‘วิภา’ กรมอุตุฯ แนะจับตา 3 พายุ ยันไม่เข้าไทยโดยตรงแต่ฝนยังหนัก