ในการประชุมร่วมกันขอฃรัฐสภา (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ที่มี ‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ… ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณาร่างมาตรา 4 ว่าด้วยองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กมธ. เสียงข้างมากกำหนดให้มี กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ซึ่งรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อของผู้สมัครได้รับเลือก และกมธ.รับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ซึ่งรัฐสภาคัดเลือกจากบัญชีรายชื่อของบุคคลที่สมัครรับคัดเลือก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในมาตราดังกล่าวพบว่ามี กมธ.เสียงข้างน้อยในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยสงวนความเห็นปรับแก้ไขโดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด เพื่อให้เกิดกลไกเชื่อมโยงกับประชาชน นอกจากนั้นเพื่อทำหน้าที่กำกับ และลงมติต่อร่างรัฐธรรรมนูญฉบับใหม่ ที่กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ดำเนินการพร้อมกับแก้ไขสูตร 20 หยิบ1 ที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอเพราะมองว่าจะเปิดช่องให้ฮั้วเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้
'ชลน่าน ศรีแก้ว' สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.ที่สงวนความเห็น อภิปรายว่าตามเนื้อหาที่กมธ.เสียงข้างมาก กำหนดให้มีผู้เขียนรัฐธรรมนูญ 35 คนมาจากการเลือกของรัฐสภา ด้วยสูตร 20 หยิบ 1 นั้น สุ่มเสี่ยงที่คนเขียนรัฐธรรมนูญจะถูกครอบงำ ชี้นำมาตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะกรณีที่ผู้สมัครต้องมีผู้สนับสนุน 100 คน บุคคลทั่วไปยากมากที่จะหาผู้สนับสนุนได้ครบ แต่หากเป็นกลุ่มหรือพรรคการเมืองทำได้ง่ายมาก ดังนั้นผู้เขียนรัฐธรรมนูญสามารถถูกจัดตั้งมาตั้งแต่แรก ถูกใส่ชื่อมาตั้งงแต่ต้น ดังนั้นจึงต้องการตัดประเด็นการครอบงำ ชี้นำให้มากที่สุด
“ผมเสนอให้กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญมาจากสัดส่วนภูมิภาค 20 คน และมาจากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ 15 คน เพื่อป้องกันการผูกขาด ครอบงำ ของเสียงข้างมาก กลไกที่ให้รัฐสภาคัดเลือก จะใช้แนวทางของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เป็นฐานพิจารณา คือ ผู้สมัครที่จะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง และจำนวนนั้นต้องมีสว.เห็นชอบด้วย ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือ 40 คน และได้เสียงฝ่ายค้านเห็นชอบ 20% เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล ได้รับความเห็นชอบของทุกฝ่าย เพื่อมั่นใจว่ากมธ.ร่างรัฐธรรมนูญมจากทุกภาคส่วน ป้องกันการครอบงงำชี้นำ การฮั้ว ให้รัฐธรรมนูญเป็นสีใดสีหนึ่งได้”
— ชลน่าน อภิปราย
ชลน่าน อภิปรายต่อว่า รัฐสภาเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ ดังนั้นสิ่งที่พรรคเพื่อไทย และตนเสนอเป็นหนทางได้กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี ส.ส.ร. และได้แนวทางที่เหมาะสม ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านการเลือกตั้งทางอ้อม ได้รัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นของประชาชนทุกภาคส่วนและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ด้าน 'ขัตติยา สวัสดิผล' สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.ที่สงวนความเห็น อภิปรายให้มี ส.ส.ร.จำนวน151 คน มาจากประชาชนแต่ละจังหวัด และรัฐสภาแต่งตั้งตามคุณสมบัติ เพื่อทำหน้าที่กำกับ และกลั่นกรองร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผู้ยกร่างเขียนขึ้น และที่มา โดยตัดประเด็นการมีผู้สนับสนุนตอนสมัคร เพราะมองว่าเป็นการเปิดช่องให้จัดตั้งทางการเมือง กีดกันการมีส่วนร่วมของประชาชน
“ส.ส.ร. เป็นกลไกช่วยให้รัฐธรรมนูญใหม่ ยึดโยงกับประชาชน ดังนั้น ส.ส.ร. จึงต้องมีที่มา ที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชน มีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล กำกับการทำงานของกมธ.ร่างงและกมธ.รับฟังความเห็น และมีอำนาจเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นหลักประกันกระบวนกรยกร่างรัฐธรรมนูญที่โปร่งใส รอบคอบ ทั้งนี้ ส.ส.ร.ถือเป็นองค์ประกอบที่สาม ที่จำเป็นต่อการเมืองไทย ที่จะทำให้รัฐธรรมนูญใหม่ชอบธรรม ได้รับการยอมรับ และยึดโยงกับประชาชน”
— ขัตติยา อภิปราย
ขณะที่ 'ก่อแก้ว พิกุลทอง' สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ. อภิปรายว่า เชื่อว่าสังคมไทยยังขัดแย้ง ในการเลือกตั้งมีการแบ่งเป็นสีต่างๆ ซึ่งหากใช้กลไกของกมธ.เสียงข้างมากเชื่อว่าผู้ร่างรัฐธรรมนูญจะถูกครอบงำโดยเสียงข้างมาก ทำให้สีที่เหลือไม่ยอมรับต่อการทำรัฐธรรมนูญใหม่ และอาจไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนโครงสร้างของผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอยังมีปัญหา มีช่องโหว่ช่องว่าง ดังนั้นต้องมีโครงสร้างที่ประชาชนยอมรับในทุกขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่กมธ.ฝั่งพรรคประชาชน นำโดย 'พริษฐ์ วัชรสินธุ' สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ. อภิปรายตามที่สงวนความเห็นตอนหนึ่งว่า เสียดายที่กมธ.เสียงข้างมากเห็นต่างจากพรรคประชาชน ตัดกลไก กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และแปลงสภาพจากสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้ง 100 คน ไปเป็นกมธ.รับฟังความคิดเห็น ทั้งนี้พรรคประชาชนยืนยันว่ากลไกที่เสนอนั้นไม่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะกลไกเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่การเลือกตั้งโดยตรง แต่กำหนดให้ประชาชนเลือกมาเบื้องต้นแล้วให้รัฐสภาคัดเลือก ส่วนสภาที่ปรึกษาที่ออกแบบไม่ใช่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ จึงไม่อยู่ในข่ายข้อห้ามตามที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุ
“หากยอมรับการตีความเช่นนั้น หมายความว่า ให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่ไปรับฟังนายก อบจ. ทุกจังหวัดเพราะเป็นตัวแทนของประชาชน จะถูกตีความว่าทำไม่ได้ เพราะนายก อบจ. มาจากการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่ ดังนั้นหากมองว่ากลไกที่พรรคเสนอ เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงขอให้รัฐสภาลงมติสนับสนุน”
— พริษฐ์ อภิปราย


