สรชาติ วิชย สุวรรณพรหม หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ถูกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “คดีฮั้วเลือก สว.” กล่าวว่า ได้รับทราบว่าถูกหมายเรียกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัด โทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบ แต่ยังไม่เห็นหมายเรียกที่เป็นตัวเอกสาร โดยให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 19 พ.ค.นี้ แต่คงขอเลื่อนออกไป 1-2 สัปดาห์ เพราะติดภารกิจ แต่พร้อมไปรับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา มั่นใจว่าชี้แจงได้ ไม่กังวล ไม่หนักใจ
ยืนยันว่าไม่ได้ฮั้ว ไม่มีคะแนนจัดตั้ง หรือมีเส้นทางการเงินใด ๆ การถูกเรียกครั้งนี้เท่าที่ดูเป็นการใช้วิธีสุ่มเรียกตัวแทนจาก 20 กลุ่ม มากลุ่มละ 1-3 คน โดยสุ่มจากคนที่ได้ที่ 1 ในแต่ละกลุ่ม และจังหวัดที่ได้รับเลือกเป็น สว. มาก ๆ ไม่ได้ดูจากการกระทำหรือการมีพฤติกรรมน่าสงสัย
สรชาติ อธิบายว่า “ในกลุ่ม 13 ของผม กลุ่มวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ถูกหมายเรียก 2 คน ทั้งที่ในการเลือกระดับอำเภอและระดับจังหวัด ผมได้รับเลือกเข้ามาลำดับสุดท้ายทั้ง 2 ระดับ โดยระดับอำเภอได้ 2 คะแนน ลำดับ 1 ได้ 6 คะแนน ส่วนระดับจังหวัดได้ 4 คะแนน ลำดับ 1 ได้ 16 คะแนน แต่ระดับประเทศได้ 66 คะแนน มาเป็นที่ 1 ทำให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนสุ่มเรียกมาให้ข้อมูล”
กรณีดังกล่าว กกต. เคยเรียกผมไปชี้แจงแล้ว โดยชี้แจงว่า จะเอาคะแนนระดับอำเภอและจังหวัดมาเทียบกับระดับประเทศไม่ได้ เพราะระดับประเทศมีตรรกะอื่น ๆ มาเกี่ยวข้อง อาทิ การมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ผมเป็นอดีต สส.หนองบัวลำภู มีลูกศิษย์มากมาย จึงได้คะแนนมาก กกต. ก็ไม่ติดใจอะไร, รายละเอียดเหล่านี้ กกต. รู้ดี เป็นเรื่องที่เก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว
แต่การทำงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ใช้ข้อมูลส่วนใหญ่จากดีเอสไอเป็นหลัก ส่งมาให้ กกต. ใช้ข้อมูลสุ่มมา โดยไม่รู้ว่า กกต. มีข้อมูลเหล่านี้แล้ว, เมื่อดีเอสไอ กดดันมา กกต. ก็จำเป็นต้องรับเรื่องเรียกสอบไว้ก่อน ยืนยันมั่นใจว่าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้
ส่วนที่มองว่าการออกหมายเรียก สว. มารับทราบข้อหาคดีฮั้วเลือก สว. เป็นเกมการต่อรองระหว่างขั้วอำนาจทางการเมืองนั้น...ไม่แน่ใจ แต่การออกหมายเรียก ไม่ควรใช้วิธีสุ่มที่ไม่เป็นเหตุผล โดยไม่รู้พื้นฐานข้อเท็จจริงที่ กกต. สอบไว้หมดแล้ว
กรณีดังกล่าว สว. ยังไม่ได้หารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร ยังเร็วเกินไป เพราะแต่ละคนเพิ่งได้หมายเรียก ทุกคนยังอยู่ต่างจังหวัด ยังไม่มีโอกาสได้หารือกันเท่าไร