เรื่องมันมีอยู่ว่า กลิ่นคว่ำรธน.โชยมาแต่ไกล เพื่อไทยยื่นฟันจริยธรรม‘หนู’ , เส้นทาง‘ชัชชาติ’ผู้ว่ากทม.สมัย 2 สะดวก สดใส ไร้รอยต่อ

7 ธ.ค. 2568 - 23:45

  • มีกระแสข่าวคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยื่นตรวจสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรี

  • ตรวจการบ้านผู้ว่า กทม.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หลังทำงานมา 3 ปีครึ่ง

  • นิดา โพลล์ สำรวจออกมาคนกรุงเทพ 46% ยอมรับในผลงาน สมัยที่สองสดใส

เรื่องมันมีอยู่ว่า กลิ่นคว่ำรธน.โชยมาแต่ไกล เพื่อไทยยื่นฟันจริยธรรม‘หนู’ , เส้นทาง‘ชัชชาติ’ผู้ว่ากทม.สมัย 2  สะดวก สดใส ไร้รอยต่อ

เรื่องมันมีอยู่   ตัวประกันอย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกหยิบยกมาเป็นข้อต่อรองในช่วงหลัง  มีกระแสคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  พร้อมกับเพื่อไทยจะยื่นสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรี<>ผู้ว่าที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทำงานบริหารกรุงเทพมหานครมา 3 ปีครึ่ง  นิดา โพลสำรวจความเห็น ตรวจการบ้าน คนกรุงเทพกว่า 46% ยอมรับ  การไปต่อสมัยที่สองสดใส <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

กลิ่นคว่ำรธน.โชยมาแต่ไกล

เพื่อไทยยื่นฟันจริยธรรม‘หนู’

เจ้าของวลี ‘หัวใจใหญ่กว่าตับ’ นามว่า สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) หลัง ‘หลุดเก้าอี้รมว.กลาโหม’ เรื่อยไปจน ‘ไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง’ ในกก.บห.พรรคเพื่อไทย หลังปฎิบัติการ‘ยกเครื่อง’

ล่าสุด ‘บิ๊กทิน’ กลับมาแล้วด้วยการ ‘แทงกั๊ก’ ว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติ ‘ไม่ไว้วางใจ’ รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อไหร่ในลักษณะที่เรียกว่า ‘กินทีละคำ’

‘พรรคเพื่อไทยขอดู ทิศทางการอภิปรายในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ก่อน จากนั้นจึงจะประเมินสถานการณ์กันว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อเลย หรือยื่นหลังร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ผ่าน เนื่องจากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอด ดังนั้นหากฟังการอภิปรายในวาระ 2 แล้วก็พอจะประเมินได้ว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 จะผ่านหรือไม่ แล้วจะกำหนดวันเวลาที่จะยื่นอีกครั้ง"

‘ก่อนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทยจะยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญเอาผิดจริยธรรมกับรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลก่อน ส่วนจะมีใครบ้างนั้นเชื่อว่าสังคมพอคาดเดาได้ ทั้งเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี พฤติกรรมก่อนและหลังการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งคุณสมบัติมิชอบมีอยู่หลายคน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทยก็อยู่ในข่ายด้วย’

สุทิน กล่าวถึงทิศทางของเพื่อไทย

ในเดือนธันวาคมนี้มี ‘3เรื่องที่ควบกันอยู่’

1.ผ่านรธน.

2.ยื่นไม่ไว้วางใจ

3.ยุบสภา

แต่วันก่อนได้ยิน สว.บางส่วนออกมาระบุ ‘เงื่อนไข’ ของการผ่านรธน.วาระ2 และวาระ 3 ไว้แบบชวน ‘ฉงนสนเท่ห์’ ว่า  มี ‘3 เงื่อนไข’ ที่ สว. เสียงข้างมากบอกว่า ‘ยอมไม่ได้’  กล่าวคือ

เงื่อนไขที่ 1 เมื่อ กมธ.ร่าง รธน. ร่างเสร็จ ต้องมาขอมติที่ประชุมรัฐสภาก่อนไปทำประชามตินั้น ยังต้องมีเงื่อนไขผ่าน 1 ใน 3 ของ สว. ด้วยนอกจากผ่านเกณฑ์เสียงข้างมากทั่วไปของรัฐสภา

เงื่อนไขที่ 2 และเงื่อนไขที่  3 คือ เขียนบทเฉพาะกาล ให้มีการรับรองสมาชิกสภาพของ สว. ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 5 ปี และให้มีการรับรองวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ดำรงตำแหน่งจนครบวาระ

เงื่อนไขที่ 1 นั้น‘ฟังได้’ และพอที่จะรับฟังกัน แต่เงื่อนไขที่2 และ ที่3 นี่ซิ‘ประหลาดนัก’ ว่าจู่ๆจะมารับรอง ‘สถานะของสว.’ชุดปัจจุบันทำไม มันเกี่ยวอะไรกับคดี ‘ฮั้วสว.’ ที่ช้ายิ่งกว่า ‘เต่าขาหัก’หรือไม่ ที่สำคัญ จู่ ๆ เอาการแก้ไขรธน.ไปผูกกับ ‘วาระ’ การดำรงตำแหน่งของกรรมการในองค์กรอิสระทำไม หรือเพราะเลือกมาแล้วกับมือ แล้วเกรงว่าจะไม่ได้ ‘ใช้บริการ’

ดูๆไปทั้ง ๆ ‘3 เงื่อนไข’ ที่ว่ามานี้นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่า ‘หาเหตุ’ ไม่รับร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา256 หรือไม่ น่าจับตาเพราะกำลังมี ‘กลิ่นการเมือง’ ที่ไม่สู้ดีลอยออกมา จะผ่านหรือจะคว่ำ จะหมู่หรือจะจ่า เดี๋ยวได้รู้กันนะครับ

<<<<<>>>>> 

เส้นทาง‘ชัชชาติ’ผู้ว่ากทม.สมัย 2

สะดวก สดใส ไร้รอยต่อ

นอกจากเป็น1ใน 45 บุคคลที่ได้รางวัล ‘พ่อดีเด่นแห่งชาติ’  ประจำปี 2568 จากคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก ฯ วุฒิสภา ร่วมกับสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ และสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งรางวัลนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

ล่าสุด ‘นิด้าโพล’ เผยผลการสำรวจ ‘3 ปีครึ่ง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ สำรวจระหว่างวันที่ 25พฤศจิกายน -2 ธันวาคม จาก2,000ตัวอย่างจากพื้นที่ 50 เขตด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ทั้งนี้ในการทำงานทั้ง17 ด้าน อาทิ การปรับปรุงและจัดระเบียบทางเท้า,การแก้ไขปัญหาความสะอาด ขยะ ฝุ่นละออง น้ำเสีย,การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม,การปรับปรุงการให้บริการในหน่วยงานของกทม.

นิด้าโพลสรุปว่า การทำงานในรอบ 3 ปีครึ่ง ของ ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’  พบว่า

ร้อยละ 46.55 ค่อนข้างพอใจ

ร้อยละ 31.85 พอใจมาก

ร้อยละ 14.70 ไม่ค่อยพอใจ

ร้อยละ 6.70 ไม่พอใจเลย

ผลงาน 3 ปีครึ่งของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังเข้าตาคนกรุงเทพส่วนใหญ่ ที่ยอมรับผลงาน  ทำให้สมัยที่สองเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป
ผลงาน 3 ปีครึ่งของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังเข้าตาคนกรุงเทพส่วนใหญ่ ที่ยอมรับผลงาน ทำให้สมัยที่สองเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไป

ถ้าเป็นไปตามนี้ ก็เท่ากับว่า ‘เส้นทางผู้ว่าฯกทม.’ ที่แม้ บุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จะยังไม่ประกาศออกจากปากว่า ‘จะไปต่อ’  แต่ ‘วงใน’ รับรู้กันว่า ‘ไปต่อ’ แน่นอนนั้นสะดวกสดใสและไร้รอยต่อ

สนามเลือกตั้งกทม.รอบนี้ แม้จะเป็นการชิงผู้ว่าฯกทม.คนที่18 ก็ตามแต่ดูท่าแล้วจะได้ผู้ว่าฯกทม.คนที่17 ซะมากกว่า และที่ใครต่อใครมักจะเรียกว่าเป็น ‘ศึกชิงเสาชิงช้า’ นั้น ต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่า รอบนี้ต้องใช้ ‘ศึกชิงหมู่ตึก ธานีนพรัตน์’ เพราะกทม.ที่เสาชิงช้า กำลังจะกลายเป็น ‘พิพิธภัณฑ์’และศูนย์รวมการบริหารกทม.จะมาอยู่ที่ ‘ธานีนพรัตน์’ หรือกทม.ดินแดงนั่นเอง

เหลือบไปดู ‘คู่แข่ง’ ผู้ว่าฯชัชชาติ กันหน่อย  เต็ง1 ต้อง ‘ผู้พันปุ่น’  น.ต.ศิธา ทิวารี ที่วันก่อนถอดเสื้อโชว์ ‘ซิกแพ็ค’ ในวัย 61 ปี ที่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เปิดตัวในนามพรรคประชาชน หรือ ประชาธิปัตย์ ที่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะส่งหรือไม่ และจะส่งใครมาฟื้นฟูพรรคในสนามเมืองหลวง ขณะที่ ดร.โจ้หรือ ดร.คมสัน พันธุ์วิชาติกุล ที่ประกาศแต่ไก่โห่ว่า ‘กทม.ต้องมูฟออน’ ก็ยังไม่ใช่คู่แข่งของ ‘ผู้ว่าฯชัชชาติ’  

นึกกันเล่นๆสนุกๆว่า ถ้า ‘ชัชชาติ’ ไปต่ออีก1สมัยได้ เท่ากับว่าจะไปครบเทอมอีกสมัยในปี 2572 ถึงตอนนั้น ‘พ่อส้ม’ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็พ้นโทษ ’10 ปีการเมือง’ พอดี ถึงเวลานั้น  ถ้า ‘ชัชชาติ’กระโดดมา ‘สนามใหญ่’ รับรองได้ว่า ‘สมน้ำ สมเนื้อ’ แน่นอน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์