เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘ขายของใหม่’หรือ‘รักษาพรรค’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคือ‘คำตอบ’ , ซื้อหวยการเมืองกัน‘ล่วงหน้า’ ผู้กองยอดรักคือ‘เป้า’ไม่ไว้วางใจ

26 ต.ค. 2568 - 23:45

  • พรรคเพื่อไทยยังเดินหน้าหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ไม่เจอสักที

  • รอดูผลเลือกหัวหน้าพรรคว่าจะขายของใหม่ หรือเอาแค่รักษาพรรคให้รอด

  • เกมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอายุสั้นก็มีให้เห็น เพราะเป้าใหญ่อย่างผู้กองเด่นชัดมาก

เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘ขายของใหม่’หรือ‘รักษาพรรค’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคือ‘คำตอบ’ ,  ซื้อหวยการเมืองกัน‘ล่วงหน้า’ ผู้กองยอดรักคือ‘เป้า’ไม่ไว้วางใจ

เรื่องมันมีอยู่ว่า  เพื่อไทยกลายเป็นพรรคการเมืองขาดแคลนหัวหน้าพรรคไปแล้ว  รอดูผลเลือกหัวหน้าพรรค ว่าจะขายของใหม่ หรือรักษาพรรคให้รอดด้วยคนเก่า<>การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอายุสั้นก็เกิดขึ้น  เพราะเป้าหมายตำบลกระสุนตกอย่างผู้กองธรรมนัส แตะตรงไหนก็โดน<>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

‘ขายของใหม่’หรือ‘รักษาพรรค’

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคือ‘คำตอบ’

ปล่อยข่าวกันให้ครื้นเครงสนุกสนานไปเมื่อวันก่อนว่า ‘เดอะโฟม’  พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.แรงงาน ‘หลานชาย’  ซันนี่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ที่ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย จะนั่งเก้าอี้ ‘หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่’

เป็นข่าว ‘555’  แต่แฝงด้วยอารมณ์ ‘ต่อต้าน’ อยู่กลายๆ

ในบรรดา 4 ชื่อที่ปรากฎตามหน้าสื่อออกมาว่าจะคั่วเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ทั้ง สุทิน คลังแสง อดีต รมว. กลาโหม  ผู้มี ‘หัวใจใหญ่กว่าตับ’  ทั้ง ‘แดงอ๋อย’ จาตุรนต์ ฉายแสง ผู้เคยเกือบจะออกไปตั้งพรรค ‘เส้นทางใหม่’ ทั้ง ‘หนิม’ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรมช.คลัง ที่ในสมัยรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ผู้‘หายใจออกหายใจเข้า’ มีแต่เรื่อง ‘แจกเงินหมื่น’และ ‘หมอชนแก้ว’หรือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  อดีตรมว.สาธารณสุข

ทั้งหมด ‘ล้วน’ มีสเปกเหมือนกันคือ ไม่ใช่ ‘คนใน’ ตระกูล ‘ชินวัตร’

มี‘คำถาม’ที่ไกลกว่าตัวบุคคล ที่ลุ้นกันว่าหน้าตาของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะคือใคร คือคำถามที่ว่า งานนี้พรรคเพื่อไทย จะเลือก‘ขายของใหม่’ หรือจะเลือก ‘รักษาพรรค’ เพราะชื่อที่ ปรากฎ ออกมามี ‘น้ำหนัก’ ไปทางรักษา มากไปกว่าเลือกที่จะขาย

หากเป็นการ ‘รักษา’  น้ำหนักจะไปที่โจทย์ข้อใหญ่คือ ภาคเหนือ หรือ ภาคอีสาน แน่นอนว่า ภาคเหนือถือเป็น ‘สนามศักดิ์ศรี’ แต่ภาคอีสานถือเป็น ‘สนามเดิมพัน’

สุทิน คลังแสง  อดีตรัฐมนตรีกลาโหม กำลังรอดูว่าเพื่อไทยจะไปทางไหนในการหัวหน้าพรรค ขายของใหม่ ด้วยคนรุ่นใหม่ หรือรักษาพรรคด้วยคนเก่า   อีกไม่นานรู้กัน
สุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีกลาโหม กำลังรอดูว่าเพื่อไทยจะไปทางไหนในการหัวหน้าพรรค ขายของใหม่ ด้วยคนรุ่นใหม่ หรือรักษาพรรคด้วยคนเก่า อีกไม่นานรู้กัน

เพราะถ้าภาค ‘อีสาน’ แตกเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยก็ ‘นับถอยหลัง’ เมื่อนั้น ดังนั้น โอกาสจึงเป็นของ ‘คนใน’ สายอีสานสูงยิ่ง

ที่ผ่านบทบาทของ ‘สุทิน’ นั้นโดดเด่นในฝ่าย ‘นิติบัญญัติ’ แต่ในแง่ของฝ่าย ‘บริหาร’ ครั้งนั่งรมว.กลาโหมดู ‘บทบาท’ จะน้อยเกินไป แต่สิ่งที่สุทิน ทำนั้นก็เพราะหวังจะเป็น ‘กันชน’ มากว่าที่จะ ‘ชนกัน’

จะชู ‘นายกฯคนอีสาน’ อีกซักรอบ ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน เดี๋ยว 31 ตุลาคมนี้ได้รู้กัน

<<<<<>>>>>> 

ซื้อหวยการเมืองกัน‘ล่วงหน้า’

ผู้กองยอดรักคือ‘เป้า’ไม่ไว้วางใจ

ได้ยิน พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน ที่สวมหมวกโฆษกกรรมาธิการถกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมม.256 และเพิ่มหมวด 15/1 ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมวันที่ 30 ตุลาคมจะนำประเด็น‘ข้อขัดแย้ง’ เรื่องรูปแบบที่มาของ สสร.มาคยกันเพราะยังมีการตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่‘ไม่ตรงกัน’ อยู่

‘มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการใช้สูตรของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยผสมกันคนละครึ่ง’

คนละครึ่งที่ว่านี้ ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะ กมธ. เป็นผู้เสนอ

แต่สาระสำคัญของการแก้ไขในครั้งนี้อยู่ที่ ‘เงื่อนไขเวลา’  กล่าวคือ หากใช้เกณฑ์วันยุบสภา 31 มกราคม 2569 เป็นตัวตั้ง หมายความว่า จะต้องแก้ไข ม.256 ให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน  และจะต้องผ่านวาระ 3 ในเดือนธันวาคม เพื่อให้ทันการประกาศ ‘ยุบสภา’  31 มกราคม ปีหน้า และ ทำประชามติในวันเลือกตั้งทั่วไป

รู้กันทั่วไปว่าการ ‘ยุบสภา’ เป็นอำนาจของนายกฯ แต่อีกทางการ ‘ไม่ยุบสภา’ ก็เป็นอำนาจของนายกฯเช่นกัน แต่เป็นอำนาจแบบ ‘คนละครึ่ง’ กับพรรคประชาชน ที่มีความปรารถนาสูงสุดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับให้จงได้

ที่ว่า ‘คนละครึ่ง’ นั้น มีเงื่อนไขสำคัญอยู่ที่การยื่น ‘ไม่ไว้วางใจ’ ในสมัยหน้าที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12ธันวาคมจะสังเกต ว่าช่วงสัดาห์ที่ผ่านมา พรรคฝ่ายค้ำและพรรคฝ่ายแค้น ตั้งใจจะ ‘นวดแป้ง’ อย่างหนัก

พูดถึงการ‘ไม่ไว้วางใจ’ ในกรณี อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นั้นจะมีหรือไม่นั้นยังไม่ชัด แต่กรณี ‘ผู้กองยอดรัก’ นั้น มีแน่และซื้อหวยไว้ล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า งานนี้ ‘จัดเต็ม’  เพราะทั้งแค้นและทั้งค้ำ ต้องการจะ‘เอาให้ตาย’ ก่อนลงสนามเลือกตั้ง

ได้ยินว่าเกมนี้ ‘อนุทิน’ จะทำใจลำบาก ครั้นจะ‘อุ้ม’ ก็อุ้มไม่ไหวเพราะเสียงไม่พอ  แต่ครั้นจะ‘ปล่อยจอย’ ก็กลัวจะเสียแนวร่วมทาง ‘หลังการเลือกตั้ง’

ชี้เป้ากันตั้งแต่ไก่โห่เลยว่า ‘เป้าใหญ่’ การเมืองรอบนี้อยู่ที่ ‘ผู้กองยอดรัก’  ส่วน ‘เป้าอื่น’ นั้นแค่น้ำจิ้ม เครื่องเคียง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์