เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘น้ำท่วมหาดใหญ่’ถึง‘ศึกซักฟอก’ หมากบังคับ‘ยุบสภา’ไม่ง่ายซะแล้ว , ฟื้นฟูเยียวยา‘ชี้ขาด’ความนิยม เดิมพันอนาคตการเมือง‘อนุทิน’

27 พ.ย. 2568 - 23:45

  • มองวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ กับการยุบสภาหากถูกยื่นอภิปราย ไม่ง่ายเหมือนที่คิด

  • สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ดีขึ้น แต่อย่าอ้างว่าฝีมือของรัฐบาล

  • หลังจากน้ำลด มาตรการเยียวยาของรัฐต้องชัดเจน ครบถ้วน ถ้ายังไม่ใส่ใจก็จมไปกับน้ำได้เลย

เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘น้ำท่วมหาดใหญ่’ถึง‘ศึกซักฟอก’ หมากบังคับ‘ยุบสภา’ไม่ง่ายซะแล้ว , ฟื้นฟูเยียวยา‘ชี้ขาด’ความนิยม เดิมพันอนาคตการเมือง‘อนุทิน’

เรื่องมันมีอยู่  การยุบสภาหากถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ  อาจไม่ง่ายเหมือนที่คิด เพราะมีตัวแปรอื่นเข้ามา<> สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย  แต่อย่าอ้างว่าเป็นฝีมือรัฐบาล ชาวบ้านจะดูถูกเอา รอดูหลังน้ำลด มาตรการเยียวยาของรัฐบาลต้องครบ ชัด จบจริง  ถ้าไม่ได้ภูมิใจไทยก็หายไปกับน้ำท่วม<>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

‘น้ำท่วมหาดใหญ่’ถึง‘ศึกซักฟอก’

หมากบังคับ‘ยุบสภา’ไม่ง่ายซะแล้ว

เมื่อวาน อดีตรมว.วัฒนธรรม อดีตสส.หลายสมัย จ.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์ในเฟซบุ๊กน่าสนใจ ในประเด็นการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดของกระทรวงมหาดไทย

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ปัจจุบันชื่อ รัฐศาสตร์ ชิดชู ก่อนที่จะมาอยู่ สงขลา อยู่จ.พัทลุงมาก่อน จากนั้นถูกโยกย้ายไปจ.กระบี่ อยู่ที่นั่นได้ไม่น่าจะเกิน10 วัน ก็ถูกย้ายไปจ.สงขลา ก่อนที่จะมี ‘มหาวิกฤตอุทกภัย’ อ.หาดใหญ่

ง่ายๆก็คือ  ‘1 เดือน’ เป็นผู้ว่าฯถึง 3 จังหวัด เอาจริงๆนะทั้ง 3 จังหวัดนั้น ล้วนเป็นพื้นที่เป้าหมายทางการเมืองของพรรคสีน้ำเงิน

ตั้งแต่ 1 ตุลาคม จนถึงตอนนี้ที่กำลังครบ 60 วันการเป็นนายกฯเพื่อมา ‘ยุบสภา’ ของอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ตลอดจะ 60 วัน การโยกย้ายทั้งเล็กทั้งใหญ่ ‘หลายล๊อต’ เกิดขึ้นที่กระทรวงมหาดไทย จะอ้างเรื่องคืนความเป็นธรรม เพื่อความเหมาะสม ตามสายงาน หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ แต่สังคมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า น่าจะมีการชิงความได้เปรียบทางการเมืองกันอยู่เป็นแน่

‘1 เดือน เป็นผู้ว่า 3 จังหวัดอย่างนี้ คนออกคำสั่งไม่เมา(กัญชา) ก็บ้าแล้ว’ โพสต์ของ นิพิฏฐ์ ระบุไว้

ระหว่างวันที่ 10 -11ธันวาคมหรืออาจจะต่อเนื่องไปถึงวันที่ 12 ธันวาคม จะมีการประชุมถก การแก้ไขรธน.ม.มาตรา256 ในวาระที่ 2 หากผ่านรัฐสภาด้วย ‘เสียงข้างมาก’ จะทิ้งไว้ 15 วันแล้ามาโหวตกันในวาระที่3 ประเมินว่า น่าจะแถวๆ ก่อนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ส่วนการยื่นไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะยื่นได้ตั้งแต่ก็เปิดสภาผู้แทนราษฎรคือ วันที่ 12 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ แม้จะยัง ‘ไม่ชัด’ ว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นในวันที่ 12 ธันวาคมเลยหรือไม่ แต่นายกฯหนู บอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า หากยื่นเมื่อไหร่ รัฐบาลก็‘ยุบสภา’ เมื่อนั้นโดยระบุความจริงทางการเมืองว่า อย่างไรเสีย‘รัฐบาลเสียงข้างน้อย’ ก็แพ้โหวตวันยังค่ำ

ในท่ามกลางปัญหา ‘น้ำท่วมภาคใต้’ ที่นับจากวันนี้ เหลือเวลาราวๆ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะเปิดสภา จะเพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาหรือไม่ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ แล้วฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ‘ยื่น’ ไม่ไว้วางใจแล้ว นายกฯหนู

‘ยุบสภา’ตามที่บอกกล่าวไว้ จะกลายเป็นการ ‘ทิ้งปัญหา’หรือไม่

แม้จะเป็น รัฐบาลรักษาการณ์อยู่ก็ตาม  แต่การจะทำอะไรทางด้านบริหารที่เกี่ยวกับการใช้งบประมาณนั้นต้องส่งเรื่องให้ กกต.เห็นชอบก่อน

‘ยุบสภา’หนี ‘ไม่ไว้วางใจ’  ทำท่าจะไม่ง่ายซะแล้วหล่ะมั้งครับเนี่ย

<<<<<>>>>> 

ฟื้นฟูเยียวยา‘ชี้ขาด’ความนิยม

เดิมพันอนาคตการเมือง‘อนุทิน’

แม้จะเป็น ‘ข่าวดี’ในท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ปริมาณน้ำเริ่มคลี่คลาย แต่นั่นเป็นแค่ปัญหาหนึ่งเท่านั้น  ที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือการเร่งฟื้นฟูเยียวยาและ ‘ชุบชีวิต’ให้อ.หาดใหญ่กลับมาเป็น ‘ศูนย์กลาง’ ของเศรษฐกิจภาคใต้น่าจะเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า รวมไปถึง ‘แผนอนาคต’ เพื่อไม่ให้ปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำซาก

จำนวนศพของผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นเรื่องที่บอกได้ถึงการบริหารงานที่ล้มเหลวผิดพลาดของรัฐบาลและรัฐราชการได้ระดับหนึ่ง

แต่ภาพของผู้คนที่ออกจากบ้านหลังน้ำลด ‘ต่อแถว’ ยาวเยียดเพื่อรับอาหารมาประทังชีวิต น่าจะฟ้องได้เป็นอย่างดีว่า จากนี้ไปหากรัฐบาลภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทยยัง ‘ยืนงง’ ในดง ‘น้องน้ำ’ เหมือนที่ผ่านมา ‘โอกาส’ ที่หวังจะกลับมาเป็นรัฐบาลก็น่าจะเหนื่อย‘ลากไส้’ เลยทีเดียวโดยเฉพาะใน 14 จังหวัดภาคใต้

นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล คะแนนนิยมหล่นหายไปพอควร แต่ถ้าหลังน้ำลดแล้ว มาตรการเยียวยายังไม่โดนหรือดีพอ เสียงก่นด่าก็จะตามมาอีกครั้
นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล คะแนนนิยมหล่นหายไปพอควร แต่ถ้าหลังน้ำลดแล้ว มาตรการเยียวยายังไม่โดนหรือดีพอ เสียงก่นด่าก็จะตามมาอีกครั้

มาตรการเยียวยาต้อง ‘เร็วชัดครบ’ ในทุกมิติ มาตรการฟื้นฟูต้อง ‘ทั่วถึงเท่าเทียมเป็นธรรม’ ไม่มีสี ไม่มีข้าง ไม่เลือกฝ่าย

เชื่อว่ารัฐบาลโดย เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง เตรียมไว้หมดแล้ว แต่ที่ผ่านมาทุกครั้งหลังปัญหา ‘วิกฤต’  มักจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ

ในมุมของงบประมาณแก้ไขปัญหา สำหรับรัฐบาลแล้วไม่น่าจะมีปัญหา แอบไปดูงบประมาณของ ‘นครหาดใหญ่’ ซึ่งขณะนี้ ‘นายกแป้น’ หรือ  ณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงประสิทธิภาพในการทำงาน

ในเอกสารงบประมาณประจำปี2568 ระบุ 10 อันดับ ‘เทศบาลนคร’ ที่มีงบประมาณสูงสุด ปรากฏว่า ‘เทศบาลนครนนทบุรี’ มาอันดับ1 วงเงิน 1,033 ล้านบาท ส่วน ‘เทศบาลนครหาดใหญ่’ อยู่อับดับ5 จำนวน 741 ล้านบาท ไหนจะ อบจ.สงขลา ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ได้บรรลุข้อตกลงการกู้เงิน2,000ล้าบบาทมาทำ ‘ถนน’ ทั่วจ.สงขลา

ต่อจากนี้ถ้าไม่ได้เสียง ‘ปรบมือ’ แทน ‘เสียงก่นด่า’ ก็ได้เวลาตัวใครตัวมันแล้วหล่ะครับ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์