เรื่องมันมีอยู่ว่า จับตาสนามเลือกตั้งซ่อมกาญจนบุรี จะทดสอบการยกเครื่องใหม่ของพรรค ดูกันว่าเครื่องใหม่จะทำงานได้หรือไม่ <> การปรากฏตัวของบ้านใหญ่รัตนเศรษฐในงานวันเกิดครูใหญ่เนวิน มีคำถามตามมามากมาย สุดท้ายก็วัดใจคนใหญ่บุรีรัมย์ว่าเอาอย่างไร<>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
ยกเครื่องเพื่อไทยในเงาชินวัตร
ซ่อมเมืองกาญฯระวัง‘เครื่องไหม้’
‘สู้ๆนะคะ’ คือเสียงของ ‘คุณหญิงอ้อ’ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่ใช้ในการปลุกใจ
บรรดาสส.พรรคเพื่อไทยที่กำลัง ‘เสียขวัญ’ กับ 2 เหตุการณ์ไล่ๆกัน เหตุการณ์แรก กรณี ‘คลิปลุง-หลาน’ จนแพท องธาร ชินวัตร ต้องกระเด็นหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหตุการณ์ต่อมาคือ การเดินเข้า ‘คุก’ ของผู้นำทางจิตวิญญาณ ทักษิณ ชินวัตร ท่ามกลางการประเมินว่า พรรคเพื่อไทยจะยัง ‘ไปต่อ’
ปรากฎการณ์ ‘แดงกินข้าว’ หน้าเรือนจำคลองเปรม การเข้าเยี่ยมของคนใน 3 ตระกูล ‘ชิน-ดา-วงศ์’ การปล่อยข่าวทายาทการเมือง รุ่นต่อไปของ ‘ชินวัตร’ เรื่อยมาจนถึงการประกาศ ‘ยกเครื่อง’ ใหม่ของพรรค การกลับมาชูบทบาทของ ‘อุ๊งอิ๊งค์’ อีกครั้ง เหล่านี้ล้วนบอกให้รู้ว่า ‘เพื่อไทยเนเวอร์ดาย’
ถือเป็นการเตรียมพร้อม ‘เดินหน้า’ เพื่อลงสนามการเลือกในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยมี ‘คู่แข่ง’ ทางการเมืองที่สำคัญคือ พรรคกล้าธรรม ของคนที่ทักษิณเคยไว้ใจ อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแกนนำ
ถ้า ‘คู่เอก’ คือพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน
‘รองคู่เอก’ก็คือ พรรคกล้าธรรม กับ พรรคเพื่อไทยนี่แหละ
โดยมีสนามภาคเหนือเป็นพื้นที่ ‘เดิมพัน’ พูดง่ายๆก็คือ ทั้ง 2 พรรคนี้ วางยุทธศาสตร์ตรงกันว่าจะเป็นพรรคขนาดกลาง ซึ่งจะเนื้อหอมที่สุดสำหรับสูตร ‘รัฐบาลผสม’
จุดที่น่าจะวัด ‘ความนิยม’ ว่าพรรคเพื่อไทย ในอ้อมอกชินวัตรจะ ‘เดินต่อ’ หรือ ‘สะดุด’ อีกครั้งจะอยู่ที่การเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 4 กาญจนบุรี แทน ศักดา วิเชียรศิลป์ ที่กระโดด ‘ข้ามขั้ว’ พา ‘งูเห่า’ไปสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยจนได้อวยยศเป็นถึง รมช.มหาดไทย
เขต 4 กาญจนบุรี มี 19 ตำบล มี ‘ขุนพล’ เพื่อไทยระดมกันลงหาเสียง นำโดยอดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่กำลัง ‘ได้น้ำ’ จากความพยายาม ‘ทำคลอด’ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ก่อนที่จะ ‘ปิดสมัยประชุม’ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้
ที่เพื่อไทยประกาศจะ ‘ยกเครื่อง’ เพื่อเดินหน้าต่อ จึงอยู่ที่ ‘ผล’ การเลือกตั้งซ่อมที่เขต 4 เป็นสำคัญ เพราะถึงตอนนี้ ยังไม่เห็น อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคลงช่วยหาเสียงซักครั้ง ผิดกับการเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ ที่ภูมิใจไทย ‘เข้าป้าย’ คะแนนทิ้งห่างพรรคเพื่อไทย หลักหลายพันคะแนน
ทักษิณ-แพทองธาร-เพื่อไทย จะยัง ‘ขายได้’ ไหม จึงอยู่ที่ประชาชนแถว อ.ห้วยกระเจา อ.เลาขวัญ แล้วหล่ะว่า จะเลือกพรรคอดีตรัฐบาลหรือจะเลือกพรรคปัจจุบันรัฐบาล
เชื่อเหลือเกินว่างานนี้มี ‘ยิงกันกระจาย’
<<<<<<>>>>>>
ตระกูล‘รัตนเศรษฐ’กับฟุตซอล
ผลงาน‘ชิ้นโบว์ดำ’ที่ตามหลอน
1.พวกตัวเองก็โกง
2.ไม่อยากเสียโอกาส ไม่ผูกมัดตัวเอง
3.เกรงใจพวกพ้อง
4.ระบบเทาๆ คนเทาๆ ปล่อยอย่างนี้ดีแล้ว จะได้ครอบงำและใช้งานง่าย
5.ไม่กล้าขัดผลประโยชน์ข้าราชการ กลัวเขาเกียร์ว่าง
6.ไม่เห็นความสำคัญ
7.พูดได้ ทำไม่เป็น
เป็น 7 เหตุผลที่นักการเมือง ไม่ชอบพูดเรื่องคอร์รัปชัน ในมุมมองของ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT โพสต์ไว้เมื่อวันก่อน
ดูเหมือนว่า เวลานี้ ‘สังคมไทย’ กำลังใกล้จะ ‘ด้านชา’ กับการทุจริตคอร์รัปชันเข้าไปทุกที ขนาด ‘จับได้ไล่ทัน’ แต่บทลงโทษทางสังคมที่ตามมาก็แทบจะไม่มีให้เห็น
วันก่อนที่งานวันเกิด ‘ครูใหญ่’ เนวิน ชิดชอบ ที่บุรีรัมย์ เห็นการปรากฏตัวของตระกูล ‘รัตนเศรษฐ’ บ้านใหญ่ของจ.นครราชสีมา ท่ามกลางข่าวว่า ‘ทายาท’ ทางการเมืองที่ชื่อ ‘ทวิรัฐ’ และ ‘ตติรัฐ’ จะตบเท้าเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย

พูดถึงตระกูล ‘รัตนเศรษฐ’ ต้องพูดถึง วิรัช และทัศนียา อดีต สส. และอดีตรัฐมนตรี ผู้ฝากผลงาน ‘สนามฟุตซอล’ อันลือลั่น
โครงการสนามฟุตซอล เกิดจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในยุค รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯได้จัดสรรงบประมาณปี 2555 ให้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ 17 จังหวัด เป็นค่าก่อสร้าง-ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียนและสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่กลับนำไปสร้าง ‘สนามฟุตซอล’
ล่าสุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาว่า นายวิรัช มีความผิดลงโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา
ส่วน นางทัศนียา ภรรยาโดนคุก 3 ปี 4 เดือน
คดีนี้ ป.ป.ช.ใช้เวลาไต่สวน 4 ปี มีการบรรยาย ‘พฤติการณ์’ ของนายวิรัช กับพวกสรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทตามหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระทำความผิดอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการโดยทุจริต ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน 18 จังหวัด วงเงินประมาณ 4,459,420,000 บาท ใน 2 โครงการหลัก 1 ในนั้นคือ โครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล รวมถึงมีการวางแผนในการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ
ในช่วงที่มีการจัดทำงบประมาณปี2555 นายวิรัช ,นางทัศนียา และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลงซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา ได้สั่งการให้พวกของตัวเอง เข้าไปประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 เพื่อจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลให้
โดยเข้าไปครอบงำ บงการการใช้จ่ายงบประมาณในวงเงินดังกล่าวโดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย อันเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168
แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด เพราะมีขั้นตอน ‘อุทธรณ์’ แต่สำนวนป.ป.ช.กับคำพิพากษา ‘คาหนังคาเขา’ขนาดนี้ภูมิใจไทยจะ ‘ส่งประกวด’ จริงๆหรือ


