เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘เลื่อนเลือกตั้ง’กับความน่าจะเป็น ประชาธิปไตยในภาวะ‘สงคราม’ , 4พรรคชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ‘ภท.-ปชน.-พท.-ปชป.’มีสิทธิ

14 ธ.ค. 2568 - 23:46

  • ยุบสภาแล้ว กำหนดการเลือกตั้งก็เป็นไปตามกฎหมายประมาณ 60 วัน

  • มีแนวคิดเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะความขัดแย้งไทยกัมพูชายังไม่จบง่าย

  • 4 พรรคชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จับตาคะแนนเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจ

เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘เลื่อนเลือกตั้ง’กับความน่าจะเป็น ประชาธิปไตยในภาวะ‘สงคราม’ , 4พรรคชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ‘ภท.-ปชน.-พท.-ปชป.’มีสิทธิ

เรื่องมันมีอยู่ว่า   การเลือกตั้งหลังการยุบสภาที่จะเกิดขึ้นภายใน 60 วัน ก็มีแนวคิดว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะความขัดแย้งไทยกัมพูชาไม่จบง่าย ๆ <> 4 พรรคเปิดตัวว่าที่นายกรัฐมตรีกันแล้ว ร้องยี้ หรือ ร้องเยี่ยม ก็ตามแต่พรรคจัดมาให้  จับตาคะแนนเงียบที่ยังไม่ตัดสินว่าเลือกใคร เกมอาจพลิกได้<>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

‘เลื่อนเลือกตั้ง’กับความน่าจะเป็น

ประชาธิปไตยในภาวะ‘สงคราม’

วันก่อนได้ยิน แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ระบุว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา  กกต. ต้องประกาศวันเลือกตั้งและจำนวนเขตเลือกตั้งก่อนให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวจะได้ ‘วันเลือกตั้ง’ ที่ชัดเจน ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม จะพิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส่วนในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม จะประกาศกำหนด ‘วันเลือกตั้ง’และ‘วันรับสมัครเลือกตั้ง สส.’

เลขาธิการกกต.บอกด้วยว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 104 ระบุว่า ‘ถ้ามีเหตุจำเป็น’ กกต. สามารถกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้ ‘แต่ต้องจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นภายใน 30 วัน นับแต่เหตุการณ์นั้นสิ้นสุดลง’ ซึ่งเป็นการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ และเป็นการขยายเวลาของทั้งประเทศ เพราะต้องให้การเลือกตั้งเป็น ‘วันเดียวกัน’ ทั่วราชอาณาจักร

แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กำลังพิจาราตัดสืนใจว่า จะมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่  จากเหตุภาวะสงครามที่เกิดขึ้น
แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กำลังพิจาราตัดสืนใจว่า จะมีการเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ จากเหตุภาวะสงครามที่เกิดขึ้น

‘ดังนั้น ตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะต้องขยายวันเลือกตั้งหรือไม่ เพราะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด การเลือกตั้งและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะต้องเดินไปด้วยกัน’ แสวง ระบุ

ในมุมเลือกตั้ง   ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาในระยะเวลา 5 วัน  กกต.ต้องมีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งไม่น่าจะเกิน 17 ธันวาคม ส่วนจะเป็นวันที่ ‘1 กุมภาพันธ์ 2569’หรือ ‘8 กุมภาพันธ์ 2569’ เดี๋ยวได้รู้กัน

ทั้งนี้ ‘ส่วนสำคัญ’ ซึ่งน่าที่จะพอมองเห็น ‘ทิศทาง’ ว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะ ‘สะดวกโยธิน’ หรือติด ‘อุปสรรคปัญหา’ คือวัน ‘สมัครรับเลือกตั้ง’ ซึ่งต้องเกิดขึ้นภายใน 15 วัน หรือไม่น่าจะเกิน วันที่ 27-28 ธันวาคมที่จะถึงนี้

ท่ามกลางภาวะ ‘สู้รบ’ ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาใน 7 จังหวัด ‘รอบใหม่’ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ดูเหมือน ‘การหยุดยิง’ ไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยง่าย  ตราบใดที่ไทยยังไม่สามารถ ‘กำจัดขีดความสามารถ’ของกัมพูชาในการรุกรานในอนาคตลงได้

มองโลกในแง่ดี แม้จะ ‘สมัครรับเลือกตั้ง’ ผ่านไป แต่ระยะเวลาการ ‘รณรงค์หาเสียเลือกตั้ง’ เรื่อยไปจนถึงวันใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ‘นอกเขต-ล่วงหน้า’ อาจจะ ‘ไม่ราบรื่น’ หากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ‘ยังไม่แผ่ว’

เป็นการแสดงออกซึ่งประชาธิปไตยในภาวะ ‘กึ่งสงคราม’ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย

<<<<<>>>>> 

4พรรคชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

‘ภท.-ปชน.-พท.-ปชป.’มีสิทธิ

ถ้าตามกติกา พรรคการเมืองที่มีสิทธิเสนอชื่อ ‘แคนดิเดต’นายกรัฐมนตรีในนามพรรคต้อง มีสส.ในพรรครับรอง 25 คนขึ้นไป ซึ่งถึงตอนนี้ก็น่าจะมี 4-5 พรรคเท่านั้นที่มีสิทธิ

พรรคแรก ภูมิใจไทย ที่เสนอแล้ว 3 ชื่อ ‘ครบโควต้า’ อย่างไม่เป็นทางการ ประกอบด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล,เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ซึ่งกรณี ศุภจี นั้นจนป่านนี้ก็ยัง‘ไม่มีความชัดเจน’จากเจ้าตัว

ขณะที่พรรคประชาชน มี 3 ชื่อ ‘ครบ’ เช่นกัน แม้ที่ผ่านมาจะเสนอชื่อแค่ ‘คนเดียว’ แต่คราวนี้เหมือนจะได้ประสบการณ์จึงมาครบทั้ง 3 คน ประกอบด้วย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ,ศิริกัญญา ตันสกุล และวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ในกรณี ‘ณัฐพงษ์กับศิริกัญญา’ นั้นมีคดี ‘เข้าชื่อแก้112’ ที่รอปปช. ‘ชี้มูล’ อยู่

อีกพรรคคือเพื่อไทย ที่ชัดเจนว่าจะชื่อ ยศชยัน วงศ์สวัสดิ์ ,จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส่วน ‘พรรคกล้าธรรม’ แม้ถูกคาดการณ์ว่าจะได้ สส.เกิน 25 คนแบบ ‘สบายๆ’ แต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ชัดเจนแล้วว่า ‘จะไม่ส่ง’ เพราะชัดเจนว่าจะสนับสนุน ‘อนุทิน’ เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ ประชาธิปัตย์ ที่นับวันจะ ‘ดีคืน ดีวัน’ นั้นน่าจะได้ สส.เกิน 25 คนและพรรคจะส่ง ‘แคนดิเดต’ 3คน ซึ่งชัดเจนว่าจะมี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนอีก 2 คน คนหนึ่งน่าจะชื่อ กรณ์ จาติกวณิช ส่วนอีกชื่อน่าจะเป็น ‘อนาคต’ ที่พรรคจะเอาไว้สร้างคะแนนนิยมทางการเมืองต่อไป

ในความพร้อมทางการเมืองเวลานี้ ‘หนีไม่พ้น’ ที่ ‘สีน้ำเงิน’ จะชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกับ ‘สีส้ม’ แต่ก็แปลกดีนะเพราะล่าสุด ‘นิด้าโพล’ เผยผลสำรวจพบว่า ‘เกือบครึ่ง’ ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งระบุว่า ‘ยังหาผู้ที่มีความเหมาะสม’ไม่ได้

‘เส้นทาง’ นายกรัฐมนตรีคนที่ 33 ยัง ‘เปิดกว้าง’ สำหรับพรรคการเมือง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์