เรื่องมันมีอยู่ว่า พรรคชาติไทยพัฒนาของทายาท บรรหาร ศิลปะอาชา กลายเป็นพรรคเนื้อหอมขนาดเล็ก และข่าวลือที่ถูกปฎิเสธแล้วในการเข้าร่วมเพื่อไทย ต้องรอดูว่าอยากเป็นหัวหรืออยากเป็นหาง <>ศิริโชค โสภา อดีตฉากหลัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังเปลี่ยนไปเป็นคนยืนหลังผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่าแทน <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
จะเป็น‘หัวหมา’หรือ‘หางราชสีห์’
‘ชาติไทยพัฒนา’พรรคเนื้อหอม
‘สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน พรรคชาติไทยพัฒนามี 10 เสียง เป็นที่หอมหวานของทุกพรรค ที่อยากเข้ามาจีบ’ ท๊อป วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาให้สัมภาษณ์ไว้ถึง ‘สถานการณ์ทางการ’ ของพรรค พร้อม ‘ปฏิเสธ’ การเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยด้วยการเป็น 1 ในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี
พรรคชาติไทยพัฒนา เจ้าของสัญลักษณ์ ‘สีชมพู’ คือพรรคการเมืองซึ่งต่อยอดการเมืองมาจากพรรคชาติไทยที่ถูก ‘ยุบพรรค’ พร้อมๆกับพรรคพลังประชาชน จนเกิดนักการเมืองบ้านเลขที่ 109
พรรคชาติไทย ใครๆก็รู้ว่า คือพรรคการเมืองที่ ‘มังกรเมืองสุพรรณ’ บรรหาร ศิลปอาชา บุกเบิกปลุกปั้น กรุยทางจนขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย
วันนี้พรรคชาติไทยพัฒนามี ‘ลูกท๊อป’ วราวุธ เป็นหัวหน้ามี สส. ของพรรครวมทั้งหมด 10 คน คือ วราวุธ เป็นสส. บัญชีรายชื่อ ที่เหลือ 9 คนเป็นสส. เขต ประกอบด้วย สส. เมืองสุพรรณ 5 คน คือ สรชัด สุจิตต์ , ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ , นพดล มาตรศรี , เสมอกัน เที่ยงธรรม และประภัตร โพธสุธน สส.อีก 3 เป็นผู้แทน นครปฐมคือ ศุภโชค ศรีสุขจร , พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ และอนุชา สะสมทรัพย์ พ่วงท้ายด้วย อนุรักษ์ จุรีมาศ สส. ร้อยเอ็ด
หากพูดถึง ‘พวก’ วราวุธก็แนบแน่นสนิทกับ ‘เดอะหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล อยู่มาก ขณะที่ผู้อาวุโส ขุนพลคู่กายบรรหาร อย่าง ‘อาจารย์เม้ง’ หรือ ประภัตร โพธสุธน ก็สนิทสนมกับ ทักษิณ ชินวัตร เกินขั้นปกติธรรมดา
ในกติกาเลือกตั้งปัจจุบันต้องยอมรับว่า ‘พรรคเล็ก’ นั้นอยู่ยาก แม้ที่ผ่านมาจะมีหลายพรรคก็ตาม ‘แจ้งเกิด’ แต่นั่นน่าจะเกิดจากการจับสลาก ‘เบอร์พรรค’ เพราะพรรคที่เดินเข้าสภาล้วนได้ ‘เบอร์พรรค’ แบบ ‘เลขตัวเดียว’ ทั้งสิ้น
ในสนามการเลือกตั้งพรรคเล็กนั้น ‘หาเสียงลำบาก’ และแทบจะไร้ความหมายในสภา หากพรรคเล็กนั้นมีเสียงไม่ถึง25 เสียง ซึ่งชาติไทยพัฒนา ตกอยู่ในสภาพนี้
ในความเนื้อหอมที่พรรคสุพรรณบุรีกับพรรคนครปฐมรวมกันอยู่ ‘ท๊อป’ น่าจะหมายการมี ‘เท้าติดดิน’ เป็นสส.เขตที่มีความแน่นอนกว่า สส.เท้าเหยียบอากาศอย่าง สส.บัญชีรายชื่อ ที่ฝากความหวังไว้กับ ‘กระแส’
เมื่อการเมืองเดินมาถึง ‘ทางแยก’ พรรคสีชมพูนั้นมีอยู่ 3ทาง ทางหนึ่งอยู่อย่างที่อยู่ตอนนี้ซึ่งเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ อีกทางหนึ่งคืออยู่แบบปัจจุบันแต่ชัดเจนว่าเป็น ‘พันธมิตร’ กับฝั่งไหน ซึ่งน่าจะช่วยลดแรงเสียดทานลงไปได้มาก ขณะที่ทางสุดท้าย กลายสภาพเป็น ‘มุ้งการเมือง’ ในพรรคใหญ่
จะเป็น ‘หัวหมา’ หรือจะเป็น ‘หางราชสีห์’ เดี๋ยวอีกซักพักก็รู้
<<<<<<>>>>>>
‘วอลเปเปอร์’กำลังจะเปลี่ยนสี
ศิริโชค โสภา’ซบ‘กล้าธรรม’
หลังการทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรคของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน จนมาถึงการเลือกกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 18. ตุลาคมที่จะถึงนี้ สังคมแทบไม่ได้เห็นบทบาทของ ‘แก๊งไอติม’ ยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมากนัก
ทางหนึ่งเป็นเพราะ ‘เดอะมาร์ค’ ไม่ปรารถนา ‘สงครามวิวาทะ’ ที่ไม่ว่า ‘ฝ่ายไหน’ จะเข้าวินก็ล้วนไม่เป็นผลดีกับพรรค ขณะที่อีกทาง ‘แก๊งไอติม’ บางคนไม่ต้องการจะกลับพรรค แต่มองไปที่การกลับมาเป็น สส.ซะมากกว่า
ได้ยิน ศิริโชค โสภา โพสต์ถึงพรรคค่ายสีฟ้าอย่างประชาธิปัตย์ที่ ‘ทำคลอด’ ตัวเองทางการเมือง อย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้นแล้วก็แปลกใจว่า งานนี้ทำไม ศิริโชค ถึงกระตือรือร้น น้อยกว่าปกติ ทั้งๆที่ อภิสิทธิ์ มีโอกาสสูงถึงสูงมาก ที่จะ ‘คืนรัง’ กลับมาฟื้นฟู ปฏิรูปพรรค
ศิริโชค เริ่มต้นการเมืองในสนามใหญ่กทม.แถวบางแค ร่วมทีม ‘โกวิทย์-จ่ามี’ แต่ไม่ได้เข้าสภา จากนั้นมาเป็น ‘ทีมงาน’ ชวน หลีกภัย และมาเจิดจรัสโสภาในยุคอภิสิทธิ์ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ว่ากันว่า ศิริโชค คุยกับ อภิสิทธิ์ แบบถูกคอเรื่อง ‘ฟุตบอลอังกฤษ’ ตามประสา ศิษย์เก่าประเทศอังกฤษด้วยกัน แม้อภิสิทธิ์จะเชียร์ ‘นิวคาสเซิล’ ขณะที่ศิริโชคเชียร์ ‘สโต๊คซิตี้’ ก็ตาม
ศิริโชค ค่อนไปในทางไม่แฮปปี้เมื่อสื่อตั้งฉายาให้เป็น ‘วอลเปเปอร์’ คำว่าวอลเปเปอร์มาจาก ‘เดี่ยวไมโครโฟน’ ของ ‘โน้ตอุดม’ แต่ภายหลังดูเหมือน ศิริโชค จะมีความสุขกับสมฉายานี้
ศิริโชค ทำการเมืองที่จ.สงขลา แถว อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย-อ.เทพา-อ.จะนะ แต่ด้วยเพราะ ‘ยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง’ ครั้นจะ ‘กลับบ้านเก่า’ ผลลัพธ์ก็น่าจะไม่ต่างจากที่ผ่านมา ‘ทางเลือกใหม่’อย่าง พรรคกล้าธรรม จึงเกิดขึ้น
ปัจจุบันสงขลามี 9 เขตเลือกตั้ง แต่ละเขต ‘แข่งขัน’ กันหน่วงหนัก .หากดูปัจจัยแวดล้อมทุกอย่างเสร็จสรรพ ก็อย่าแปลกใจหาก ‘ศิริโชค’ จะเลือกทางที่เชื่อว่า จะกลับมาเป็น ‘วอลเปเปอร์’อีกครั้ง
