เรื่องมันมีอยู่ว่า หักกันกลางสภาฯ จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ที่ปัญหาเรื่อง สว. พรรคส้มเสียงแข็ง และเตรียมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เจอไม้เด็ดพรรคน้ำเงิน ประกาศยุบสภาทันทีตามที่ขู่ไว้ <> คาดกันว่า 8 กุมภาพันธ์ 2569 คนไทยจะได้ออกไปหย่อนบัตร ใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ต้องถาม กกต.ว่าพร้อมหรือยัง <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
เกม‘หักเหลี่ยมโหด’น้ำเงิน-ส้ม
‘ยุบสภา’กับวลี‘ยูโนมีลิตเติ้ลโก’
ในที่สุดปฏิบัติการ ‘หักเหลี่ยมโหด’ ก็เกิดขึ้นจนได้ในที่ประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญเพื่อถกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา256 วาระที่ 2
มูลเหตุสำคัญก็มาจากการตัดสิทธิ สว.ไม่ให้ใช้สิทธิ 1ใน3 เพื่อโหวตรับร่างรัฐธรรมนูญ ว่ากันว่า การคงไว้ซึ่งสิทธิโหวต1ใน 3 นั้นเพื่อเป็น ‘หลักประกัน’ ว่า สว.ชุดปัจจุบันที่ ‘ส่วนใหญ่’ถูกกล่าวหาว่า ‘ฮั้วกันเข้ามา’ จะอยู่จนครบวาระ 5 ปี แม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะประกาศใช้แล้วก็ตาม
เมื่อวาระ 2 มีปัญหา โอกาสที่จะ‘ผ่าน’ ในวาระที่ 3 ก็แทบจะ ‘มืดมน’ ด้วย ‘มูลเหตุที่ว่ามา ’ จึงเป็นที่มาที่พรรคประชาชนจะยื่น ‘ซักฟอก’ รัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล ด้วยข้อหา ‘ฉีกMOA’
เหตุการณ์แบบนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ ‘คาดหมาย’ ของอนุทิน อยู่ก่อนแล้วและที่ผ่านมา อนุทินก็ย้ำนักย้ำหนาแล้วว่า หากจะยื่นซักฟอกเมื่อไหร่ นายกฯจะใช้อำนาจ ‘ยุบสภา’ เมื่อนั้น
และที่สุด ก็เกิด ‘การยุบสภา’ ขึ้นจนได้ แม้จะเร็วกว่า 120 วันของการเป็นรัฐบาลในวันที่ 31 มกราคม 2569 ก็ตาม จะบอกว่า สีน้ำเงิน ‘ตระบัดสัตย์’ หรือสีส้ม ‘เสียค่าโง่’ ก็ตามแต่ แต่เหตุการณ์ ‘หักเหลี่ยมโหด’ กันในรัฐสภา จะเป็นหัวข้อสำคัญหัวข้อที่แต่ละฝ่ายจะได้บอก ‘ข้อเท็จจริง’ ให้สังคมรับทราบระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
แน่นอนการเลือกตั้งในปี 2569 นี้จะไม่มีอะไร ‘แตกต่าง’ จากการเลือกตั้งในปี 2566 ที่เบอร์พรรคกับเบอร์ผู้สมัครสส.จะ ‘คนละเบอร์’ และเป็นการใช้สิทธิแบบ ‘บัตร 2 ใบ’
จะมีเหตุการณ์ให้ ‘หวั่นวิตก’ ก็คงไม่พ้นสถานการณ์ไทยกัมพูชา ที่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าเมื่อถึงวัน ‘หย่อนบัตร’ จะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ ๆ นายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ และครม.รักษาการณ์ จะยังคงเป็นอนุทินและคณะ
สำหรับ ‘ความพร้อม’ ของพรรคการเมือง ถึงนาทีนี้ต้องบอกว่า พรรคภูมิใจไทย ‘พร้อมที่สุด’ ผ่านกระบวนการ เตรียมเลือกตั้ง ตั้งแต่ ‘แคนดิเดต’ นายกฯ ไปจนถึง ‘บ้านใหญ่’ ที่ตบเท้าเข้าพรรคสีน้ำเงินกันไม่เว้นแต่วัน
บอกเลยว่า การเลือกตั้ง‘รอบนี้’ จะไม่พ้นการนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหา ‘4 ภัย’ ที่ประกอบด้วย ภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่งคง ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม
ที่สำคัญเหนืออื่นใด รัฐบาลในภายภาคหน้าเป็น‘รัฐบาลผสม’ แน่ๆส่วนสีไหนจะผสมกับสีไหน จะมี ‘สีเทา’ หรือไม่มี ‘สีเทา’ จากนี้ไปไม่เกิน 60วั น ‘เจ้าของอำนาจอธิปไตย’ ที่แท้จริงจะมีโอกาสตัดสินใจเลือกอนาคตตัวเอง อนาคตประเทศไทย ‘อีกครั้ง’
‘ยู โน มี ลิตเติ้ล โก’ ที่แปลแบบไทยไปว่า ‘ มึงรู้จักกูน้อยไป’ ที่อนุทิน เคยพูดไว้ ระหว่าง ‘สงครามภาพถ่าย’ กับกลุ่มทุนเทา แว่วกลับมาเข้าหูอีกครั้ง
พร้อมๆกับเสียงในหัวว่า ‘เออจริงวะ’
<<<<<>>>>>>
คาด‘8ก.พ.69’ เข้าคูหาหาบัตร
ถามกันดังๆ ‘กกต.’พร้อมมั้ย?
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 หรือก่อนวันรัฐธรรมนูญเพียง1วัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้งความ ‘ตอนหนึ่ง’ ว่า
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 222 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง ดังนี้ 1. นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ เป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง 2. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ เป็นกรรมการการเลือกตั้ง และ 3. นายณรงค์ รักร้อย เป็นกรรมการการเลือกตั้ง
ต้องถือว่าบัดนี้ได้มี 7 เสือกกต.โดยสมบูรณ์ตามกระบวนการขั้นตอนกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยซึ่งกกต.จะมีหน้าที่จัดการเลือกให้เกิดความ ‘สุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย’ ตามสโลแกนที่ว่าไว้
อย่างแรกคือ กกต.ต้องกำหนด ‘วันเลือกตั้ง’ ซึ่งตามกฎหมายในกรณี ‘ยุบสภา’ จะต้องจัดการเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน
ตามธรรมเนียมที่ปฎิบัติมา การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นใน ‘วันอาทิตย์’ ซึ่งมีความน่าจะเป็นไปได้สูง ว่า วันเลือกตั้งจะตรงกับ ‘วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569’
ล่าสุด กกต.ประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ได้ทำการแบ่ง‘เขตเลือกตั้ง’ ทั้ง 400 เขตเป็นที่เรียบร้อย โดยมี 2 จังหวัดที่เขตเลือกตั้ง‘ลดลง’ นั่นคือ นครศรีธรรมราช และลพบุรี ขณะที่ 2 จังหวัดมีเขตเลือกตั้ง ‘เพิ่มขึ้น’ คือ สมุทรสาคร และ ปทุมธานี
ถือเป็นการเลือกตั้งที่จะชี้ ‘ทิศทาง’ ประเทศไทยที่สำคัญที่สุดอีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา
บอกได้คำเดียวตรงนี้เลยว่า ‘ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง’ กันให้ท่วม ๆ เลยนะครับพ่อแม่พี่น้อง
