‘กมธ.ความมั่นคงฯ’ จ่อเชิญ ‘นายกฯ’ ไขปมสินบนแก๊งคอลฯ ‘40 ล้าน’

1 ต.ค. 2568 - 09:33

  • ‘กมธ.ความมั่นคงฯ’ จ่อเชิญนายกฯ แจงปม ‘สินบน 40 ล้าน’ แลกไม่จับแก๊งคอลฯ

  • ลั่นต้องจัดการหัวขบวน-ตามเส้นทางการเงินทำลายอาชญากรรมข้ามชาติ

  • พร้อมบี้ ‘อนุทิน–ไชยชนก’ ให้ชี้แจง

‘กมธ.ความมั่นคงฯ’ จ่อเชิญ ‘นายกฯ’ ไขปมสินบนแก๊งคอลฯ ‘40 ล้าน’

กรณีที่ไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกมาระบุในทำนอง “มีผู้ติดต่อเสนอเงินให้เดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อไม่ให้จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และเว็บไซต์หลอกลวง”

เรื่องนี้ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นว่า “ไชยชนกไม่ควรเงียบ เพราะการเงียบเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลที่นำโดยอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย และ รมว.ดิจิทัลฯ ไม่เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์”

เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เฟคนิวส์ จึงควรใช้โอกาสในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก ซึ่งสิ่งที่ดิฉันได้อภิปรายในสภาฯ เป็นการฉายภาพให้เห็นนายหน้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย รวมถึงยังมีความสนิทกับ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเชื่อว่า ร.อ.ธรรมมนัส เป็นพยานปากสำคัญในการให้ข้อมูล

จึงต้องดูเส้นเงินเพื่อนำไปสู่การปราบปรามหัวขบวนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากหัวขบวนถูกทำลาย องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติก็จะถูกทำลายเช่นกัน หากจะหวังแค่ปราบปรามในเรื่องของบัญชีม้าหรือจับตัวเล็กตัวน้อยก็จะแก้ปัญหาไม่จบ ดิฉันนำข้อมูลมาป้อนขนาดนี้แล้วว่ามีหัวขบวนสำคัญเป็นใครบ้าง ก็ควรจะเร่งทำงานในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ผู้ที่เสนอเงินเดือนละ 40 ล้านบาท ถือเป็นกลุ่มเล็กหรือไม่? รังสิมันต์ กล่าวว่า “คงไม่ใช่ โดยธรรมชาติของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นเครือข่ายที่มีหลายคน และหากติดสินบนจริงคงไม่ใช่แค่รัฐมนตรีคนเดียวแน่นอน อาจจะมีเงินถึงหมื่นล้านเพื่อติดสินบนในส่วนอื่น ควรถือโอกาสในการปราบปรามและเล็งไปที่หัวขบวนต้นตอที่เป็นปัญหา และไปถึงรากที่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายอย่างอื่น เช่น บริษัทใหญ่ที่มีความพยายามฮุบหุ้นบริษัทไทย ต้องไปดูว่าเป็นเงินของกระบวนการของคอลเซ็นเตอร์หรือไม่”

วานนี้ (30 ก.ย.) ผมได้อภิปรายในเรื่องดังกล่าว ร.อ.ธรรมมนัส ก็หายจากบนบัลลังก์ แต่มาประชุม ครม.นัดพิเศษที่สภาฯ ได้ ซึ่งหมายความว่าอยู่ในสภาฯ แต่ไม่ได้มาชี้ในที่ประชุม เช่นเดียวกับอนุทิน ก็หายตัวไปในเวลาดังกล่าว ผมคิดว่าอย่าทำให้ว่ารู้เรื่องนี้กับเขาด้วย หากบริสุทธิ์ใจและไม่มีส่วนเกี่ยว ไม่ได้ใช้อำนาจรัฐในการปกป้องและปกป้อง “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” (Benjamin Mauerberger) ต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่ อนุทินได้โยนให้ ไชยชนกชี้แจงนั้น? รังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ใหญ่เกินกว่า รมว.ดิจิทัลฯ จะชี้แจง ต้องดูเส้นทางการเงิน มีหน่วยงาน อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรื่องนี้ไม่ใช่คดีแค่ภายในประเทศ หากเป็นเรื่องจริงถือเป็นเรื่องระดับโลก เพราะเรากำลังเห็นปรากฏการณ์ที่กลุ่มทุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำเงินนับแสนล้านบาทมายึดชาติของเรา เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องปราบปรามอย่างเด็ดขาด

และเรื่องนี้จะส่งผลดีในการทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชาดีขึ้น เพราะผู้มีอำนาจของกัมพูชารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งเศรษฐกิจการค้าปกติ ตราบใดที่เงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์เยอะ ขนาดประเทศไทยควรจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด และคนที่ควรจัดการมากที่สุดคือ “เบนจามิน”

หาก รมว.ดิจิทัลฯ ไม่ทำอะไร ก็อาจผิดกฎหมายด้วย เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) กมธ.ความมั่นคงฯ จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้โดยตรง เพราะจะมีการเชิญอนุทินที่ดำรงตำแหน่งทั้ง 2 ตำแหน่งมาชี้แจง หวังว่าจะได้รับความร่วมมือ ดังนั้นเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องลับ ทุกคนรู้จักกันหมด ก็แปลกดีที่ทุกคนพากันเงียบขนาดนี้ เรื่องนี้คือเรื่องเร่งด่วน

เมื่อถามว่าจะมีการเชิญ ร.อ.ธรรมมนัส มาชี้แจงหรือไม่? รังสิมันต์ กล่าวว่า “เดี๋ยวมีอีกหลายรอบ” ผมมีข้อมูลว่า ร.อ.ธรรมมนัส มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แต่ขอเอาหน่วยงานตัวตั้งต้นก่อน

สาเหตุที่ต้องเชิญอนุทิน เพราะต้องดูหัวก่อน ถ้าหัวไม่ขยับก็ยาก ต้องดูท่าทีของอนุทินว่าจะเป็นแบบไหน หากต้องการเอาจริง เรื่องนี้ก็จะแก้โดยง่าย กมธ.ก็อาจจะไม่ต้องออกแรงมากเกินไป

เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการยื่นไปที่หน่วยงานอื่นอีกหรือไม่? รังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เรามีข้อมูลตั้งต้นแล้ว หากหน่วยงานขยับทันที ทุกอย่างก็จบ หากหน่วยงานไม่ทราบอะไรเลย ยังมาขอก็ต้องวางยุทธศาสตร์การทำงานอีกแบบ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์