สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ เรียกว่ามองไปทางไหนก็ไม่เป็นคุณกับ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เลยสักทาง โดยเฉพาะประเด็นเรื่องชายแดนกัมพูชา และการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย ที่ส่งผลให้ต้องมีการปรับ ครม. กันขนานใหญ่ รวมถึงประเด็นการยื่นคำร้องเอาผิด นายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่ถูกมองว่าหลังจากนี้จะเป็นการเดินเกมทางนิติสงคราม
ล่าสุดวันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบคำถามสื่อถึงข้อกังวลเรื่องนิติสงครามที่อาจเกิดขึ้นกับ นายกฯ ว่า ส่วนตัวไม่ห่วง เพราะ จากคดีที่มีการร้องเรียนนายกฯ มองว่าไม่มีหลักฐานและเหตุผลที่จะดำเนินการได้ และบางประเด็นไม่ใช่ความผิดของนายกฯ โดยตรง
ตอนนี้คิดเพียงว่า เวลาที่เหลือ ต้องเร่งทำงาน วันนี้นายกฯ ต้องการความเป็นเอกภาพของคนไทยทั้งหมด หากเราสามารถร่วมมือกันได้ก็จะเป็นเรื่องดี และ เป็นเหตุผลที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันเดินหน้าต่อไป พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลและ 4 เหล่าทัพไม่มีปัญหาอะไรกัน ยังคงมีเอกภาพ
ส่วนประเด็นที่ สว. ยื่นถอดถอน นายกรัฐมนตรี ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และขอให้ศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ หากศาลรับและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จะเหมือนกับกรณีของ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ภูมิธรรม มองว่า เป็นคนละเรื่องกัน โดยมองว่าสิ่งที่ สว. ทำเป็นการแก้เกี้ยว เพื่อทางปกป้องตัวเอง
“ไม่อยากให้ใช้คำว่านิติสงคราม เพราะเป็นเรื่องที่ท่านใช้บทบาทของในการฟ้องร้องตามกระบวนการ ซึ่งผู้รักษากระบวนการยุติธรรมต้องพิจารณาและตัดสินมา เราก็รับทราบและชี้แจงสิ่งต่างๆไป ก็ เหมือนตนที่เคยถูกฟ้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนก็ทำหนังสือชี้แจงไป ก็ไม่มีอะไร ก็ยังทำงานตามหน้าที่ต่อไปได้”
— ภูมิธรรม กล่าว
ส่วนเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล ภูมิธรรม ยังมั่นใจว่า มั่นคง 100 เปอร์เซ็นต์ และ เชื่อว่ารัฐบาลจะเดินหน้าอย่างแข็งแรง ซึ่งหลังจากปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์นี้ ทุกคนจะได้เห็นการทำงานในมิติใหม่ที่ต่างจากเดิม
ส่วนกังวลเรื่องการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ หรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ม็อบเข้ามาต้องมีเหตุผล เพราะวันนี้ประเทศกำลังเดินไปข้างหน้า สิ่งที่กัมพูชาต้องการมากที่สุด คือความอ่อนแอภายในประเทศ และวันนี้ไม่มีเหตุผลที่จะมาชุมนุม การอยากแสดงความคิดเห็น หรือมีทัศนคติต่อรัฐบาลและนายกฯ ก็มีสิทธิ์ทำได้ แต่ อย่าหวังที่จะทำอะไรให้มากเกินเลยไป เพราะประเทศมาถึงวันนี้บอบชํ้ามามากแล้ว สถานการณ์ขณะนี้มีการรบกันระหว่างประเทศ มีการจะปิดอ่าวนํ้ามัน จะไม่ให้เดินทาง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประเทศรุนแรงอยู่แล้ว ดังนั้น ม็อบก็ไม่ควรเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะมาซํ้าเติม
“แม้ผมจะได้ยินมาว่า มีจังหวัดชายแดนแถวศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ จะนำคนเข้ามาเติม ซึ่งผมคิดว่าไม่ควรทำ หากอยากแสดงความคิดเห็น ไม่ต้องเข้ามาก็ได้ สามารถแสดงความคิดเห็นที่จังหวัดได้เลย”
— ภูมิธรรม กล่าว
