ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพลทหารคลั่งหนีออกจากฐานกลางดึก และกราดยิงประชาชนจนได้รับบาดเจ็บที่ จ.สุรินทร์ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นผู้ที่รับผิดชอบต้องลงไปดูอย่างเอาใจใส่ ส่วนในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทหารหรือผู้ที่อยู่หน้างานค่อนข้างมีภาวะเครียด ต้องส่งนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ตอนนี้ทุกหน่วยลงไปหมดแล้ว
แจงแนวทาง เปิด-ปิดด่าน ต้องรอประชุท GBC ก่อน ย้ำข้อเสนอล้อมรั้วชายแดน ต้องรอเจรจา
ส่วนกรณีที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่าจะไม่มีการเปิดด่านชายแดนจนกว่าตัวเองจะเกษียณอายุราชการ ตอนนี้แนวทางรัฐบาลเป็นอย่างไร ภูมิธรรม ระบุว่า แนวทางรัฐบาลชัดเจนอยู่แล้วว่ารอให้การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) เกิดขึ้นก่อน ค่อยว่าไปตามกระบวนการ ส่วนการล้อมรั้วชายแดน ประชาชนบางส่วนอยากให้ทำเป็นกำแพงถาวรไปเลย ภูมิธรรม ย้ำว่า ต้องรอการเจรจา เรามีกระบวนการอยู่ ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการ แต่ความปรารถนาจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที
ส่วนกรณีกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เชิญทูตต่างประเทศ โดยเฉพาะส่วนที่สนับสนุนกัมพูชา มารับฟังข้อเท็จจริง เพื่อชี้ให้เขาเห็นว่ากัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด และพยายามสื่อให้เขาเลิกสนับสนุนกัมพูชา ตรงนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน
ภูมิธรรม มองว่า อะไรที่เป็นข้อเท็จจริงเราก็เสนอได้ และจริงๆ เราได้ยื่นประท้วงไปแล้วว่า กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร และเราควรทำ ขณะนี้เรายื่นประท้วงไปแล้ว ดังนั้น ประเด็นนี้คงไม่มีปัญหาอะไร รอให้เรื่องต่างๆ มันเกิดขึ้น ก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่เราจะใช้คุยในคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (อาร์บีซี) และจีบีซี
เมื่อถามว่าตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้น และเราได้ร้องไปที่องค์กรระหว่างต่างประเทศต่างๆ องค์กรเหล่านั้นได้มีปฏิกิริยาอย่างไรหรือไม่ ภูมิธรรม ชี้แจงว่า หลายองค์กรได้ติดตามแล้ว บางองค์กรได้เรียกประชุมกัน ขณะนี้ในกระบวนการทางด้านการทูตก็มีกระบวนการของเขาอยู่ และเรามีการเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อนำมาใช้ในช่วงเวลาหรือกระบวนการที่เหมาะสม ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ทำความเข้าใจกับนานาประเทศ เราเองได้เชิญทูตมาดู มาพบ มาเห็น
“ส่วนใหญ่ประเทศไทยยืนอยู่ในจุดที่นานาประเทศเข้าใจเรา ให้ความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่า ผมเชื่อว่าประชาคมโลก เครดิตของประเทศไทยเป็นเครดิตที่ได้รับการยอมรับมากกว่า ทั้งพฤติกรรมและกระบวนการต่างๆ ประเทศไทยมีการดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนทางกฎหมายมาตลอด แม้ว่าอาจจะมีเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนน้อยไปบ้าง ไม่ทันการณ์บ้าง แต่ส่วนใหญ่ในทางการทูตและทางกฎหมาย เรายื่นเรียบร้อยกว่าทุกอย่าง”
— ภูมิธรรม ระบุ