ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน และวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน เปิดเผยถึงกรณี “คลิปเสียงสนทนา จ่ายเงิน 10 ล้านบาท แลกเสียงโหวตร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ซึ่งขณะนั้น รัฐบาลยังไม่ถอนร่างออกไป โดยไม่จำเป็นต้องย้ายพรรค
โดยชัชวาล กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณวันที่ 23 มิถุนายน ผมได้รับการประสานจากบุคคลท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รู้จักว่าเขาคนนั้นเป็นใคร แต่มีการส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จากเพื่อนในเฟซบุ๊กของผมมาอีกทีหนึ่ง พร้อมแจ้งว่า มีคนมาส่งของให้ แต่ผมได้ปฏิเสธไปว่า ไม่ได้สั่งของออนไลน์ และเข้าใจว่าเป็นการประสานงานที่เข้าใจผิดกัน หลังจากนั้น ก็ได้มีการขอเบอร์โทรส่วนตัวแลกกัน และมีการโทรกลับเข้ามาอีก โดยบริบทคือชวนไปดื่มกาแฟ ซึ่งผมได้ตอบกลับไปว่า “ตั้งแต่เป็น สส.มา ยังไม่เคยมีสุภาพสตรีท่านไหนโทรมาชวนเป็นการส่วนตัวเลย” จึงมีข้อสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่า น่าจะเป็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากล
ชัชวาล กล่าวว่า เมื่อมีการพูดคุยสักพัก เขาจึงได้พูดถึงวัตถุประสงค์ที่เขาประสานเข้ามา คือขอซื้อเสียงโหวตร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่ขณะนั้นรัฐบาลยังไม่ได้มีการถอนร่างออกไป และระบุว่า “หากเรายอมในเงื่อนไขที่หัวหน้าเขาได้เสนอมา เขาจะมอบบัดเจ็ท (budget) จำนวนทั้งหมด 10 โล” ผมจึงสอบถามเรื่องถึงขั้นตอนการจ่ายเงินส่วนนี้ โดยจะแบ่งเป็น 3-4-3
คือหาก “ตกลง” ก็ไปคุยกับหัวหน้า และถ้ายอมรับเงื่อนไข จะจ่ายก่อน 3 โล ในรอบแรก, จ่าย 4 โล หลังโหวตร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์แรก และโหวตร่างงบฯ 69 สุดท้ายอีก 3 โล ซึ่งที่เขาพูด ไม่ได้พูดเฉพาะแค่วาระหนึ่ง แต่หมายถึงทั้งฉบับ
— ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
ชัชวาล กล่าวต่อไปว่า สุดท้ายผมจึงไม่ได้มีการตกลงในเรื่องเงื่อนไข หรือการยอมรับ ซึ่งผมได้มีการส่งข้อความหาบุคคลดังกล่าวด้วย เช่น หากมีการโหวตพรุ่งนี้ วันนี้ก็จะโทรมา เพื่อเร่งเอาคำตอบ ทั้งบอกอีกว่า หากไม่สะดวกเข้ามากรุงเทพฯ จะให้หัวหน้าไปจังหวัดเอง ดังนั้น ผมจึงส่งข้อความยืนยันว่าปฏิเสธไป และแม้ได้พยายามสอบถามว่า เขาเป็นคนจากพรรคการเมืองใดหรือไม่ หรือคนใครที่ส่งมา เป็น สส. หรือรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้
ยืนยันว่า ไม่ประสงค์ที่จะขายเสียงของตัวเอง จึงยืนยันไปว่าไม่สนใจ และปฏิเสธกลับไป ว่าขอบคุณมุมมองที่เป็นความสามารถของผมแต่ผมมาจุดนี้ได้ไม่ใช่เพราะผมอยากมีอำนาจแต่เป็นเพราะเชื่อว่าสังคมเราดีกว่านี้ได้ ที่สำคัญผมยังสนุกกับการทำงานในการตอบแทนความไว้วางใจจากคนในพื้นที่และไม่สามารถทำลายความหวังให้ทลายลงได้ ขอปฏิเสธข้อเสนอที่ชวนร่วมงานและขอบคุณในความเชื่อมั่น หากงานสภาได้จอยกันไม่ว่าจะอยู่พรรคการเมืองใดก็ยินดีเสมอ ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าสุภาพสตรีท่านนั้นเป็นใคร แต่ได้ข้อมูลตรงกันกับวีรนันท์ และเขาใช้ชื่อเดียวกันในการประสาน ซึ่งวีรนันท์ มีสายปริศนาโทรเข้ามาในวันที่ 22 มิถุนายน
— ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
เมื่อถามว่ายังมีการติดต่อกันหรือไม่? ชัชวาล กล่าวว่า “มีการติดต่อหลังการโหวตร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ด้วยการโทรเข้ามา และบอกว่าจะเพิ่มบัดเจ็ตให้ ทำให้ผมตกใจว่า การยกมือ 2-3 ครั้ง มีบัดเจ็ตเยอะขนาดนั้นเลยหรือ ซึ่งผมก็ปฏิเสธกลับไป ไม่มีการตกลงใดๆ”
ส่วนจะเป็นการ “ล่อซื้อ” หรือไม่? วีรนันท์ กล่าวเสริมว่า “ก็น่าสงสัย เพราะเราไม่รู้ที่ไปที่มา ว่าสรุปคนๆ นั้นเป็นคนของใครหรือไม่ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นการล่อซื้อ หรือทำลายชื่อเสียงของพวกเรา อย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต”
เมื่อถามว่าเป็นพรรคการเมืองใด? ชัชวาล กล่าวว่า “เขาไม่ได้บอก แจ้งแค่หัวหน้าจะคุย แต่เวลาถามว่ามาจากพรรคการเมืองไหน เราก็คงอิงจากซีกรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งหลายพรรคที่ผมได้เอ่ยชื่อไป คำตอบที่ได้คือไม่มีความชัดเจน”
ขนาดถามถึง ‘พรรคลุงป้อม’ เขาก็ตอบว่า “หนูจะเป็นคนที่ไปดึงพรรคลุงป้อมมาอยู่กับหนูเอง”
— ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
ส่วนเมื่อถามว่าใช่ ‘ส.’ หรือไม่? ชัชวาล กล่าวว่า “เขาบอกว่าสูงกว่านั้น ซึ่งก็แสดงว่าเขารู้ว่า ส.ที่ผมหมายถึงนั้น หมายถึงใคร”
วีรนันท์ กล่าวยืนยันว่า “มีตัวตนจริงๆ แต่ไม่ทราบว่าตัวตนของเขา จะมีสัมพันธ์กับพรรคไหนอย่างไร หรือเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมและชัชวาลนั้น เป็นไปอย่างที่เล่าให้ฟัง”
เมื่อถามว่า ยังมีใครที่โดนอีกหรือไม่? ชัชวาล กล่าวว่า “มี สส.นนทบุรี เล่าให้ฟังถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งปรากฏข้อมูลข่าวสารคล้ายๆ กัน อาจจะมีเพิ่มเติมคือบางท่านได้เจอกับบุคคลนิรนามมาก่อน รวมถึงมีการยื่นสัญญาให้เซ็นต์ด้วย แต่ก็ไม่มีการเซ็นต์ เนื่องจากดูตลก เพราะการให้เซ็นต์สัญญาเป็นหลักฐาน เหมือนไว้มัดมือชก หากไม่เป็นไปตามสัญญาในภายหลัง และ สส.นนทบุรีท่านนั้น ก็ไม่ได้ไปตกลงอะไร”
เมื่อถามว่ามีการปรึกษาผู้ใหญ่ภายในพรรคหรือไม่ หรือพรรคมีการดำเนินการอย่างไรต่อ? วีรนันท์ กล่าวว่า “มีการแจ้งกับบางคนในพรรค แต่หลังจากที่แจ้งไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรหลังจากนั้น เพราะผมไม่ได้ทำอะไร พรรคก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อ”
ส่วนจะมีการส่งคลิปเสียงไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหรือไม่? ชัชวาล กล่าวว่า “ยินดี เพราะคลิปเสียงนั้น ผมได้ถ่ายวิดีโอจากหน้าจอ ซึ่งก็เห็นเบอร์ชัดเจน เหตุการณ์เกิดขึ้น ช่วงก่อนเปิดสมัยประชุม ส่วนจะมีการสืบให้รู้ความจริงหรือไม่ จริงๆ ก็มีคนในพรรคบอกว่าให้ลองไปดู จะได้รู้ว่า หัวหน้าเขาเป็นใคร แต่เราคิดว่ารอจังหวะให้ชัดเจนสักนิด เพื่อให้มีเหตุผลประกอบในการดำเนินการ”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อย และด้วยสถานการณ์รัฐบาลเช่นนี้ ก็น่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตหลายครั้ง จึงขอถามย้อนกลับว่า ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขามีตัวตนจริงหรือไม่ สิ่งที่เขาเสนอให้กับ สส.ฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะวงเงินเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แต่ไม่ใช่มาจากเงินกระเป๋านักการเมืองคนใดคนหนึ่ง มาจากภาษีของเรา
— ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
ส่วนจะว่ามองเป็นเกมการเมืองหรือไม่? ชัชวาล กล่าวว่า “ก็แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่สังคมว่ารับข้อมูลไปแล้ว จะวิเคราะห์ หรือมีความเห็นอย่างไร เป็นเรื่องปกติที่แฟนคลับของแต่ละฝั่ง จะมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ ส่วนตัวเหตุการณ์นี้ สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะดิสเครดิตฝ่ายรัฐบาล หรือดิสเครดิตฝ่ายค้าน”