หวั่นเป็นเหตุขัดแย้งใหญ่ระลอกใหม่! ‘ภาคประชาชน’ ผิดหวังสภาฯ คว่ำ ‘นิรโทษฯ’ ฉบับประชาชน

16 ก.ค. 2568 - 07:33

  • ‘ยิ่งชีพ-พูนสุข’ ยัน ‘นิรโทษฯ’ ต้องครอบคลุมทุกฝ่าย

  • ‘เบนจา’ ซัดใครไม่โหวตให้เป็นพวก สส.-พรรค ‘ใจกาก’ รอบหน้าอย่าเลือก

หวั่นเป็นเหตุขัดแย้งใหญ่ระลอกใหม่! ‘ภาคประชาชน’ ผิดหวังสภาฯ คว่ำ ‘นิรโทษฯ’ ฉบับประชาชน

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ในฐานะผู้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับภาคประชาชน แถลงภายหลังสภาฯ ตีตกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน ว่า “การนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองจำเป็นที่ต้องรวมทุกคน” และขอยืนยันว่า “หากเป็นการนิรโทษกรรมเพียงบางคนบางกลุ่ม ไม่นิรโทษกรรมทั้งหมดไปพร้อมกัน ไม่ได้เรียกว่าการสร้างสันติสุข และจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งระลอกใหม่ที่ใหญ่มากขึ้น”

วันนี้เราได้แถลงหลักการและเหตุผลทั้งหมดต่อสภาไปแล้ว แต่ว่าเสียง สส. ที่ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับภาคประชาชนก็ไม่ถึงครึ่ง ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตกไป ทั้งนี้เราต้องยืนยันว่า ทางข้างหน้าถ้าสภาจะเดินไปในวาระ 2 และโดยกีดกันคนบางส่วนไม่ให้มีสิทธิ์ได้รับการนิรโทษกรรมเลย ไม่เปิดช่อง ไม่แยกแยะประเภท ประเด็นนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ รวมถึงการที่สภาแห่งนี้จะเดินหน้านิรโทษกรรมความผิดที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำต่อประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง ไม่ได้เป็นไปเพราะการชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ อันนี้ต้องยืนยันว่าเราคัดค้าน หากในวาระ 2 ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข เรายืนยันว่าจะมีการคัดค้านต่อไป

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์

ยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า “สำหรับผู้ที่เป็นห่วงคนที่อยู่ในเรือนจำ มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย คืออาจจะต้องมีคนเข้าเรือนจำเพิ่ม โดยเฉพาะมีคดีที่ผู้กระทำเป็นเด็กและเยาวชนด้วย ถ้าหากไม่มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในอนาคต เราเกรงว่าจะมีผู้ที่ไม่ได้กลับบ้าน และต้องไปใช้ชีวิตที่อื่น แต่ข่าวดีคือเรายังหยุดการทำงานไม่ได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกิจกรรมของเราต่อไปในระหว่างที่กฎหมายยังไม่ออกมา”

ด้าน พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการฝ่ายวิจัยกฎหมายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะผู้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับภาคประชาชน กล่าวว่า “คดีความทางการเมืองตั้งแต่ปี 2557 - ปัจจุบัน มีฐานความผิดที่เป็นคดีทางการเมืองอย่างน้อย 34 ฐานความผิด ซึ่งร่างหลักที่ผ่านการพิจารณาของสภาในวันนี้คือร่างของ วิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ มีฐานความผิดท้าย พ.ร.บ. 20 ฐานความผิด แปลว่าอย่างน้อย 14 ประเภทความผิดจะไม่ถูกนับรวมอยู่ในการนิรโทษกรรมครั้งนี้ ซึ่งรวมคดี 112 ด้วย”

พูนสุข ยังชี้ให้เห็นว่า “หากได้ติดตามคดีตั้งแต่ช่วง คสช. หรือคดีรณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2559 เหล่านี้ ถ้าไม่มีการแก้ไขและให้เป็นไปตามร่างของ วิชัย ก็จะไม่ถูกนับรวม ซึ่งคดีเหล่านี้มีความชัดเจนว่าเป็นคดีทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ติดคุกจริงๆ โดยเฉพาะคดี 112 ที่มีประชาชนอย่างน้อย 51 คนได้รับผลกระทบ และอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 32 คน ก็จะไม่ถูกนับรวมเช่นกัน จึงเป็นคำถามถึงสภาว่า วันนี้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมโดยที่ไม่รวมทุกกลุ่มนั้น เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มใคร และเป็นการคลี่คลายความขัดแย้งจริงหรือไม่

ฝากติดตามว่าคดีมาตรา 112 และคดีทางการเมืองอื่นๆ ยังอยู่ ถ้ารัฐบาลจริงใจอยากจะช่วยแก้ปัญหาจริงๆ อย่างน้อยคนที่ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว แม้ยังไม่แก้ไขกฎหมาย ก็สามารถช่วยเหลือได้เลย ยืนยันว่าเรายังต้องผลักดันให้มีการแก้ไขเรื่องนี้ต่อไปในอนาคต

พูนสุข พูนสุขเจริญ

ด้าน เบนจา อะปัญ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในฐานะผู้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับภาคประชาชน กล่าวว่า“ภาคประชาชนได้ทำเต็มที่แล้ว และจะจดจำไว้ว่าใครที่บอกว่าเห็นด้วย ใครที่บอกว่าเข้าใจ อยากเดินหน้าไปด้วยกัน แต่ไม่โหวตให้นั้น ก็จะได้รู้ว่าใครเป็น สส.ใจกาก พรรคไหนใจกาก ก็อย่าไปเลือก”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์