การประชุมสภาฯ โดย พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้พิจารณาเรื่องต่อเนื่องจากการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกลุ่มของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมือง จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ.... เสนอโดย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ,ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... เสนอโดย ปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม และ สส.พรรคประชาชาติ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ,ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. .... เสนอโดยพรรคประชาชน ,ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. .... เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน และร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. .... เสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย


ทั้งนี้ การอภิปรายดังกล่าวได้เปิดให้ผู้เสนอญัตติอภิปรายปิดหลังจากที่มี สส.ร่วมอภิปรายแสดงความเห็นแล้วเสร็จ ทั้งนี้ วิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายตอนหนึ่ง ว่า การเสนอร่างกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มกปปส. แต่ทำเพื่อประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวแม้จะขัดใจบางพรรคการเมือง แต่จะเป็นโอกาสที่พาประเทศไปตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ เชื่อว่า จิตใต้สำนึกของสส.ต้องการออกร่างกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข แต่ห่วงเนื้อหา เพราะไม่ได้นิรโทษกรรมของคนทุจริต เข่นฆ่าประชาชน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในบรรทัดฐานต่อไป คือ เมื่อรับร่างกฎหมาย จะถูกพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ และหารือร่วมกัน ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันว่า ในประเด็นการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 จะไม่รับร่าง


ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ไอลอว์ อภิปรายปิดญัตติตอนหนึ่งว่ามี สส.หลายคนบอกว่า จะไม่รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนที่มีคดีมาตรา 112 แต่จากตัวอย่างของคนที่โดนคดีดังกล่าวพบว่า เป็นบุคคลที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา โดยไม่มีความผิดแท้จริงและบางคนติดคุกฟรี ดังนั้น หากสภาฯ ต้องการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทำร้ายร่างกาย นิรโทษกรรมคนที่เป็นกบฎ ก่อการร้าย ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ ยึดศูนย์ราชการที่ประชาชนเดือดร้อนและเสียหาย แต่ไม่นิรโทษกรรมบุคคลในคดีมาตรา 112 เท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่ได้ต้องการช่วยคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
“มีสส.หลายคนอธิบายว่า ต้องช่วยคนถูกดำเนินคดีจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ควรช่วยคนอีกกลุ่มหนึ่ง ในคดีมาตรา 112 เพราะจะทำให้การนิรโทษกรรมไม่ประสบความสำเร็จ เท่ากับการไม่สร้างสังคมสันติสุขและออกกฎหมายที่เลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การจะนิรโทษกรรมคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา ใช้อภิสิทธิ์ที่รู้จัก สส.ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พวกตัวเอง ให้คนพ้นผิดทุกข้อกล่าวหา แต่คุมขัง ตีตราคนอีกกลุ่มหนึ่งไปตลอด คือการไม่สร้างสังคมสันติสุขและออกกฎหมายเลือกปฏิบัติที่ชัดเจน”
— ยิ่งชีพ อภิปราย

ส่วน กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายต่อที่ประชุมด้วยว่า เห็นใจบางกรณีในกลุ่มของคนที่ถูกลงโทษ มาตรา 112 จำนวนไม่น้อย จงใจฝ่าฝืนกฎหมายและทำผิดซ้ำ จนต่องถูกลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งหากในสภาฯ คิดเห็นแตกต่างกัน เมื่อออกไปสังคมภายนอก อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง การเผชิญหน้าหรือความไม่สุขสงบ สันติสุขในสังคม
“ภูมิใจไทยเห็นว่า บางกรณีที่ถูกลงโทษตามที่บอกว่าไม่ยุติธรรมนั้นยังมีช่องทางอื่น คือ ขออภัยโทษ ทั้งนี้ไม่ได้รังเกียจคนที่ผิด มาตรา 112 แต่กังวลว่าสิ่งที่จะเป็นผลตามมา คือ การนำไปสู่ความไม่สงบสุขของสังคม และ ความขัดแย้งใหม่ ซึ่งไม่อาจเยียวยาบาดแผลเก่า ด้วยการสร้างบาดแผลใหม่ได้”
— กรวีร์ อภิปราย


ขณะที่ ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายปิดญัตติ โดยอ่านจดหมายจากของ อานนท์ นำภา นักโทษคดีมาตรา 112 ต่อที่ประชุมและย้ำว่า ได้พบสส. เพื่ออธิบายเนื้อหาของพรรคประชาชนและฉบับของพรรคประชาชนเพื่อให้รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรม แม้มีความหวังแค่ 1% ทั้งนี้ มีสส.ส่งข้อความมาว่าเห็นใจ เข้าใจ แต่ทำไม่ได้ เพราะกลัวจะถูกยุบพรรค และบอกว่าให้ไปคุยกับข้างบน บางคนพูดด้วยความขี้ขลาดว่าคนของพวกพี่ไม่มีใครอยู่ในคุกแล้ว


ศศินันท์ อภิปรายว่า ร่างของพรรคประชาชนไม่มีการขัดหลักการของร่างฉบับอื่น และไม่มีตรงไหนที่บอกว่า จะนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112ทั้งนี้เข้าใจว่า การกดรับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชนมีความตะขิดตะขวางใจ ขอให้กดงดออกเสียงก็เพียงพอให้ทุกร่างเข้าไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ เพราะเชื่อว่าการนิรโทษกรรมนั้นต้องไม่แบ่งแยก
“วาระแรกนี้ อย่าเปิดประตูความหวังของประชาชน และขอเรียกร้องความกล้าหาญหากเห็นใจประชาชนขอกดงดออกเสียงให้กับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชน”
— ศศินันท์ อภิปราย