‘มท.’ เดินหมากดักคอ ‘DSI’ ลงพื้นที่สอบคดีฮั้ว สว. หากเจอ ‘กระทำโหดร้าย- ไร้มนุษยธรรม’ ฟ้องศาลยุติการกระทำได้ทันที

9 พ.ค. 2568 - 07:19

  • ‘มท.’ เดินหมากคุ้มครองสิทธิประชาชน ยก ‘ป.วิอาญา - พ.ร.บ.อุ้มหาย’ ดักคอ ‘ดีเอสไอ’ ลงพื้นที่สอบ ‘คดีฮั้ว สว.’

  • ชี้ช่องหากเจอ ‘กระทำโหดร้าย - ไร้มนุษยธรรม’ ฟ้องศาลยุติการกระทำได้

  • ‘ปกครอง’ แจ้ง ‘กรมสอบสวนคดีพิเศษ’ ต้องแสดงตัวชัดเจนเป็น ‘พนง.สอบสวน’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา เรื่อง การประสานความร่วมมือในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 

มีเนื้อหาระบุว่า ด้วยปรากฏเป็นข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญได้รายงานข้อมูลต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีเมื่อวันที่ 4 พ.ค. มีกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา จากอดีตผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา นั้น

กรมการปกครอง ยินดีให้ความร่วมมือ  กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการดำเนินการตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ โดยขอให้พิจารณาดำเนินการ ดังนี้ 

  1. ให้มีหนังสือและเอกสารหลักฐานยืนยันการเป็นผู้ได้รับแต่งตั้งให้มีอำนาจและหน้าที่สืบสวน  สอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ และเป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบในคดีพิเศษที่จะขอให้กรมการปกครองและพนักงานฝ่ายปกครองให้ความร่วมมือและสนับสนุนในคดีนั้น เพื่อสั่งการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง สำหรับในกรุงเทพมหานครให้แจ้งอธิบดีกรมการปกครอง สำหรับในเขตจังหวัด ให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาสังการดังกล่าวต่อไป
  2. การปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมการปกครองได้มีหนังสือ ลับ ด่วนที่สุด ที่ มท 0307.3/ว12837 ลงวันที่ 12เม.ย. 2568 กำชับให้พนักงานฝ่ายปกครองให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน สิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย สิทธิของบุคคลในคดีอาญา และเสรีภาพในเคหสถาน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยให้พนักงานฝ่ายปกครองถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมถึงขอบเขตความรับผิดชอบของ

นอกจากนี้ มานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อรายงานเหตุ กลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ที่มีกลุ่มบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอ เพื่อสอบถามข้อมูลอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นวุฒิสภา จำนวน 2 ราย ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ

ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อการคุ้มครองประชาชน จึงมีแนวปฏิบัติหน้าที่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจัดหวัด นายอำเภอ รวมถึงปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนให้ยึดแนวปฏิบัติ และการรับคำร้องทุกข์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 

รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในคดีพิเศษระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีพนักงาน สอบสวนคดีพิเศษหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษประสานขอความร่วมมือพนักงานฝ่ายปกครองผู้มีอำนาจ  สืบสวนสอบสวน ให้สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามมาตรา22  แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547  และข้อบังคับคณะกรรมการคดีพิเศษ ( กคพ. ) ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ ในคดีพิเศษระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568  นอกจากนี้ ยังให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายพ.ศ. 2565 

หากนายอำเภอผู้รับแจ้งเห็นว่า มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการทรมาน การกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือการกระทำให้บุคคลสูญหาย นายอำเภอหรือพนักงานฝ่ายปกครองซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลท้องที่ที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญา เพื่อให้มีคำสั่งยุติการกระทำเช่นนั้นทันที ตามมาตรา22และมาตรา26 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายพ.ศ.2565  เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ 

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางดังกล่าวยังได้ สั่งการไปให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศยึดแนวทางนี้อีกด้วย 


S__4276235.jpg
หนังสือ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เรื่อง การประสานความร่วมมือในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์