‘ลิซ่า’ หวังนายกฯ รักษาคำพูด ไม่ใช้อำนาจแทรกแซง รมว.สาธารณสุข ยับยั้งปมชั้น14

9 พ.ค. 2568 - 03:02

  • ‘ลิซ่า’ สส.พรรคประชาชน หวังนายกฯ รักษาคำพูด ไม่ใช้อำนาจแทรกแซง รมว.สาธารณสุข ยับยั้งเรื่องชั้น 14

  • ย้อนคำนายกฯ ลั่นเองกลางสภาให้ยอมรับผลสอบแพทยสภากรณีป่วยจริงป่วยทิพย์

กรณี แพทยสภา แถลงผลการสอบสวนจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ กรณีการพักรักษาตัวของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดย มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ค.) ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคประชาชน ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าว่า ต้องขอย้อนความจำแบบคำต่อคำเผื่อนายกรัฐมนตรีจำไม่ได้ นายกฯ เคยกล่าวไว้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 25 มีนาคม 2568 หลังฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีการรักษาตัวของบิดาท่านบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นายกฯ บอกว่า “ถ้าจะพูดเรื่องท่านป่วยจริงป่วยหลอก เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคุณพ่อมีอาการป่วย ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ อันนั้นก็เป็นสิ่งที่ชัดเจน ถ้าดิฉันจะบอกท่านว่าอ๋อ! คุณพ่ออายุ 70 กว่าป่วย ท่านจะเชื่อดิฉันเหรอคะ ไม่เชื่อ”

และ นายกฯ ยังพูดต่อว่า “เมื่อมีกระบวนการตรวจสอบในหน่วยงานต่างๆ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ดิฉันไม่เคยใช้อำนาจไปแทรกแซง”

รองโฆษกพรรคประชาชน ยังระบุว่า วันนี้ผลสอบจริยธรรมแพทย์ออกแล้ว ผลสรุปคือแพทย์ 1 คนโดนตักเตือนเนื่องจากออกใบส่งตัว และแพทย์อีก 2 คนถูกพักใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม เพราะให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับไม่ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น


“แปลง่ายๆ ว่าจากหลักฐาน บิดาท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้ป่วยขั้นวิกฤต เหมือนที่ท่านพยายามสรรหาโรคมาอธิบาย”

ภคมน กล่าว

รองโฆษกพรรคประชาชน ทิ้งท้ายว่า พวกเรายอมรับผลตามที่นายกฯ เคยบอกไว้ หวังว่านายกฯ จะยอมรับผลสอบจริยธรรมของแพทยสภาเหมือนที่พูดเอาไว้เช่นกัน และ หวังต่อว่าขั้นตอนหลังจากนี้จะตรงไปตรงมา ไม่มีการแทรกแซงหน่วยงานอย่างที่เคยยืนยันไว้ ไม่มีการออกคำสั่งให้ รมว.สาธารณสุข ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว จากนี้สังคมไทยจะจับตาจุดวัดใจว่า รมว.สาธารณสุข จะเอาอย่างไร 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์