‘บิ๊กเล็ก’ สั่งกองทัพเปิดเกมรุก สร้างกลไกหยุดยิง-ดึงพยานร่วมเวทีโลก

7 ส.ค. 2568 - 05:38

  • 'บิ๊กเล็ก' ปลุกทีมไทยแลนด์เป็นหมุดหมายประวัติศาสตร์

  • สั่งกองทัพเปิดเกมรุก สร้างกลไกหยุดยิง-ดึงพยานร่วมเวทีโลก ตรึงพรมแดนเขมรด้วยหลักฐาน

‘บิ๊กเล็ก’ สั่งกองทัพเปิดเกมรุก สร้างกลไกหยุดยิง-ดึงพยานร่วมเวทีโลก

ช่วงเที่ยงวันที่ 7 ส.ค. 68  ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ‘พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์’ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หารือกับ ‘ทีมไทยแลนด์’ โดยมีเอกอัครราชทูต ‘ลดา ภู่มาศ’ ให้การต้อนรับ โดยทีมไทยแลนด์ได้บันทึกภาพก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทยทั่วไป(GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ช่วงบ่ายวันนี้  

พร้อมกันนี้ ยังได้พบปะกับทีมไทยแลนด์ และทีมเลขานุการ (GBC) ที่ได้ปฏิบัติงานอย่างหนักในช่วงวันที่ 4-7 สิงหาคม ในการหาข้อสรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นตอนนี้มาถึงครึ่งทาง ต้องลุ้นตอนบ่ายนี้ว่าทางกัมพูชา จะจริงใจกับเราด้วยหรือไม่ ถ้าจริงใจกับเรา ก็จะสำเร็จ ส่วนตัวประเมินความจริงใจของกัมพูชาไว้ 3 ระดับ 1. ระดับเลขาฯ เราประสบความสำเร็จขั้นที่หนึ่งไปแล้ว และวันนี้คือขั้นที่ 2. ในระดับ GBC ใหญ่ ส่วนระดับ 3. คือขั้นการปฎิบัติ ฉะนั้น ขอชื่นชมทุกคน ด้วยความจริงใจ และขอขอบคุณ ที่ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย  โดยรัฐบาล ต้องมองหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทั้งใน และต่างประเทศ ต้องชั่งน้ำหนักกัน บางครั้งหากมุ่งด้านการทหารอย่างเดียว อาจทำให้ได้รับผลกระทบ  

ทั้งนี้ ชื่นชมในขีดความสามารถ ได้ติดตามการปฎิบัติงาน ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้าย ด้วยความห่วงใย ขอให้น้องๆ จงภูมิใจว่าการทำงานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เป็นวาระสำคัญแห่งชาติ ซึ่งมองว่าจากนี้ไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ยังต้องสนับสนุนในการทำงานต่อไป เพราะจากนี้ไปก็จะเป็นการประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาคไทยกัมพูชา (RBC) กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ก็มาเกี่ยวข้องเหมือนเดิม ไม่ทิ้งกองทัพ ซึ่งที่อยากฝากกับกองทัพให้ช่วยสนับสนุนกลไกการหยุดยิง ให้เกิดรูปธรรม รวมถึงการสร้างกลไกผู้สังเกตุการณ์ชั่วคราว ซึ่งปัญหาปัจจุบัน ที่ทางรัฐบาล ศบ.ทก. ประสบ คือฝ่ายปฏิบัติของทางกัมพูชา มีลักษณะยั่วยุรุกล้ำ แต่กองทัพมาชี้แจงอย่างเดียวไม่มีน้ำหนัก ซึ่งหากมีผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวมาเป็นพยาน จะได้มีพยานในเวทีนานาชาติด้วย 

ส่วนการประชุมบ่ายวันนี้ ไทยจะยึดกรอบเงื่อนไขในการประชุม 8 ข้อ ดังนี้ 

1. ให้ไทย-กัมพูชา หยุดยิงเด็ดขาด โดยทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงที่จะหยุดยิงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อยุติการปะทะ และลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งกำลังพลและประชาชน  

2. การคุ้มครองประชาชน เน้นย้ำมาตรการคุ้มครองพลเรือน และจะไม่ยิงโจมตี ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน 

3. การงดการเสริมกำลัง ห้ามไม่ให้มีการนำกำลังทหาร หรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม เข้าไปในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์ 

4. การห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง โดยตกลงว่า จะไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล ภายในพื้นที่ชายแดน ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเพิ่มความตึงเครียด ซึ่งจะช่วยรักษาสภาพพื้นที่ให้คงที่ 

5. การอำนวยความสะดวกการส่งกลับ โดยทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกส่งกลับผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะ 

6. การจัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมจัดตั้งคณะทำงานประสานงานฝ่ายละ 4 นาย ทำหน้าที่สื่อสาร และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 

7. การปรับกำลังทหาร เพื่อลดการเผชิญหน้าของกำลัง 2 ฝ่าย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักสำคัญ ที่นอกเหนือจากการหยุดยิง เพราะหากกำลังทหารสองฝ่าย เผชิญหน้ากันอยู่ จะทำให้เกิดการปะทะกันได้ตลอดเวลา 

8. หากไทย-กัมพูชา เห็นพ้องต้องกัน อาจนำไปสู่การลงนามเป็นข้อตกลง และให้มีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้ง 2 ประเทศ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์