DeepSPACE จัดแถวพรรคการเมือง ‘ภูมิใจไทย-ประชาชน’ชิงที่ 1

7 ต.ค. 2568 - 03:01

  • เริ่มนับเวลาถอยหลังรอการเลือกตั้งครั้งใหม่ปีหน้า

  • ความเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคเริ่มเห็นมากขึ้น มีทั้งดูด และกอบกู้

  • ประเมินกันว่าคู่ชิง หนีไม่พ้น น้ำเงินกับส้ม คงเบียดกันมา แต่น้ำเงินกระแสดีกว่า

DeepSPACE จัดแถวพรรคการเมือง ‘ภูมิใจไทย-ประชาชน’ชิงที่ 1

Deep SPACE     พรรคการเมืองเริ่มเตรียมตัวกันแล้ว  สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กรอบเวลาชัดเจน วางแผน จัดทัพ เพื่อให้ได้มากที่สุด  คู่ชิงรอบนี้ยังคงเป็นพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน  แต่พรรคสีน้ำเงินกระแสดี อาจได้เปรียบกว่า แต่สุดท้ายให้คนลงคะแนนตัดสิน ติดตามใน Deep SPACE..ลึกกว่าที่รู้

ถ้านับถอยหลังยุบสภา 120 วัน ตามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศเป็นสัญญาประชาคมไว้ ซึ่งเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็เหลือเวลาอีก 113 วัน

จึงไม่แปลกที่ได้เห็นบรรดาพรรคการเมือง เคลื่อนไหว แต่งตัวรอลงสนามเลือกตั้งกันคึกคัก ซึ่งคาดคะเนกันว่า การเลือกตั้งน่าจะมีขึ้นในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคมปีหน้า คือ วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2569 หรืออย่างช้าต้นเดือนเมษายน วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2569

ตามที่กฎหมายกำหนดให้จัดเลือกตั้งขึ้นในระหว่าง 45-60 วัน หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา

พรรคเพื่อไทย  ประเดิมจัดอีเว้นท์ ‘ยกเครื่องเพื่อไทย’  กันวันนี้ นัยว่าเป็นการประกาศทิศทางการทำงานของพรรค พร้อมกับประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครในบางเขตไปด้วยพร้อมกัน นั่นคือฉากหน้า

แต่ ‘ฉากหลัง’ คือ การตรวจเช็ครายชื่อรอบแรก พร้อมตรึงนักการเมือง ‘กลุ่มบ้านใหญ่’ ไว้กับพรรคให้มากที่สุด เพราะรู้ถึงสถานการณ์การแข่งขันในสนามการเลือกตั้งเที่ยวหน้า นักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่ จะมีโอกาสได้กลับเข้าสภามากที่สุด

ยิ่งในยามที่ พท.ไร้กระแสเป็น ‘แรงส่ง’  แถมยังตกที่นั่งลำบากเป็นฝ่ายค้าน จึงต้องอาศัยกลุ่มบ้านใหญ่ช่วยประคอง ไม่ให้ตกชั้นเป็น‘พรรคต่ำร้อย’  หรืออยู่ในระดับที่ลดลงแบบฮวบฮาบเกินไป ซึ่งถือเป็นเรื่องยุ่งยากมากๆ ของ พท.เวลานี้

เพราะไม่มีจุดขาย ไม่มีเสน่ห์ ที่มีพลังพอไปฉุดรั้งกลุ่มบ้านใหญ่ให้อยู่ต่อโดยมองไม่เห็นอนาคตที่ดีของตัวเอง เพราะธรรมชาติของนักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่ ซึ่งมีเครือข่ายและมีแสงในตัวเอง มักเลือกอยู่กับข้างที่ได้เป็นรัฐบาลมากกว่า

ดังนั้น กลุ่มบ้านใหญ่ที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับ พท.ก็จะเป็นกลุ่มที่ภักดีจริงๆ เท่านั้น

ส่วนพรรคอื่นๆ ที่เหลือ นาทีนี้ ‘ภูมิใจไทย’ น่าจะเนื้อหอมกว่าใคร เพราะตั้งแต่เป็น ‘หนู’  ตกถังข้าวสาร ได้กลับมาเป็นรัฐบาลแบบส้มหล่น วันนี้หัวกระไดยังไม่แห้ง มีสาระพัดกลุ่มทั้งบ้านใหญ่ไฟกระพริบ ไปจนถึงกลุ่มมุ้งต่างๆ มาขออยู่ร่วมชายคาด้วย จึงดีดลูกคิดรางแก้วรอไว้ล่วงหน้าว่า เลือกตั้งเที่ยวหน้าต้องมี 120-150 ที่นั่ง

พรรคกล้าธรรม  พระเอกอีกคนในใจ ‘เสี่ยหนู-อนุทิน’  ที่วันก่อนในงานวันเกิด 67 ปี ‘ครูใหญ่’ เนวิน ชิดชอบ พูดขอทางกับนักข่าวขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินตามหลังว่า ‘หลบหน่อยๆ พระเอกมา’ และเมื่อวาน( 7 ตุลาคม 2568) ยังพาขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ไปไหว้องค์นรสิงห์ เป็นการส่วนตัวอีกต่างหาก

สมัยหน้า กธ.ที่เนื้อหอมน้องๆ ภูมิใจไทย ก็ดีดลูกคิดรางแก้วรอไว้เหมือนกันว่า น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 60-70 ที่นั่ง

ในขณะที่พรรคประชาชน  แชมป์เลือกตั้งสมัยที่แล้ว ชั่วโมงนี้โพลทุกสำนักยังให้เป็น‘เต็งหนึ่ง’ อยู่ แม้กระแสจะแผ่วลงไปเยอะ เพราะเดินเกมการเมือง ก้าวพลาดมาหลายครั้ง แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าพรรคอื่นๆ ในสายตาของคนรุ่นใหม่ และฝ่ายที่ไม่เอากับอนุรักษ์นิยม

พรรคส้ม จึงน่าจะยังเป็นพรรคใหญ่ที่ได้เสียงเกินร้อย ขึ้นไป แต่กระแสคงอยู่ในระดับทรงๆ ไม่พุ่งแรงเหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสนาม กทม.จะไม่ได้เห็นแลนด์สไลด์เกิดขึ้นอีก

สุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์  พรรคเก่าอายุ 80 ปี ที่วันนี้เกิดปรากฏการณ์ ‘เลือดเก่า’ ไหลกลับ หากการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ วันที่ 18 ตุลาคมนี้ ทุกอย่างราบรื่นได้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมานำทัพอย่างที่เป็นข่าว และถ้าได้ ‘มาดามแป้ง’  นวลพรรณ ล่ำซำ มาเป็นเลขาธิการพรรค ตามเสียงร่ำลือด้วยอีกแรง

‘มาร์ค-มาดามแป้ง’ น่าจะเป็นสินค้าการเมือง ที่ทำให้ ปชป.มีชีวิตชีวา กลับมาปักธงพรรคในสนามกทม.ได้อีกหน เช่นเดียวกับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ที่เคยได้มากถึง 11 ล้านเสียง แต่ล่าสุดเหลือ 9 แสนเศษ น่าจะกลับมาที่หลักล้านได้ และประเมินกันเบื้องต้นว่า คงเป็นเบรกเกอร์การเมือง ไม่ให้เก้าอี้สส.ปชป.รูดต่ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่

ถ้าทำดีๆ ปชป.เที่ยวนี้มีสิทธิ์เป็นพรรคขนาดกลางที่มีสส.เกิน 30 เสียงได้ไม่ยาก

สำหรับพรรคอื่นๆ ที่เหลือ ใครจะก้าวเก่า ก้าวใหม่ จะปรับลุคเป็นลุงคนใหม่หรือจะไปต่ออย่างไร จะมีใครไปด้วยกี่คน ก็ว่ากันไป ให้ประชาชนเป็นคน‘ตัดสิน’ ในวันหย่อนบัตรลงคะแนนกันเองเอง

แต่เท่าที่ประเมินจากตัวเลขข้างต้นและฟังความรอบด้านแล้ว เหล่านักสังเกตการณ์ทางการเมือง ต่างยกให้สองพรรค คือ ‘ภูมิใจไทย-ประชาชน’ เป็นคู่ชิงที่ 1 ส่วนตำแหน่งที่ 3 ไล่บี้กันระหว่าง ‘เพื่อไทย-กล้าธรรม’ ขณะที่ลำดับ 5 เว้นไว้ให้ ปชป.ถ้ากลับมารอมชอมกันได้

ถ้าผิดไปจากนี้ยอมให้เอาปี๊บมาคลุมหัวได้เลย.

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์