ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กว่าที่ประชุมสภาฯ จะเข้าสู่วาระลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่ง ‘รองประธานสภาฯ คนที่ 1’ แทน ‘พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน’ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ก็ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เนื่องจากเกิดการโต้เถียงเรื่องการนับองค์ประชุม และสุดท้ายที่ประชุมสภาฯ ก็ได้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อเป็นรายบุคคล ซึ่งหากให้ครบองค์ประชุม จะต้องมีสมาชิกแสดงตนไม่น้อยกว่า 246 คน แต่ปรากฎว่า องค์ประชุมครบแบบเฉียดฉิว คือ 248 คน มีสมาชิกแสดงตนมาเกินแค่ 2 คนเท่านั้น

ทั้งนี้ การประชุมสภาฯ ก็ดำเนินไปต่อ โดย ‘สรวงศ์ เทียนทอง’ สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อ ‘ไชยา พรหมา’ สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว ซึ่งตามข้อบังคับการประชุม หากมีการเสนอชื่อเพียงบุคคลเดียว ทำให้ไม่ต้องมีการลงมติและถือว่า ‘ไชยา’ ได้รับเลือกเป็น ‘รองประธานสภาฯ คนที่ 1’


จากนั้น ไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ขอยืนยันว่า จะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อย สถาบันนิติบัญญัติ เป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้ จะเป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป

ไชยา กล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง คือ อยากเห็นความร่วมมือความร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล สิ่งใดที่เป็นเรื่องของประชาชนและเป็นประโยชน์ของประเทศ จะไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง และพร้อมจะทำงานและจับมือกับทุกฝ่าย ในการให้สถาบันแห่งนี้เป็นที่พึ่งของประชาชน

ไชยา ยืนยันกับสมาชิกว่า แม้จะมาจากสังกัดพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมานั่งเป็นประธานในที่ประชุม จะวางตัวเป็นกลาง และสร้างความเชื่อมั่น เที่ยงธรรม ให้ความเสมอภาคกับสมาชิก ขอให้สมาชิกเปิดใจให้ได้ทำงาน