ไร้แผนรองปมคลิปเสียง ‘ภูมิธรรม’ ลั่น ‘อิ๊งค์’ กำลังใจดีเข้มแข็งไม่ระส่ำ

‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนรับมือของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยปมคลิปเสียง ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม กับ ‘สมเด็จฮุน เซน’ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า เราเชื่อมั่นในความตั้งใจจริงของแพทองธาร และหากดูในเนื้อหาทั้งหมด ไม่ได้มีเจตนาที่จะนำไปสู่สิ่งนั้น คิดว่าเราจะอาศัยความตั้งใจจริงของนายกฯแสดงให้ศาลเห็นและพิจารณาว่าเรื่องนี้เราตั้งใจอย่างไร ที่ผ่านมาการที่บอกว่าจะมีปัญหาที่ทำลายความมั่นคง มันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ทุกคนกังวลใจ เพราะถ้าไปดูในคลิปเสียงจริงๆเขาต่อรองขอให้เราเปิดด่านหลังเขา 5 ชั่วโมง ไทยเราก็ยืนยันบอกว่าทำไม่ได้ หลายเรื่องนายกฯก็เล่าให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพฟังมีการประชุมร่วมกันมาตลอด 

เมื่อถามย้ำว่า มีแผนสำรองอย่างไรหากนายกฯ เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ภูมิธรรม ย้ำคำเดิมว่า วันนี้เราแสดงความจริงใจ ตั้งใจจริงของนายกฯให้ประชาชนเข้าใจ ถ้าอะไรเกิดขึ้นก็มีกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้วไม่ต้องเตรียมอะไร 

ส่วนสภาพจิตใจของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีระส่ำบ้างหรือไม่ ภูมิธรรม เชื่อว่า วันนี้ทุกคนเข้มแข็งเรารู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากทั้งหมดที่เป็นอยู่ บางเรื่องเป็นเรื่องที่เราไม่อาจควบคุม หรือกำหนดได้ เรามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือทำความจริงให้กระจ่าง และแสดงความจริงใจ ความตั้งใจที่เราจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนเป็นสำคัญ กรณีที่นายกฯเสนอพยาน 5 คน แต่ศาลให้เพียงคนเดียวจะเป็นผลบวกหรือลบกับนายกฯ ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล ศาลรัฐธรรมนูญมุ่งเป้าไปที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็มีเหตุผล นายกฯเสนอหลายคนแต่เป็นดุลยพินิจของศาล 

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯจะไม่ลาออกก่อนวันที่ 29 ส.ค.นี้ใช่หรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่เคยมีการคุยเรื่องนี้"  

ยืนยันไร้ปัญหา ‘กองทัพ’ พร้อมแจงตั้งที่ปรึกษาของ ‘บิ๊กเล็ก’ ไม่ใช่ที่ปรึกษาศบ.ทก. 

พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงความชัดเจนในการยุบศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ได้พูดคุยกับ ‘พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์’ รมช.กลาโหม ในฐานะ ผอ. ศบ.ทก. ในช่วงสถานการณ์ที่คลี่คลาย ซึ่งเป็นการประเมินจากหน้างาน หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะมีการยุบศูนย์และปล่อยอำนาจให้กระทรวงต่างๆ ได้ทำหน้าที่ ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันว่าจะยุบภายหลังการพูดคุย การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) เสร็จสิ้น แต่เมื่อสองสามวันที่ผ่านมามีสถานการณ์เกิดขึ้น ในลักษณะบานปลาย จึงยังไม่จำเป็นที่จะเรียกประชุม สมช. ภายในสัปดาห์นี้  

โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 18 ส.ค.นี้ น่าจะมีความชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหา แต่เป็นการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาสถานการณ์ในแต่ละช่วง เพราะ สมช. และ ศบ.ทก. มีเหล่าทัพในนี้ด้วย และยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจกัน ได้มีการมอบอำนาจให้ส่วนหน้าเป็นหลัก อยากให้ทุกส่วนเข้าใจไม่อยากให้เกิดความบานปลาย 

สำหรับการรับมือกรณีประชาชนออกจากศูนย์อพยพ และบางส่วนไปอยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาล และทหาร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้กับประชาชน ซึ่งเราห้ามความกังวลของใครไม่ได้ แต่ต้องพยายามทำความเข้าใจ ให้ทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร อีกทั้งมองว่า เรื่องนี้ทุกส่วนต้องช่วยกันแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด  

เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการประชุมเพื่อพิจารณายุบ ศบ.ทก. จะเป็นสัปดาห์หน้าหรือไม่นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีการพูดคุยกันมาสม่ำเสมอ เห็นว่าควรจะประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพราะขณะนี้ยังมีประเด็นต่างๆอยู่ และยังไม่มีการปรับการบริหารทางยุทธวิธี จึงไม่สามารถที่จะยุติหน่วยงานได้ในทันที  

ภูมิธรรม กล่าวถึงการตั้งที่ปรึกษาของ ศบ.ทก. โดยยืนยันว่า การตั้งเลขาคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไม่มีอะไรเลย เพราะเป็นการตั้งที่ปรึกษาของ รมช.กลาโหม ไม่ใช่การตั้งที่ปรึกษา ศบ.ทก. ซึ่งตนอยากให้ผู้สื่อข่าวกลับไปถาม พล.อ.ณัฐพล ว่าไม่ได้เอาชื่อใครออก และตนก็เห็นชอบให้มีการแต่งตั้ง ตั้งแต่สมัยเป็น รมว.กลาโหมแล้ว และย้ำว่า การตั้งที่ปรึกษาดังกล่าวไม่ได้เกิดปัญหาอะไรกับรัฐบาล