การประชุมสภาฯ ที่มี ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม หลังจากเสร็จสิ้นวาระกระทู้ถามสดแล้วเสร็จ ได้พักการประชุม เพื่อให้คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และวิปฝ่ายค้าน หารือต่อประเด็นการเลื่อนระเบียบวาระการเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งว่างลง โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น เมื่อกลับมาประชุม วัชระพล ขาวขำ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เสนอให้เลื่อนระเบียบวาระการประชุมคือการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ขึ้นมาพิจารณา แต่ สส.พรรคฝ่ายค้าน โดย กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทยหารือว่า อยากให้พิจารณาญัตติด่วนเพื่อหารือต่อประเด็นความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วย ซึ่งการขอเลื่อนญัตติเพื่อเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ฝ่ายค้านไม่คัดค้าน หากว่า สส.ฝั่งรัฐบาลยืนยันในความพร้อม
ด้านวัชระพลยืนยันว่า สส.รัฐบาลมีความพร้อมและไม่ขัดข้องที่จะพิจารณาญัตติด่วนที่ฝ่ายค้านเสนอ ทำให้กรวีร์กล่าวขึ้นว่า หากรัฐบาลมีความพร้อม ขอเสนอให้นับองค์ประชุม
ทำให้บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างวุ่นวาย เพราะทักท้วงการเสนอนับองค์ประชุมของพรรคฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันวัชระพล ในฐานะวิปรัฐบาล ได้เสนอให้นับองค์ประชุมผ่านการขานชื่อ ทำให้กรวีร์เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมผ่านการเสียบบัตร จากนั้น ฉลาด กล่าวขึ้นว่า ขอใช้อำนาจวินิจฉัยให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ
ด้าน ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประท้วงว่า เมื่อมี 2 ญัตติเสนอขึ้นมา ประธานการประชุม จะต้องตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนที่จะมีการลงมติให้ที่ประชุมเลือกว่า จะนับองค์ประชุมแบบกดบัตรหรือขานรายชื่อก่อน ซึ่งไม่ว่าอย่างไร ก็จะต้องนับองค์ประชุมก่อน ก่อนที่จะถามทั้ง 2 ญัตติ
ก่อนที่ ฉลาด จะใช้อำนาจประธานการประชุม ให้ที่ประชุมนับองค์ประชุมแบบขานรายชื่อรายบุคคล ซึ่งทำให้ภราดรประท้วงให้ประธานการประชุมฯ อ่านข้อบังคับการประชุมที่วางอยู่บนบัลลังก์ และย้ำว่า ก่อนที่จะมีการลงมติให้ที่ประชุมเลือกว่า จะนับองค์ประชุมแบบกดบัตร หรือขานรายชื่อก่อน ซึ่งไม่ว่าอย่างไร ก็จะต้องนับองค์ประชุมก่อน ก่อนที่จะถามทั้ง 2 ญัตติ ตามข้อบังคับการประชุม
ฉลาด ชี้แจงว่า วัชระพลยังไม่ได้เสนอญัตติ ดังนั้น จึงย้ำให้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ ทำให้ภราดร ประท้วงอีกครั้ง พร้อมขอให้ฉลาด ไปย้อนดูบันทึกวิดีโอการประชุม
ด้าน วัชระพล ได้ลุกขึ้นตำหนิภราดร ในฐานะอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้อ่านข้อบังคับการประชุมมาก่อน ที่กำหนดให้อำนาจประธานการประชุม สามารถกำหนดวิธีตรวจสอบองค์ประชุมได้ และการขอนับองค์ประชุมไม่ใช่ญัตติ ก่อนที่ภราดรจะไล่วัชระพลไปเรียนมาใหม่ เพราะข้อบังคับประชุม ระบุ ประธานมีอำนาจในการกำหนดรูปแบบการนับองค์ประชุม กรณีที่ไม่มีผู้เสนอ แต่ในกรณีนี้ มีผู้เสนอญัตตินับองค์ประชุมมาแล้ว ดังนั้น วัชระพล ต้องไปเรียนมาใหม่
ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เสนอให้ประธานการประชุม สั่งปิดประตูห้องประชุม ก่อนนับองค์ประชุม และให้เจ้าหน้าที่เดินนับองค์ประชุม เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง และสภาฯ จะมีประสิทธิภาพมากกว่านี้
ขณะที่ ฉลาด ยังคงยืนยันจะให้มีการตรวจสอบองค์ประชุมแบบขานรายชื่อ ทำให้ภราดร ยังคงประท้วงว่า ประธานการประชุม จะใช้อำนาจตามข้อบังคับการประชุมข้อที่ 32 ไม่ได้ และจะต้องถามมติจากที่ประชุมก่อนว่า จะลงมติตรวจสอบองค์ประชุมแบบขานชื่อ หรือกดบัตร ดังนั้น จะต้องแสดงตนก่อน แต่หากจะวินิจฉัยเช่นนี้ ขอวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุม
จากนั้น ฉลาดได้ให้ที่ประชุมได้ดำเนินการตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ จังหวะนั้น วิสุทธิ์หารือว่า เมื่อคนขอนับองค์ประชุมไม่ร่วมสังฆกรรม ออกห้องประชุมไปแล้ว ขอให้ดำเนินการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ตามวาระ
ทำให้กรวีร์ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวว่า “จะมาบอกว่าผมไม่อยู่อย่างไร ผมอยู่ในห้องประชุมด้านหลัง ผมก็งงว่า ผมไม่อยู่ได้อย่างไร”
