‘บวรศักดิ์’ เปิดไทม์ไลน์ ‘เลือกตั้ง-ประชามติ’ 29 มี.ค.69

15 ต.ค. 2568 - 07:28

  • ‘บวรศักดิ์’ เปิดไทม์ไลน์รัฐบาล 4 เดือน ยุบสภา 31 ม.ค. 69 บอก ‘เลือกตั้ง-ทำประชามติ 29 มี.ค.69’ เหมาะสมสุด

‘บวรศักดิ์’ เปิดไทม์ไลน์ ‘เลือกตั้ง-ประชามติ’ 29 มี.ค.69

บวรศักดิ์  อุวรรณโณ  รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังสมาชิกรัฐสภาอภิปรายจนครบทุกคน ถึงไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทันตามกรอบเวลาในการยุบสภา 4 เดือนว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นเป็นอำนาจของรัฐสภา รัฐบาลไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวได้  แต่ขั้นตอนการทำประชามติมีกฎหมายกำหนดชัดเจนว่าให้ประธานรัฐสภาส่งร่างรัฐธรรมนูญแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อให้นายกรัฐมนตรีหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กำหนดวันลงประชามติ และกำหนดคำถามที่จะถามในประชามติ

ด้วยเหตุดังนี้ จึงต้องกำหนดระยะเวลาหรือไทม์ไลน์ที่เกิดจาก 3 ส่วน คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และ MOA โดยไทม์ไลน์จะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

1.กรณีใช้พรป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับปัจจุบัน จะเริ่มนับ 4 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 จะไปครบ 4 เดือน ก็จะต้องยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2569   ซึ่งตามกฏหมายต้องกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วันหรือไม่เกิน 60 วัน ดังนั้นหากยุบสภาตามกำหนด วันที่เหมาะสมในการเลือกตั้งและทำประชามติ คือวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2569 

ทั้งนี้ สมาชิกรัฐสภาจะต้องจะต้องลงมติในวาระสามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เกินวันที่ 15 - 20 ธันวาคม 2568  ส่วนการทำประชามติ นายกรัฐมนตรีและกกต. จะต้องประกาศการจัดทำมติภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568

2. กรณีที่หากมีการประกาศใช้ พรป.การออกเสียงประชามติฉบับที่ 2  และมีการประกาศใช้ กรณีนี้จะทำให้สภามีเวลามากขึ้นในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากกำหนดเวลาทำประชามติภายใน 60 วัน จากเดิม 90 วัน 

ดังนั้น หากยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2569 จะมีการเลือกตั้งและทำประชามติพร้อมกันในวันที่ 29 มีนาคม 2569 ซึ่งรัฐสภาต้องลงมติให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาร ะ3 ระหว่างในวันที่ 15 - 19 มกราคม 2569 ส่วนการทำประชามติ นายกรัฐมนตรีและกกต. จะต้องประกาศการจัดทำมติภายในวันที่ 29 มกราคม 2568

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส. น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายภายหลัง บวรศักดิ์ แจ้งไทม์ไลน์การเลือกตั้งและการทำประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะไทม์ไลน์นี้มีความชัดเจน แต่มีข้อกังวลนิดเดียวเพราะเมื่อวานนี้ ได้อภิปรายในเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อไปดูรายละเอียดทั้งหมดกรอบเวลาที่อภิปรายและนำเสนอไป จะเหลื่อมจากที่บวรศักดิ์ นำเสนอเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น ที่กำหนดการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมวาระ 3 ช่วงวันที่ 15 ถึง 20 ธันวาคม 2568  แต่ที่นพ.ชลน่าน เสนอลงมติไม่เกินวันที่ 9 ธันวาคม จึงกำหนดวันลงมติวาระ 3 ไว้ในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เพราะดูจากการลงมติในวาระที่ 2 เป็นรายมาตรา นับไปอีก 15 วันจะหมดต้นเดือนธันวาคม ในกรณีถ้ามีการเปิดสมัยประชุมวิสามัญด้วย และหลังวันที่ 8 ธันวาคม ให้เวลาประธานรัฐสภาและ ฝ่ายธุรการดำเนินการให้เรียบร้อย จะสามารถส่งหนังสือให้นายกรัฐมนตรี ได้เร็วที่สุดภายใน 3 วัน

จาก ไทม์ไลน์ของบวรศักดิ์ให้เวลา 10 วัน นั่นก็คือวันที่ 12 ธันวาคม 68 รัฐสภาต้องมีมติส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีจัดทำประชามติถามประชาชน ความหมายคือ ถ้าทำตามนี้ระยะเวลาจะได้ในช่วงของ 90 วัน มีเวลาหายใจ 4-5 วันทีแรก คิดเผื่อในวันที่ 22 มีนาคม 69 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์เหมือนกัน แต่สุดท้ายคือ 29 มีนาคม 69 ซึ่งเหมาะสมทั้งสองวัน ตรงนี้คือกรณีการทำประชามติตามพระราชบัญญัติออกเสียงประชามติ 2564 ซึ่งใช้เวลา 90 วัน ไม่เกิน 120 วัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์