‘อนุทิน’ นำทีมหารือ กกต.ปมทำ ‘ประชามติ 2 เรื่องใหญ่’ วันเลือกตั้ง สส.

24 ต.ค. 2568 - 04:26

  • ‘อนุทิน’ นำทีมรัฐบาลหารือ กกต.

  • ‘ทำประชามติ ร่าง รธน.และยกเลิก MOU 43-44’ วันเดียวกับเลือกตั้ง สส.

‘อนุทิน’ นำทีมหารือ กกต.ปมทำ ‘ประชามติ 2 เรื่องใหญ่’ วันเลือกตั้ง สส.

บรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คึกคักตั้งแต่เช้าเมื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นำทีมรัฐบาล ประกอบด้วย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี, ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เดินทางเข้าหารือกับคณะกรรมการ กกต. นำโดย อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.

anutin-leads-cabinet-to-discuss-with-ect-SPACEBAR-Photo06-1.jpg

การประชุมครั้งนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นการพูดคุยระดับสูง เพื่อหารือแนวทาง “จัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU 43) และบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU 44) ในวันลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป” ขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น

anutin-leads-cabinet-to-discuss-with-ect-SPACEBAR-Photo02-1.jpg

ขณะที่ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ประชุมหารือแนวทางการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการยกเลิกหรือปรับปรุงบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU 2543) และบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU 2544) ซึ่งจะกำหนดวันออกเสียงประชามติในวันเดียวกันกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป

anutin-leads-cabinet-to-discuss-with-ect-SPACEBAR-Photo04.jpg

ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการในการจัดให้มีการออกเสียงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 ตลอดจนเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติกำหนด โดยมีประเด็นหารือ 2 ประเด็น ดังนี้

  • วันที่เหมาะสมที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศให้มีการออกเสียง ตามวันที่ได้หารือกับ กกต. (ซึ่งไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติหรือวันที่ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภา) สมควรประมาณการเมื่อใดที่ทุกฝ่ายพร้อมในการดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้ง/ออกเสียงประชามติ
  • งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการจัดทำประชามติ กรณีมีออกเสียงประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้งทั่วไป
anutin-leads-cabinet-to-discuss-with-ect-SPACEBAR-Photo03.jpg

ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยประธาน กกต. ได้แถลงผลการหารือว่า “การประชุมในวันนี้เป็นการหารือภาพรวมเบื้องต้น ถึงกระบวนการดำเนินงานจะเป็นอย่างไร และงบประมาณที่เกี่ยวข้องจะมีลักษณะอย่างไร”

สำหรับบัตรเลือกตั้ง เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่าจะแบ่งเป็น 2 ใบ ได้แก่ แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรที่จะใช้ในการทำประชามติ ได้วางหลักการไว้ว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและมีการแก้ไข MOU เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก ก็จะปรับรูปแบบบัตรเลือกตั้งให้มีจำนวน 4 ใบ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้จะมีการบริหารจัดการอย่างรอบคอบให้มั่นใจที่สุดว่า ผู้มีสิทธิออกเสียง รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่หน่วยเลือกตั้งจะไม่เกิดความสับสน และงบประมาณการเลือกตั้งต้องคำนึงถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 53 ล้านคน และความเหมาะสมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

anutin-leads-cabinet-to-discuss-with-ect-SPACEBAR-Photo01-2.jpg

กกต. ยืนยันว่า “พร้อมที่จะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ ฉบับเก่า ส่วนฉบับใหม่ พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับปี 2568 มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22 ต.ค. 68) ก็เป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติไปตามข้อบังคับ อีกทั้งพระราชบัญญัติประชามติฉบับปัจจุบันที่มีผลใช้แล้ว ยังกำหนดให้สามารถออกเสียงประชามตินอกราชอาณาจักรได้เป็นครั้งแรก”

anutin-leads-cabinet-to-discuss-with-ect-SPACEBAR-Photo05-4.jpg

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีระบุว่า “การยกเลิกหรือปรับปรุงบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง MOU 2543 และ MOU 2544 เป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา โดยอยู่ระหว่างการหารือเพื่อบูรณาการการทำงานระหว่างคณะทำงานของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะทำงานของ ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์