บทเรียนจาก “นัท นิสามณี” กับภัยเงียบของหมอกระเป๋า
นัท นิสามณี บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังจากช่อง “สะบัดแปรง” เผชิญเหตุการณ์สะเทือนใจเมื่อเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินกลางดึก เพื่อรักษาการติดเชื้อรุนแรงที่แก้มทั้งสองข้าง อันเป็นผลจากการฉีดสารเสริมความงามโดยผู้ให้บริการที่ไม่มีใบอนุญาตเมื่อหลายปีก่อน ภาพหลังการผ่าตัดที่เธอแชร์เผยให้เห็นใบหน้าบวมผิดรูป แพทย์เตือนว่าหากรักษาช้ากว่านี้ อาจเกิดภาวะเลือดเป็นพิษถึงขั้นเสียชีวิต
ค่ารักษาพยาบาลที่ตามมาสูงมากเทียบกับค่าหัตถการเดิมเพียงหลักพันบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการเลือกบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน
หมอกระเป๋า: ปัญหาสาธารณสุขที่ถูกมองข้าม
“หมอกระเป๋า” คือผู้ให้บริการเสริมความงามที่ไม่มีใบอนุญาต มักหิ้วอุปกรณ์ไปให้บริการตามบ้านหรือคอนโดฯ โดยไม่มีความรู้ทางการแพทย์ที่เพียงพอ บางรายเคยเป็นผู้ช่วยพยาบาล บางรายไม่มีพื้นฐานทางการแพทย์เลย จุดขายคือราคาถูกกว่าคลินิกถูกกฎหมายหลายเท่า และใช้การตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อดึงดูดลูกค้า
ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่
การใช้สารปลอม เช่น ซิลิโคนเกรดอุตสาหกรรม พาราฟิน หรือสเตียรอยด์ อาจก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรงและภาวะแทรกซ้อนระยะยาว นอกจากนี้การฆ่าเชื้อที่ไม่เหมาะสมและการใช้อุปกรณ์ซ้ำในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและความเสียหายทางกายภาพ เช่น เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียหาย
กฎหมายมี แต่การบังคับใช้ยังต้องเข้มข้น
ตามพระราชบัญญัติการประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ผู้ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้จะมีการจับกุมเพิ่มขึ้น แต่ผู้ให้บริการผิดกฎหมายยังคงแฝงตัวในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สื่อสังคมกับมาตรฐานความงาม
แพลตฟอร์มออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดภาพลักษณ์ความงาม และส่งเสริมการตัดสินใจของผู้บริโภค อินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลสูง แต่การเปรียบเทียบ “ก่อน-หลัง” โดยไม่ให้ข้อมูลความเสี่ยง อาจทำให้ผู้ติดตามตัดสินใจโดยขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง
ข้อคิดส่งท้าย
เรื่องราวของนัท นิสามณีไม่ใช่แค่เหตุการณ์ส่วนบุคคล แต่สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างในสังคม เมื่อความงามกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้คนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มา เราควรถามตัวเองว่า “ความงามที่แท้จริง” คืออะไร และมันคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่อาจทำให้เราสูญเสียสุขภาพหรือชีวิตหรือไม่