ผ่านมาเกือบครึ่งเดือนของการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งสำคัญๆ ในกองทัพ และผ่านมาเกือบ 4 เดือนหลังการหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม อันเป็นวันยุติสมรภูมิ 5 วันไทย-กัมพูชาลงชั่วคราว
คราบน้ำตาของครอบครัวผู้สูญเสีย ยังไม่ทันได้แห้งเหือด บรรดาเหล่าทหารกล้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนหนึ่งยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ทหารหาญที่สูญเสียขา ยังไม่ได้รับขาเทียม
แต่สัญญาณความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา กลับดูเหมือนกำลังทวีความร้อนแรงมากขึ้น
แนวรบที่เคยร้อนแรงยิ่ง และความขัดแย้งที่ยังไม่มีข้อยุติในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านพื้นที่อีสานใต้ ภายใต้ความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 เริ่มขยายวงกว้างมายังพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และขยายเขตลงไปจนสุดชายแดนที่จังหวัดตราด
ตลอดแนวชายแดนยาวเกือบ 800 กิโลเมตร จากจังหวัดอุบลราชธานีจนถึงจังหวัดตราด ถึงเวลานี้ ไม่มีพื้นที่ไหนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่โหมดแห่งความสงบ หรือโหมดสันติ
ตรงกันข้าม แต่ละพื้นที่ ต่างเต็มไปด้วยการโหมไฟแห่งความขัดแย้ง ที่พร้อมจะปะทุ และลุกลามไปสู่ภาวะการเผชิญหน้ากันด้วยกำลัง
โดยเฉพาะชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ที่กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา เริ่มใช้กำลังทหารและเครื่องจักรหนัก เข้าเคลียร์พื้นที่ ซึ่งถูกชาวกัมพูชารุกเข้ามาสร้างบ้าน และสิ่งปลูกสร้างบางส่วน
ขณะที่พื้นที่จังหวัดตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ก็เสริมกำลังนาวิกโยธิน เข้าตรึงกำลังตลอดแนว รวมถึงเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ที่ถูกระบุว่าเป็นฐานที่มั่นชั่วคราวของฝ่ายกัมพูชา รวมทั้งตัดถนนเส้นสำคัญเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งปรากฏหลักฐานชัดว่า ฝ่ายกัมพูชากำลังใช้ปฏิบัติเปลี่ยนเส้นทางน้ำ เพื่อปรับแนวเส้นเขตแดน ที่อาจรุกล้ำเขตอธิปไตยของไทย
ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชาด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็มีเค้าลางว่า อาจจะเกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าดูเผินๆจะมีความเคลื่อนไหวที่ลดระดับลงไปเมื่อเทียบกับทั้ง 2 พื้นที่
พื้นที่ 11 จุดที่ฝ่ายไทยรุกคืบเข้าไปครองพื้นที่ได้ และอีก 1 จุดที่ฝ่ายกัมพูชาครองความได้เปรียบ มีความเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายในลักษณะของการคุมเชิงกันมากกว่า
แม้ว่า…ทั้งไทยและกัมพูชาจะยังคงตรึงกำลังขนาดใหญ่และอาวุธหนักอยู่ในพื้นที่ ในลักษณะประจัญหน้ากัน แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวในเชิงคุกคาม และส่อเค้าจะเกิดการปะทะรอบใหม่ อันเป็นพื้นที่เดียวที่กำลังจะเริ่มต้นประชุม RBC ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้ (ตุลาคม)
ล่าสุด ฝ่ายไทยยื่นข้อเสนอต่อฝ่ายกัมพูชา เรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนใน 2 เรื่องหลักคือ การถอนกำลังพลรวมทั้งอาวุธหนัก และการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีปัญหา เพื่อคลี่คลายสถานการณ์
ฝ่ายไทยได้ยื่นคำขาดให้กัมพูชาจัดทำแผนเร่งด่วน เพื่อเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ ช่องอานม้า, ช่องกร่าง, ช่องบก และช่องจอม รวมทั้งจะต้องนำเสนอแผนในที่ประชุม RBC ที่จะมีขึ้นบริเวณกลางช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 15 – 17 ตุลาคม ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้รับเอกสารและข้อเสนอกลับไปประชุมกันอีกครั้ง แล้วจึงจะแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบ
ส่วนฝ่ายกัมพูชาได้เรียกร้องให้ไทย เร่งทำกำหนดการส่งกลับเชลยกัมพูชาทั้ง 18 คน โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันตามอนุสัญญาว่าการส่งตัวจะทำได้ก็ต่อเมื่อเหตุการณ์สงบ และความขัดแย้งยุติลงอย่างสมบูรณ์เท่านั้น
ท่าทีของทั้งสองฝ่าย ดูเสมือนใกล้เคียงความเป็นจริงที่การเจรจาจะมีทางออกร่วมกัน และนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง
แต่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณอีสานใต้ ก็กลับมาร้อนแรง และเริ่มขยายผลทางความรู้สึกของคนไทยอีกครั้ง เมื่อมีการจุดประเด็นปราสาทคนาขึ้นมา จนเกิดกระแสเรียกร้องขอความชัดเจนเรื่องปราสาทคนา หลังมีการปล่อยชุดข้อมูลว่า ทหารกัมพูชาได้เข้ายึดครองพื้นที่ปราสาทคนา โดยมีการปล่อยภาพที่ทหารกัมพูชาทำบันไดขึ้นจากฝั่งกัมพูชามายังฝั่งไทย
ภาพบันไดฝั่งกัมพูชา ซึ่งมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง กำลังทยอยขึ้นบันไดไปยังฝั่งไทย ถูกปล่อยออกมาสู่โลกโซเชียล ที่แม้จะชัดเจนว่า เป็นภาพเก่า แต่สังคมก็ตั้งคำถามไปยังกองทัพภาคที่ 2 ทันทีว่า เกิดอะไรขึ้น และทำไมการปะทะกันในรอบที่ผ่านมา ไทยจึงไม่ส่งกำลังเข้าไปยึดครองพื้นที่ดังกล่าว
แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ พล.ท.วีระยุทธ์ รักศิลป์ หรือแม่ทัพเติ่ง ที่เพิ่งขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากแม่ทัพกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ ถูกกดดันอย่างหนัก หลังตอบคำถามนักข่าวที่ไปดักรอเพื่อถามคำถามนี้ว่า พื้นที่ปราสาทคณา ยังเป็นพื้นที่ที่ต้องพิสูจน์ทราบอีกครั้ง
อันเป็นคำตอบที่สวนทางกับข้อมูลที่ถูกปล่อยออกไปก่อนหน้านั้น รวมทั้งยังสวนทางกับการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าปราสาทคนาเป็นของไทย เพราะตัวพล.ต.ณัฏฐ์ เป็นผู้นำกำลังเข้าไปขับไล่ทหารกัมพูชาออกจากปราสาทแห่งนี้เมื่อปี 2554
สถานการณ์ทั้งหมดบานปลายไปสู่การขยายผลในโลกโซเชียล ตั้งประเด็นถึงความเด็ดขาด และความเหมาะสมของ ‘แม่ทัพเติ่ง’ ว่า มีคุณสมบัติเทียบเท่า ’แม่ทัพกุ้ง‘ ได้หรือไม่
เพียงไม่ทันข้ามวัน สถานการณ์ของแม่ทัพเติ่งก็ถูกบีบรัด และกดดันไม่ต่างจากกระแสที่พุ่งเป้ากดดันไปยังพล.อ.อมฤต บุญสุยา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เมื่อครั้งยังเป็นแม่ทัพภาคที่ 1
เพจลึกลับบางเพจ ถึงกับตั้งโหวตให้คนในโลกออนไลน์เข้าไปโหวตเลือกระหว่าง พล.ท.วีระยุทธ์ และพล.ต.ณัฏฐ์ ว่า ใครเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 มากกว่ากัน
ยอดคนดูของเพจที่สูงถึง 2.6 ล้านคน และมีความคิดเห็นสูงถึง 53,000 ความเห็นในชั่วระยะเวลาเพียงวันเดียว ยอด Engagement ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาสั้นๆ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวพล.ท.วีระยุทธ์ อย่างรุนแรง
ความเห็นในด้านลบต่อพล.ท.วีระยุทธ์ ทั้งที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพได้ไม่ถึงครึ่งเดือน และทั้งที่ก่อนนี้พล.ท.วีระยุทธ์ คือ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ที่อำนวยการรบในสนามตลอด 5 วันของสมรภูมิไทย-กัมพูชา จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ผิดธรรมชาติ
กองทัพภาคที่ 2 ภายใต้การนำของ แม่ทัพเติ่ง ถูกกดดันให้เปิดปฏิบัติการทวงคืนปราสาทคณา และลามไปถึงปราสาทตาควายคืนจากกัมพูชา อันทำให้แนวรบอีสานใต้ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาร้อนแรงกลับขึ้นมาอีก
อะไร…คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อนแรงมากขึ้นตลอดระยะทาง 800 กิโลเมตร
อะไร…ที่ทำให้แต่ละพื้นที่เต็มไปด้วยฮีโร่ ซุปเปอร์ฮีโร่ และความพยายามที่จะเป็นฮีโร่
อะไร…ที่อยู่ภายใต้ขบวนการโหมไฟสงคราม
เส้นทางสู่ดวงดาวของใคร ที่กำลังถูกปูด้วยคราบเลือด คราบน้ำตา และความสูญเสีย
EP.หน้า จะเริ่มขยายข้อมูล ความจริง และทฤษฎีสถานการณ์สร้างวีรบุรุษว่า ใครหวังประโยชน์จากไฟแห่งความขัดแย้งครั้งใหม่…โปรดรอทัศนา


