สงคราม 5 วัน ไทย-กัมพูชา EP.2 หยุดกระแสต่อราชการ ‘แม่ทัพกุ้ง’ เจ้าตัวนับถอยหลัง เตรียมส่งไม้ต่อแม่ทัพคนใหม่

13 ส.ค. 2568 - 01:01

  • จับกระแสต่ออายุราชการหลังเกษียณของแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง

  • ‘แม่ทัพกุ้ง’ นับถอยหลัง เตรียมส่งไม้ต่อให้แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่

  • ว่าที่แม่ทัพคนใหม่ ไม่น่าจะพลิกโผ เพราะอยู่ในใจแม่ทัพกุ้ง และ ผบ.ทบ.แล้ว

สงคราม 5 วัน ไทย-กัมพูชา EP.2 หยุดกระแสต่อราชการ ‘แม่ทัพกุ้ง’ เจ้าตัวนับถอยหลัง เตรียมส่งไม้ต่อแม่ทัพคนใหม่

ก่อนจะเข้าประเด็น เบื้องหลังแผนปฏิบัติการทางอากาศ หรือ Air Operation ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของความสำเร็จในการรบ 5 วัน อยากหยิบประเด็นการเรียกร้องให้ต่ออายุราชการ แม่ทัพกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แทรกขึ้นมาเขียนก่อน

ประเด็นนี้กำลังร้อนแรงและสร้างกระแสในโลกออนไลน์ กระตุ้นให้เหล่า FCแม่ทัพกุ้ง ออกมาเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก 

ก่อนนี้มีบางเพจเริ่มส่งสัญญาณต่ออายุราชการ แม่ทัพกุ้ง ออกมาเป็นระยะๆ แต่ที่ฮือฮามากน่าจะเป็นเพจของ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่โพสต์ขอเสียงคนที่เห็นด้วยให้ต่ออายุราชการแม่ทัพกุ้ง จนทำให้สื่อเริ่มนำประเด็นนี้ไปถาม รัฐมนตรีอ้วน ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

แม้รัฐมนตรีอ้วน เลี่ยงที่จะตอบตรงๆ โดยโยนกลับไปให้กองทัพบกเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ แต่ก็แสดงความเห็นว่า ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้เสียทั้งระบบ และระเบียบ แต่ก็ไม่ขัดหากกองทัพบกพิจารณา และเห็นชอบ

มีเพียง พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และอดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2 ที่อธิบายประเด็นนี้ชัด ในการให้สัมภาษณ์ หมาแก่ แมวสาว ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางสถานีโทรทัศน์ อสมท.

พล.ท.กนก อธิบายให้เห็นภาพทั้งระเบียบกองทัพบก และประวัติการต่ออายุราชการ ที่ภายในอายุราชการของพล.ท.กนก ยังไม่เคยเห็นผู้บังคับบัญชาคนใดได้สิทธิพิเศษ ต่ออายุราชการแม้แต่รายเดียว   

ส่วนความสำเร็จของการรบ พล.ท.กนก บอกว่า ต้องให้เครดิตทุกเหล่าทัพที่ผนึกกำลังเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ ทั้งทัพบก ทัพอากาศ ทัพเรือ ตำรวจ หรือแม้กระทั่งมหาดไทย ไม่ใช่ความสำเร็จของคนใด คนหนึ่ง 

ผบ.ทหารสูงสุด บัญชาแผนยุทธการรบทั้ง 3 เหล่าทัพ ส่วน ผบ.ทบ.ลงไปบัญชาการรบร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 ที่สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม จนคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 

ทั้งหมดจึงเป็นปฏิบัติการร่วม จนนำมาถึงการยึดคืนพื้นที่ได้ถึง 11 จุด และสร้างความสูญเสียอย่างย่อยยับให้กับฝ่ายกัมพูชา 

การอธิบายของ พล.ท.กนก มิได้หมายถึงการดิสเครดิต ‘แม่ทัพกุ้ง‘ แต่เป็นการอธิบายภาพการรบ แผนยุทธการ และอธิบายระเบียบกองทัพบก โดยไม่ได้อิงกระแสที่พยายามชูประเด็นต่ออายุราชการให้กับแม่ทัพกุ้ง

โดยเฉพาะประเด็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก ที่ฝ่ายเรียกร้อง พยายามให้ต่ออายุราชการแม่ทัพกุ้งไปจนกว่าจะยึดคืนปราสาทตาควายได้ หรือจนกว่าจะเสร็จศึกไทย - กัมพูชา แบบเบ็ดเสร็จ 

หากมองแบบเป็นธรรม คนที่ใกล้ชิดแม่ทัพกุ้งรู้ดีว่า การต่ออายุราชการ ไม่ใช่สิ่งที่แม่ทัพกุ้งต้องการแน่นอน เพราะตัวแม่ทัพ นับถอยหลังทุกวัน 

แม่ทัพกุ้ง เพียงแค่ห่วงว่า ภารกิจการยึดคืนปราสาทตาควายยังไม่เบ็ดเสร็จ เพราะเป็นพื้นที่เดียวที่ฝ่ายไทยเจาะเข้าไปยึดคืนไม่ได้ จากปัจจัยเสี่ยงหลายเรื่อง ทั้งที่คืนวันที่ 28 กรกฎาคม ทหารไทยบุกขึ้นเนิน 350 ซึ่งเป็นจุดสูงข่ม และเป็นจุดยุทธศาสตร์ของพื้นที่บริเวณนั้นได้แล้ว แต่คงกำลังไว้ไม่ได้ เพราะเสี่ยงต่อความสูญเสียหลังจากนั้น 

ตัวแม่ทัพกุ้ง ไม่ประสงค์จะฝืนระเบียบ เพื่อต่ออายุราชการให้ตัวเองแน่นอน แต่หาก FC และคนที่ชื่นชมแม่ทัพกุ้ง เห็นว่า คนที่เสียสละทำงานมาตลอดชีวิต ผ่านมาทั้งสมรภูมิชายแดน สมรภูมิในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  และผ่านการบัญชาการรบในศึกไทย-กัมพูชารอบนี้ ควรได้รับการปูนบำเหน็จมากกว่าบำเหน็จตามระเบียบ 

ข้อเรียกร้องควรจุดประเด็นขอพระราชทานยศ พลเอก ให้กับแม่ทัพกุ้งมากกว่า เพราะวันที่ 30 กันยายน 2568 แม่ทัพกุ้งจะเกษียณอายุในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 อัตราพลโท เท่านั้น 

การครองยศ พลเอก กับยศ พลโท หลังเกษียณ สถานะและความรู้สึกต่างกันมาก และจะเป็นการเกษียณอายุราชการที่งดงาม และเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ 

และจะเป็นความสุขที่สุด สำหรับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นายทหารอาชีพที่ทุ่มเทชีวิต และเสียสละความสุขส่วนตัว ความสุขของครอบครัวให้กับชาติบ้านเมืองมาตลอด 

หยุดสร้างกระแสการต่ออายุราชการ ที่จะสร้างรอยด่าง และรอยมลทินให้กับ แม่ทัพกุ้ง ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องกันเถอะ

กองทัพภาคที่ 2 มีการวางระบบ วางบุคคลากร วางระบบการสืบทอดตำแหน่งที่ดีมาตลอด นายทหารที่จะเติบโตมาถึงคนที่จะเป็นแคนดิเดต แม่ทัพภาคที่ 2 คนต่อไป ก็มีเส้นทางการเติบโตในแต่ละตำแหน่งที่เหมาะสม มีประวัติการรับราชการที่ดี มีประวัติราชการชายแดน มีประวัติราชการสนาม ที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับกัมพูชาได้ทุกคน  

ทั้ง พล.ต.วีระยุทธ์ รักศิลป์ ,พล.ต.นรธิป โพยนอก และพล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ทั้ง 3 รองแม่ทัพที่ผ่านการรับราชการในพื้นที่มาโดยตลอด

รองแม่ทัพที่อาวุโสสูงสุด และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร ตท.26 ของแม่ทัพกุ้ง รวมถึงพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ และเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ต่อจากแม่ทัพกุ้ง คือ พล.ต.วีระยุทธ์ รักศิลป์ หรือ ‘รองเติ่ง‘

รองเติ่ง ผ่านสนามรบกับกัมพูชามาตั้งแต่การรบที่เขาพระวิหาร ซึ่งขณะนั้นรองเติ่งดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารราบเฉพาะกิจที่ 161 รับผิดชอบพื้นที่ ที่เกิดการปะทะตลอดแนว ตั้งแต่ช่องอานม้า-ภูมะเขือ และพื้นที่พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร 

นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 16 และผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ที่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณอำเภอขนหาญ อำเภอขุขันธ์ และอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ฝั่งตรงข้ามอำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา 

ก่อนจะมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.วีระยุทธ์ ยังผ่านตำแหน่งหลักของกองทัพภาคที่ 2 คือ ตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ตำแหน่งที่จะควบคุมพื้นที่ขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งหมดในภาคอีสาน

พล.ต.วีรยุทธ์ จึงเป็นนายทหารที่คร่ำหวอดอยู่ในราชการชายแดนไทย-กัมพูชา มาโดยตลอด แม้แต่การรบทั้ง 5 วัน นอกเหนือจาก พล.อ.พนา และพล.ท.บุญสิน ที่บัญชาการรบอยู่ที่ ศปก.หลักในพื้นที่แล้ว รองเติ่งยังออกไปบัญชาการรบที่ ศปก.ส่วนหน้าสุด เพื่อสั่งการการรบในแนวหน้าอย่างใกล้ชิด 

การปะทะหนักหน่วงที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ภูมะเขือ ช่องอานม้า และช่องบก อยู่ภายใต้การควบคุมพื้นที่การรบ และการประสานการรบระหว่างแนวหน้า-ศปก.ส่วนหน้า - ศปก.หลัก 

แม้กระทั่งการประชุม JBC ที่พนมเปญ การประชุม GBC ที่มาเลเซีย รวมถึงการประชุม RBC ที่กำลังจะเกิดขึ้น พล.ต.วีระยุทธ์ ก็เป็นคีย์แมนคนสำคัญ ที่เป็นตัวแทนกองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง 

การเก็บกวาดทุ่นระเบิด การเคลียร์พื้นที่ เพื่อให้ชาวบ้านในศูนย์อพยพ สามารถกลับเข้าสู่พื้นที่ได้ตามปกติ ก็เป็นภารกิจของศปก.ส่วนหน้าของ ‘รองเติ่ง‘ ทั้งสิ้น 

หากจะห่วงว่าการเปลี่ยนม้ากลางศึก จะกระทบต่อการรบระหว่างไทย-กัมพูชา หากอยากให้ต่ออายุราชการแม่ทัพภาคที่ 2 ต้องถามแม่ทัพกุ้งว่า 5 วันของการรบที่ผ่านมา แม่ทัพกุ้ง ไว้ใจและมอบหมายใครบัญชาการรบอยู่ที่ ศปก.ส่วนหน้า 

ใคร? ที่กินนอนอยู่กับลูกน้องตลอด 5 วัน และยังคงอยู่จนถึงบัดนี้ ใครที่ไม่เคยปรากฏข่าวบนสื่อ และคอยโลวโปรไฟล์ทุกครั้ง ที่ผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ 

ใคร? ที่แม้แต่สื่อโซเชี่ยลส่วนตัวก็ไม่เคยใช้ ไม่เคยโพสต์เอาหน้า ไม่เคยประชาสัมพันธ์ตัวเองเพื่อบอกสังคมว่า อยู่ในพื้นที่ 

เชื่อว่า…ทั้ง ‘แม่ทัพกุ้ง’ และ ’ผบ.ปู’ ทราบดี 

ฝันที่อยากเห็นวันนี้ คือ แม่ทัพกุ้งได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็น พลเอก เพื่อปูนบำเหน็จความทุ่มเท ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน อย่างน้อยสัก 10 วันก่อนเกษียณอายุราชการก็ยังดี

ฝันที่สอง คือ อยากเห็นคนทำงาน เข้ามาสานต่อภารกิจของ ‘แม่ทัพกุ้ง’ ในกองทัพภาคที่ 2 สานฝันในการทวงคืน ‘ปราสาทตาควาย‘ กลับมา ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง ไม่ว่าด้วยวิธีใด วิธีหนึ่ง

ฝันสุดท้าย “ที่ไม่อยากเห็น” คือ ไม่อยากเห็นแม่ทัพคลอโรฟิล แม่ทัพที่ไม่มีแสงในตัวเอง แม่ทัพที่ได้ตำแหน่งมาด้วยการพีอาร์ตัวเอง…

EP.หน้า…ขอยกยอดไปที่ เบื้องหลัง Air Operation

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์