‘เสี่ยตือ’ คอสโม่จมูกไว ขายบ่อนเขมร ย้ายฐานมาไทย

24 มิ.ย. 2568 - 01:46

  • ธุรกิจกาสิโน ฝั่งกัมพูชา เกิดการเปลี่ยนแปลง

  • เสี่ยตือ คอสโม่ ขายหุ้นสตาร์ เวกัส ปอยเปต

  • อาจจะเตรียมตัวย้ายฐาน รอผ่านกาสิโนคอมเพล็กซ์ในไทย

‘เสี่ยตือ’ คอสโม่จมูกไว ขายบ่อนเขมร ย้ายฐานมาไทย

กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ในแวดวงธุรกิจกาสิโนของโลก เมื่อสำนักข่าวออนไลน์ G3 Newswire และเว็บไซต์ IAG ที่นำเสนอข่าวที่ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมการพนัน ที่เปิดเผยว่าบริษัทจัดการลงทุน Argyle Street Management (ASMHK) ซึ่งจดทะเบียนที่ฮ่องกง ได้ตัดสินใจทำข้อตกลงเข้า ‘ซื้อกิจการ’ กาสิโนคอมเพล็กซ์ ครบวงจร จากกลุ่ม Donaco International สัญชาติออสเตรเลีย ที่มี Star Vegas เป็นหนึ่งในกาสิโนขนาดใหญ่ที่สุดในปอยเปต และ Aristo International ที่อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนามจากกลุ่มของ ‘เสี่ยตือ คอสโม่’  สมบูรณ์ สุขเจริญไกรศรี โดยใช้เม็ดเงินราว 1.1 พันล้านบาท

ตามข้อตกลง ASMHK เสนอซื้อกิจการของ Domaco International ผ่าน ‘บริษัท อ่อนนุช โรด- On Nut Road Ltd (ONR)’  โดยจะเข้าไปซื้อหุ้นทั้งหมดจากเดิมที่มีหุ้นอยู่แล้ว 12.8% โดยซื้อมาจาก ‘โจว ลิม’ Joey Lim เมื่อปี 2019

โดยตกลงซื้อในราคาหุ้นละ 0.045 เหรียญออสเตรเลีย ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าราคาตลาด ณ วันที่ 14 มีนาคม ที่ราคา 0.030 เหรียญออสเตรเลียถึง 50% คิดเป็นมูลค่าราว 55.59 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 35.2 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ หรือราว 1.1 พันล้านบาท

สินทรัพย์ของ Donaco International ประกอบด้วย โรงแรมและกาสิโน Star Vegas ที่ปอยเปต และ Aristo International ที่อยู่ทางเหนือของเวียดนาม โดยคาดว่าจะมีการโหวตรับรองข้อตกลงดังกล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นเดือนมิถุนายนนี้

โดยคาดว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมคือ เสี่ยตือ คอสโม่ สมบูรณ์ สุขเจริญไกรศรี และลูกชายอีกสองคน คือ ‘เตชรัตน์ สุขเจริญไกรศรี’  หรือ ลี บัค ฮุย และ ‘ภูวศิษฐ์ ไชยอรุณโรจน์’  หรือ ลี บัค ตง ที่ถือหุ้นรวมกันอยู่ราว 42.17% จะเห็นชอบกับข้อตกลงดังกล่าว

ในแถลงการณ์ของบริษัท ประธานกรรมการอิสระของ Donaco International ‘พอล’ พรทัต อมตวิวัฒน์ ที่อยู่ในกลุ่มเสียตือ คอสโม่ ระบุว่าข้อตกลงดังกล่าว กลุ่มทุนใหม่น่าจะมีเม็ดเงินสดมากพอที่จะช่วยให้ธุรกิจของบริษัทผ่านพ้นความยุ่งยากในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของอุตสาหกรรมกาสิโน ในระหว่างที่รัฐบาลไทยพยายามผลักดันให้มีการเปิดกาสิโนเสรีขึ้น

ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจขายกิจการของ Donaco International ออกจากมือของ เสี่ยตือ คอสโม่ ออกไปได้ ‘จังหวะ’ เวลาอย่างเหลือเชื่อ เพราะหลังจากมีการทำข้อตกลงไปไม่นาน สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ก็เริ่มตึงเครียด และส่อเค้าจะบานปลายมากขึ้นทุกวัน จนยากจะหาหนทางที่จะย้อนกลับไปสู่จุดเดิมได้อีก

รัฐบาลกัมพูชาพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขจนทำให้เกิดข้อพิพาทตามแนวชายแดนไทย เพื่อนำปัญหาข้อพิพาทใน 4 พื้นที่ทับซ้อนขั้นสู่การพิจารณาของศาลโลก และมีการขยายความขัดแย้งจนกลายเป็นการเปิดสองตระกูล เมื่อ ‘ลุงฮุน’ ตัดสายสัมพันธ์กับตระกูล ‘ชิน’  ถึงขั้นซัดขีปนาวุธเหนือเสียงด้วย ‘คลิปปล่อย’ เข้าถล่มรัฐบาลของ นายกฯคุณหนู ‘อิ๊งค์’ จนซวนเซ และต้องรีบปรับครม.แบ่งเค้กกันใหม่ หลังพรรคภูมิใจไทยประกาศตัดญาติขาดมิตรไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประคองรัฐนาวาไปอีกระยะหนึ่ง

คาดว่ามาตรการตัดสัมพันธ์ทางการทูต และการค้าคงน่าจะมีการยกระดับมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เพื่อตอบโต้ รัฐบาลกัมพูชา นอกเหนือจากการยกระดับมาตราการจำกัดการเดินทางข้ามแดนสำหรับกิจกรรมที่ไม่จำเป็น เช่น การท่องเที่ยวและการพนัน โดยเฉพาะการเดินทางเข้าสู่เมืองชายแดนอย่างปอยเปต ซึ่งเป็นแหล่งรวมกาสิโนที่ได้รับความนิยมจากชาวไทยมานาน

ที่ผ่านมา หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รายได้จากธุรกิจกาสิโนตามแนวตะเข็บชายแดน โดยเฉพาะที่ปอยเปต ก็มีปัญหามาโดยตลอดเนื่องจากมีนักพนันลดลง โดยยอดเข้าพักของโรงแรม Star Vegas มีอัตราลดลงอย่างฮวบฮาบจากเดิมถึงกว่า 42% ในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังเกิดสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน

รายงานของเว็บไซต์ IAG เผยแพร่บทวิเคราะห์สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชาระบุว่า ธุรกิจกาสิโนและโรงแรมในเมืองปอยเปต กำลังโดน ‘ผลกระทบ’ อย่างหนัก นอกจากนักพนันจะลดลงแล้ว ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานคนไทยที่เข้าไปทำงานบริการถึงกว่า 62%  

หากพลิกกลับไปดูสถานการณ์ทางการเงินของกลุ่ม Donaco International  ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX) ที่มีการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็มาสัญญาณไม่สู้ดีนัก

โดยรายได้รวมของกลุ่มบริษัทลดลง 10.0% เหลือเพียง 10.03 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยได้รับผลกระทบจากผลการดำเนินงานที่ขาดทุนในกลุ่มลูกค้า ‘VIP’  ที่กาสิโนสตาร์เวกัส ที่ปอยเปต

รายได้สุทธิของกาสิโน Star Vegas ลดลงถึง 28.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 12.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2024 แม้ว่าจำนวนผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นจากวันละ 872 คนเป็น 928 คนก็ตาม โดยจำนวนผู้เล่นในไตรมาส 1 ปีนี้ลดลงเล็กน้อยจาก 957 คนในไตรมาสก่อนหน้า 

แต่ยังโชคดีที่กาสิโน Aristo International ของ Donaco ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีนทางตอนเหนือของเวียดนาม ยังคงรักษารายได้สุทธิได้อย่างมั่นคงที่ 3.75 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) และมี EBITDA ที่ระดับ 2.31 ล้านเหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)

คงต้องยอมรับว่า ชื่อของเสี่ยตือ คอสโม่ ที่ถูกยกให้เป็นเจ้าพ่อหมายเลข 1 ในแวดวงธุรกิจกาสิโน และมี ‘คอนเน็คชั่น’ ที่ไม่ธรรมดาในแวดวงทุนการเมืองในปีกสีแดง โดยไต่เต้ามาจาก ธุรกิจค้าน้ำมัน และเป็นเจ้าพ่อกาสิโน และบ่อนหลายแห่งตามตะเข็บชายแดนไทยกับเพื่อนบ้าน ไม่เพียง กาสิโน Star Vegas ที่ปอยเปต เขายังมีกิจการบ่อนอีกแห่งที่ด่านบ้านผักกาด จ.จันทบุรี และบ่อนสตาร์เมียวดี ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก
เส้นทางของเขาเริ่มจากการค้าน้ำมันมีโรงกลั่นที่ จ.เพชรบุรี แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก จนมาในช่วง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เป็นนายกรัฐมนตรี ‘เสี่ยตือ คอสโม่’ เริ่มต่อสายเข้าสู่ศูนย์อำนาจเข้าอิงอำนาจรัฐในตอนนั้น

ถึงแม้จะเข้าไม่ถึงตัวทักษิณ แต่สามารถเข้าถึงคนรอบๆ ตัวอดีตนายกฯ คือบรรดาเครือญาติ และ ‘พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก’ โดยทำธุรกิจร่วมกันในนามบริษัท อุทัยคำ มีชื่อ ‘สุรศักดิ์ สุขเจริญไกรศรี’ ถือหุ้นร่วมกับนางวิมลรัตน์ กุลดิลก หรือ ‘เจ้อี่’ ภรรยาของชัจจ์ คนใกล้ชิดอำนาจในช่วงนั้นนั่นเอง

นอกจากธุรกิจน้ำมัน บ่อนพนันรอบๆ ประเทศไทยแล้วยังมีที่ดินแปลงสวยจำนวนมากทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในธุรกิจบันเทิงยังเคยเปิด‘โรงเบียร์ฮอลแลนด์’  ซึ่งปัจจุบันเลิกราไปแล้ว

มีกระแสข่าวว่า เสียตือ คอสโม่ เริ่มปรับทิศทางธุรกิจ โดยหันมาจับ ธุรกิจพนันออนไลน์ โดยนำเม็ดเงินที่ได้จากการขายกิจการ Star Vegas ไปลงทุนสร้างกาสิโนครบวงจรแห่งใหม่อยู่ไม่ไกลกันนัก ชื่อ ‘บ่อนแกแลคซี่’  ที่นอกจากการพนันปกติ ยังขยายฐานลุยตลาดบ่อนพนันออนไลน์ในทุกรูปแบบเช่นกัน โดยจะใช้ชื่อพ่วงท้ายว่า ‘แกแลคซี่’  มีทั้งบาคาร่า ป๊อก รูเล็ต เกมชิงโชค หวยใต้ดินทุกประเภท ทั้งหวยไทย หวยฮานอย หวยลาว หวยจับยีกี โดยมีฐานบัญชาการอยู่ที่ปอยเปต

เสี่ยตือ คอสโม่ ยังมีความสัมพันธ์ที่สร้างความประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เมื่อพบว่าเขามีส่วนเข้าไปร่วมลงทุนในกลุ่ม ‘แสนสิริ’  ของอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยให้ ลูกชาย เตชรัตน์ สุขเจริญไกรศรี หรือ ลี บัค ฮุย ใช้เม็ดเงินกว่า 200 ล้านบาท เข้าไปซื้อ ‘โทเคนดิจิตัล’ เพื่อการลงทุน ‘สิริฮับ A’  และ ยังเข้าไปเป็นกรรมการอิสระของบริษัทอีกด้วย

ในอีกด้านหนึ่งข่าวการขายกิจการของ Star Vegas ยังมีชื่อของ ‘ชนินทธ์ โทณวณิก’  จากกลุ่มดุสิตธานีเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ได้รับการปฎิเสธ โดยมีคำชี้แจงจากเจ้าตัวว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนในกิจการ Donaco International Limited ซึ่งดำเนินธุรกิจคาสิโนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า ไม่ได้เป็น ‘เจ้าของ’ หรืออยู่ ‘เบื้องหลัง’ บริษัท Agryle Street Management Limited (ASMHK) ตามที่มีการรายงานแต่อย่างใด

ชนินทธ์ ยอมรับว่าเคยได้รับการ ‘ทาบทาม’ ให้เป็นกรรมการอิสระใน ASMHK แต่ไม่ได้รับข้อเสนอ แต่อาจเกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างชื่อ ‘Chanin’ กับ ‘Kin Chan’ ผู้ก่อตั้ง ASMHK

พร้อมกับยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับกิจการของ Donaco International และไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินการหรือการลงทุนในธุรกิจคาสิโนตามที่ถูกกล่าวอ้างโดยบางสำนักข่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์