DeepSPACE เปิดไส้ในโครงการจัดเทศกาลดนตรีแดนซ์ EDM Tomorrowland รัฐบาลรักษาการ ของสหายอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย พบพิรุธสำคัญ รัฐบาลควักงบกว่า 1.9 พันล้านบาท ซื้อลิขสิทธิ์เป็นเจ้าภาพ แต่กลับปล่อยให้เจ้าของลิขสิทธิ์และบริษัทเอกชน ‘โอม’ รชต ธันยาวุฒิ ลูกเขยอุดรพลาซ่า คว้าพุงปลา คาดฟันกำไร 5 ปีกว่า 3 พันล้าน ติดตามใน Deep SPACE..ลึกกว่าที่รู้
ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อว่าเพียงเดือนเดียว ‘สหายอ้วน’ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ภูมิธรรม เวชยชัย จะสวมบท ‘บัตเลอร์’ พ่อบ้านแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้าได้ ‘เนียนกริบ’ และสามารถยกระดับขึ้นมาเป็น นายกฯรักษาการ แทน คุณหนู‘อิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร ได้อย่างสมใจ ‘เสมียนประเทศ’ ทักษิณผู้พ่อ เมื่อเดินหน้าฟาดฟัน คู่ปรับของตระกูล ‘ชินฯ’ ทั้งบ้านใหญ่บุรีรัมย์ และตระกูล ‘ฮุน’ชนิดเลือดสาดนองเป็นท้องทะเลคลั่งได้ขนาดนี้
ตั้งแต่ไล่เช็กบิล ฮุนเซน และลูก ในนามรัฐบาลไทย ยื่นฟ้อง อาญา-แพ่ง เอาผิดเขมรที่มีการโจมตีพลเรือนเสียชีวิตในเหตุปะทะที่ชายแดนต่อองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ในเวลาเดียวกันก็เดินหน้าลุยบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เพิกถอนที่ดินเขากระโดง พร้อมทั้งล้างบางมหาดไทย ชนิดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรม
แต่ในอีกด้านหนึ่งรัฐบาลชุดรักษาการของสหายอ้วน ก็ยังเร่งเดินหน้าแผนงานและโครงการที่มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์แบบชวนกังขาในหลายๆเรื่องทิ้งทวน ชนิด ‘เชิดหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน’
ตั้งแต่การแอบเดินเรื่องเซ็นคำสั่งมหาดไทย ‘ปลดล็อก’ ให้มีการจัดแข่งขัน ‘โป๊กเกอร์’ เท็กซัส โฮลเด็ม กันใจกลางกรุงเทพฯ โดยให้เหตุผลว่าเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ทั้งๆที่ยังไม่มีสหพันธ์กีฬาระหว่างประเทศสักองค์กรที่ให้การยอมรับ แถมยังอ้างว่าจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว
ท่ามกลางข้อสงสัยว่า มีความพยายาม ‘เร่งรีบ’ แบบผิดปกติ เพื่อเป็นการเอื้อให้ทุนพนันข้ามชาติบางรายหยั่งเท้าเข้ามาหาประโยชน์ทางธุรกิจการพนันโดยไม่โปร่งใสหรือไม่
ล่าสุดถึงแม้จะยกเหตุผลว่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในฐานะการเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานเทศกาลดนตรีระดับโลก (World Event Destination) และเป็น Festival Hub ในระดับเอเชีย
รวมไปถึงเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยสำหรับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง และเป็น Safe Destination สำหรับการท่องเที่ยว ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เพิ่งมีมติเห็นชอบในกรอบหลักการการเสนอตัวการจัดงานเทศกาลดนตรี Tomorrowland ในประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2569 - 2573 เป็นระยะเวลา 5 ปี
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ โครงการนี้รัฐบาล ‘แอ่นอก’ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ยอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้จัดงาน บริษัท Tomorrowland International (TLI) ภายใต้กรอบวงเงินสูงถึง 50 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 1,900 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็นรายปี ๆ ละ 10 ล้านยูโร หรือ ปีละประมาณ 380 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร เท่ากับ 38 บาท)
รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สรวงศ์ เทียนทอง ระบุว่า ขั้นตอนต่อไปภายหลังครม.อนุมัติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะดำเนินการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) กับบริษัท Tomorrowland International (TLI) หรือ บริษัท วี อาร์ วัน.เวิลด์ (ไทยแลนด์) ซึ่งจะเป็นบริษัทที่ Tomorrowland International (TLI) ร่วมลงทุนกับบริษัทพันธมิตรในประเทศไทย คือ บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด ของไทย ซึ่งเสนอตัวเป็นผู้จัดร่วมกับ บริษัท Tomorrowland International เจ้าของลิขสิทธิ์
ลำพังการควักเงินถึงกว่า 1.9 พันล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์การจัดเทศกาลดนตรีแบบ EDM มาจัดงานในไทย ก็ถูกวิพากษ์ถึงความเหมาะสมหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว เพราะถึงแม้จะอ้างว่าเพื่อส่งเสริมแนวคิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้กลยุทธ์วัฒนธรรมด้านดนตรีและศิลปะการแสดงที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
แต่ก็ดูจะย้อนแย้งกับแนวคิดเรื่องการส่งเสริมด้าน ซอฟต์พาวเวอร์ ของไทย จนแม้แต่ ‘น้าแอ๊ด’ คาราวบาว ยืนยง โอภากุล ยังออกมาวิพากษ์ถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณหมดไปกับเรื่องนี้อย่างรุนแรง
แต่เรื่องที่น่าตั้งคำถาม และชวนสงสัยมากที่สุดไปกว่านั้น ยังมีประเด็นในเรื่องของผลประโยชน์ เพราะอาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่รัฐบาลไทยยอมควักเงินงบประมาณผูกพันนานถึง 5 ปี เพื่อซื้อลิขสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในการจัดเทศกาลดนตรีประเภท EDM หรือ Electronic Dance Music ด้วยเงินสูงถึง 1.9 พันล้านบาท
แต่กลับยอมให้บริษัทต่างชาติเจ้าของลิขสิทธิ์ และเอกชนคนไทยรายเดียวได้จัดงานนี้ไปแบบครบวงจรโดย ‘ไม่ต้องมีการประมูล’ แถมไม่มีรายละเอียดแม้แต่บรรทัดเดียวที่จะระบุว่ารัฐบาลจะมีส่วนในการรับรู้รายได้ ส่วนแบ่งรายได้หรือกำไรจากการจัดงานหรือไม่ ทั้งๆที่มีการประมาณว่าจะมีกำไรสูงถึง 3.17 พันล้านบาท
ปกติที่ผ่านมาในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดกีฬาระดับทัวร์นาเมนท์ หรือ การจัดกิจกรรม หรือการประชุมนานาชาติ ถึงแม้จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ แต่รัฐบาลก็จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงาน โดยอาจจะไปประสานงานร่วมกับเจ้าของลิขสิทธิ์ในการประมูลหาเอกชนมาร่วมบริหารโครงการ ทั้งในส่วนของการจัดงานและการหารายได้
แต่ในคราวนี้ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเพียงแต่อ้างถึง ‘ความเร่งด่วนของเรื่อง’ ว่า ททท.เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้สามารถดำเนินการจัดเทศกาลดนตรี Tomorrowland ให้เกิดขึ้นจริงใน เดือนธันวาคม พ.ศ. 2569
โดยคาดว่าจะใช้สถานที่ คือ ‘วิสดอม วัลเลย์’ เขาไม้แก้ว เมืองพัทยา ชลบุรี จึงต้องนำเสนอครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติการสนับสนุน เนื่องจากจะต้องมีกระบวนการดำเนินงานหลายขั้นตอน ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินงาน เช่น การเตรียมการด้านประชาสัมพันธ์ ประสานงานระหว่างประเทศ การเตรียมการจัดงาน รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณ
การตรวจสอบพบข้อมูลที่น่าแปลกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อพบว่าบริษัทไทย ผู้เสนอตัว-ร่วมลงทุนกับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ บริษัท Tomorrowland International คือ ‘บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด’ ที่เพิ่งรับจัดงาน โครงการ Maha Songkran World Water Festival 2025 เมื่อวันที่ 11-15 เมษายน 2568 ให้กับรัฐบาล โดยที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ได้อนุมัติจัดงบกลาง จากงบประมาณปี 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 153 ล้านบาท ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2025
จากข้อมูลในเว็บไซต์ ‘CredenData’ ผู้ให้บริการสืบค้นข้อมูลบริษัทจดทะเบียน ระบุว่า บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด จดจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เลขที่ 8 ซอยพุทธมณฑล สาย 1 ซอย 15 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร มี รชต ธันยาวุฒิ เป็นกรรมการลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท
ในงบการเงินปีล่าสุดในช่วงปี 2562 ห้วงเวลาที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดการล็อกดาวน์เศรษฐกิจ ปิดประเทศ การท่องเที่ยวที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยหยุดชะงัก บริษัทวัน เอเชีย เวนเจอร์ส ประสบการขาดทุน 2 ปีต่อกัน แต่พลิกพลิกกลับมามีรายได้แบบก้าวกระโดดในปี 2565 มีรายได้ทะลุ 95 ล้านบาท และมีกำไรราว 6.6 ล้านบาท
ลองพลิกไปดูประวัติของ รชต ธันยาวุฒิ หรือ ‘โอม’ ผู้ก่อตั้ง วัน เอเชีย เวนเจอร์ส - One Asia Ventures ถึงแม้จะต้องยอมรับว่าเป็น ‘เบอร์ใหญ่’ ในวงการ EDM เมืองไทย ที่เริ่มต้นจากการตีกลอง และซึมซับวัฒนธรรมดนตรี จนผันตัวเองมาสู่นักจัดงาน ‘โชว์บิซ’ ที่กล้าคิด กล้าลงมือ และกล้ายอมรับความเสี่ยง เพื่อผลักดันสิ่งที่เขาเชื่อว่า
‘ดนตรี คือวิถีที่ผู้คนจากต่างวัฒนธรรมจะเข้าใจกันได้เร็วที่สุด’
ในบทสัมภาษณ์ของเขา ในสื่อออนไลน์ ‘The People’ เมื่อไม่นานมานี้ เส้นทางในวงการดนตรีของเขา ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาพอสมควร ตั้งแต่เริ่มจากผับเล็ก ๆ สู่เทศกาล ‘เฟสติวัล’ ระดับหมื่นคน ตั้งแต่การขาดทุนจากงานแรกจนหมดตัว สู่การเป็น artist agent และกลายเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทระดับโลก ในการจัดเทศกาลดนตรี EDM
เส้นทางของ ‘โอม’ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยบทเรียนและแรงผลักดันจากความเชื่อในตัวเองที่อยากเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการจัดงานเฟสติวัลในประเทศนี้ไปอีกหมุดหมายหนึ่ง
จุดเปลี่ยนสำคัญของ ‘โอม’ น่าจะมาจากการที่เขาไปพบรักและแต่งงานกับ ‘เอิร์น’ อภิชา วีรชาติยานุกูล ทายาทสาวของ ‘เสี่ยหนุ่ย’ ธนกร วีรชาติยานุกูล เจ้าของอาณาจักร อุดรพลาซา และ ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ รวมทั้งโรงแรม MOCO ที่อุดรธานี เมืองหลวงของคนเสื้อแดง โยทั้งคู่ต่างถือเป็นคู่รักที่วงการเซเลปให้ความสนใจติดตามกัน
ต้องยอมรับว่าไม่เพียงเป็นคนอยู่ในวงการดนตรี แต่จากฐานะความเป็นลูกเขยของเศรษฐีใหญ่แห่งเมืองอุดรฯ ย่อมทำให้มีส่วนสำคัญที่ทำให้มี ‘คอนเนคชั่น’ ในการเข้าถึงคนในขุมอำนาจของพรรคเพื่อไทย ในการผลักดันโครงการนี้จนประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
ท่ามกลางคำถามคาใจของคอการเมือง และกำลังเป็นเป้าใหญ่ที่ฝ่ายค้านอย่าง ค่ายบุรีรัมย์ กำลัง ‘ลับดาบ’ เตรียมเชือดล้างแค้นอยู่ในตอนนี้...
<<<<<>>>>>>>
หมายเหตุ- ประกอบข่าว
1.เทศกาลดนตรี Tomorrowland - สำหรับคนที่เป็นคอดนตรีสายแดนซ์ คงไม่มีใครไม่รู้จักเทศกาล Tomorrowladเทศกาลดนตรี EDM ที่เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลกดนตรี
Tomorrowland ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองบูม ประเทศเบลเยียม เมื่อปี 2005 หรือ 20 ปีที่แล้ว ก่อนที่ Tomorrowland จะขยับมาจัดอีกหลายเมือง ทั้งในสหรัฐอเมริกา บราซิล
ทุกปี เวที Main Stage ของ Tomorrowland จะมีการเปลี่ยนธีม เช่น ธีมเวทมนตร์ ธีมแฟนตาซี ธีมจักรวาล ผสมผสานกับ “ดี.เจ.-ศิลปิน” แถวหน้าของโลกที่ปักปฏิทินมาร่วมแจม-ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง และในทุก ๆ ปี บัตรเข้างานก็จะขายหมดเพียงไม่กี่นาทีที่เปิดจอง โดยราคาบัตรของ Tomorrowland มีตั้งแต่ 3 พันกว่าบาทขึ้นไปจนถึง 2 แสนบาท ซึ่งราคาบัตรแต่ละประเภทจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้าร่วมงานเทศกาลต่างกันออกไป
ความจริงแผนการจัด Tomorrowland ในประเทศไทย เริ่มมีแผนมาตั้งแต่ช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องการดึงรายได้จากการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นผู้แทนในการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ในการจัด Tomorrowland ในประเทศไทย
แต่ปรากฏว่าเกิดการระบาดของ โควิด-19 เข้ามาแทรก ทำให้แผนการทั้งหมดต้องพับเก็บลง แต่หลังจากเลือกตั้งพฤษภาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีนายกฯ “นิด” เศรษฐา ทวีสิน ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ดึงแผนเทศกาลดนตรีระดับโลกมาจัดในเมืองไทยใหม่อีกครั้ง
เทศกาลดนตรี EDM ในไทยกลับมาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 เมื่อนายกฯเศรษฐา พบกับทีมงานผู้บริหาร Tomorrowland และแม้ว่า “เศรษฐา” จะพ้นจากเก้าอี้นายกฯ เข้าสู่รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” โครงการก็ยังคงเดินหน้าต่อ โดยราวปลายเดือนมิถุนายนปีนี้ นายกฯ “อิ๊งค์” แพทองธาร เปิดห้องบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล หารือกับ Mr.Bruno Vanwelsenaers ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท TL International (TLI) ถึงการจัด Tomorrowland Thailand 2026 และมีการเร่งดำเนินการขออนุมัติจาก ครม.ในที่สุด ถึงแม้จะอยู่ในช่วงที่ นายกฯ”อิ๊งค์” จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯ
2. แผนงบประมาณ รายได้ ร่ายจ่ายของการจัดงาน - ในมติครม.มีการระบุผลประโยชน์และผลกระทบทางเศรษฐกิจในเชิงบวก-เงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยมีการประมาณการรายได้สำหรับช่วงปี 2569-2573 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานในหลากหลายมิติ โดยคาดการณ์ผลกระทบทางเศรษฐกิจเกิดรายได้ในระบบเศรษฐกิจตลอดระยะเวลา 5 ปี เป็นรายได้ประมาณ จำนวน 12,053 ล้านบาท จะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 922,500 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จำนวน 369,000 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 553,500 คน โดยคาดว่าจะมีรายได้เข้าสู่ประเทศไทย ดังนี้ (ดูตารางประกอบ)
ขณะที่จะมีรายจ่าย ที่มีการประมาณการค่าใช้จ่ายในการจัดงานสำหรับช่วงปี 2569-2573 (5ปี) เป็นเงินประมาณ 8,881.77 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้ (ดูตารางประกอบ)
มติครม.ยังมีการระบุถึง สิทธิประโยชน์ ที่ประเทศไทยจะได้รับไว้อีกมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องการประชาสัมพันธ์งานผ่านในสื่อออนไลน์ (Online Media)ผ่านช่องทางสื่อต่างๆทั้งสื่อไทยและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 10 สื่อ และยังมีการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมวัฒธรรมไทยในงาน Tomorrowland Thailand ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ช่องทางอินฟลูเอนเซอร์ ไม่น้อยกว่า 10 คน
ทั้งนี้รูปแบบการจัดงานจะมีการสอดแทรกแนวคิด และการเตรียมโซนกิจกรรม รวมถึงการเตรียมสถานที่ ให้มีโซนจัดแสดงกิจกรรมที่แสดงความเป็นไทย เช่น นวดแผนไทย อาหารไทย เป็นต้น เป็นเวลา 3 เดือนก่อนการจัดงาน และในช่วงงาน 8 วัน ของ Tomorrowland Thailand
หากพิจารณาจากข้อเสนอในผลการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการจัดงานเทศกาลดนตรี Tomorrowland ในประเทศไทย มีหลายจุดที่ระบุถึง ‘ความเร่งด่วน-โดยเร็วที่สุด’ บางจุดระบุว่า ‘จำนวนจะระบุภายหลัง’ แสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบ-ไม่รัดกุม
