DeepSPACE เปิดรายละเอียดทรัพย์สิน ยิม เลียก และเบน สมิธ ที่ถูกอายัดกว่า 9 พันล้านบาท มีทั้งที่ดินที่ อ.ท้ายเหมือง ตะกั่วทุ่ง พังงา และ อ.ถลาง ที่ภูเก็ต มีห้องชุดเพนท์ เฮ้าส์ สุดหรู บนอาคารมหานคร เงินฝากธนาคารกว่าพันล้านบาท และหุ้นในบริษัทบางจากเกือบ 6 พันล้านบาทติดตามใน Deep SPACE.ลึกกว่าที่รู้
ในการอายัดบัญชี และทรัพย์สิน 4 คดีใหญ่ ในยุทธการ ‘ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ’ ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมมูลค่ากว่า 10,165 ล้านบาท เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา (3 ธันวาคม 2568)
คดีที่ใหญ่ที่สุด นอกเหนือจากคดีของ ‘เฉิน จื้อ’ กับพวก เจ้าของอาณาจักร Prince Holding Group คดีของ ‘ก๊ก อาน’ กับพวก เจ้าของอาณาจักร Crown Casino ในกัมพูชา และ คดีแพลตฟอร์มหลอกลงทุน ULELA ของ ‘เอื้ออังกูร สันติรักษ์โยธิน’ กับพวกแล้ว
คดีของนางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ ต้องถือเป็นคดีที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีการเชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายของเจ้าพ่อสแกมเมอร์รายใหญ่ของกัมพูชา ยิม เลียก เจ้าของอาณาจักร BIC Group และ พ่อมดการเงิน ผู้มากคอนเนคชั่นทั้งกัมพูชาและไทย อย่าง เบน สมิธ โดยเฉพาะคดีนี้ คาดว่ามีวงเงินรวมกันกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท แต่ปัจจุบัน ปปง.สามารถยึดอายัดทรัพย์ไว้ได้จำนวน 66 รายการ (ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่า 9,279 ล้านบาท
นอกจากมีการออกหมายจับบุคคลต่างที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 คดี จำนวน 42 ราย ซึ่งรวม ยิม เลียก และ เบน สมิธ แล้ว ในส่วนคดีของนางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ ยังมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ไว้ 8 บริษัท ประกอบด้วย
1.บริษัทเจด เอ็มไพร์ จำกัด แยกเป็น ที่ดินจำนวน 9 แปลง ที่ อ.ท้ายเหมือง พังงา รวม 192 ไร่ มูลค่า 538.9 ล้านบาท และบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงเทพ 6.37 ล้านบาท รวมมูลค่า 545.27 ล้านบาทบริษัทถือหุ้นโดย CAI Optimum Fund VCC สิงคโปร์ 49% แคทรียา บีเวอร์ 36% วิรินยา ยิมจ์ (วิษณี เทพเจริญ ภรรยา ยิม เลียก) 15%
2.บริษัทวชิรคม จำกัด เป็นห้องชุด อาคารมหานคร สีลม บางรัก ขนาด 848 ตรม. มูลค่า 420 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นโดย Prime Opportunity Fund VCC ทั้ง 100%
3.บริษัท นาใต้ บีช โฮลดิ้ง จำกัด แยกเป็น ที่ดินจำนวน 7 แปลง ที่ อ.ตะกั่วทุ่ง พังงา รวม 85 ไร่ มูลค่า 862.87 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นโดย แคทรียา บีเวอร์ (ภรรยา เบน สมิธ) 91% บริษัท คิปชัก อิงค์ กัมพูชา 9%
4.บริษัทอีวาร่า พร็อบเพอตี้ จำกัด แยกเป็นที่ดิน อ.ถลาง ภูเก็ต 1 ไร่เศษ มูลค่า 74.42 ล้านบาท และ บัญชีธนาคารกรุงเทพ 1.57 ล้านบาท รวมมูลค่า 76 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นโดย วิรินยา ยิมจ์ (วิษณี เทพเจริญ ภรรยา ยิม เลียก) 99% ลั เมธี สุธีบุตร 1%
5.บริษัท โอเวอร์ซีส์ แมเนจเม้นท์ คอนซัลแตนท์ส จำกัด บัญชีธนาคารกสิกรไทย มูลค่า 1.085 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นโดย สุภารัตน์ สง่าเมือง (อดีตภรรยา เบน สมิธ) 99.99% ปภาวรินทร์ เชื้อสวัสดิ์ 0.01%
6.บริษัทพังงา บีช โฮลดิ้ง จำกัด บัญชีธนาคารกรุงเทพ มูลค่า 29.48 ล้านบาท. บริษัทถือหุ้นโดย คุณาชา ไชยชุมพร 51% BIC Marine (BVH) 49%
7.บริษัท เอเพกซ์ ลักซ์ เอวิเอชั่น จำกัด บัญชีธนาคารกรุงเทพ มูลค่า 7.84 แสนบาท บริษัทถือหุ้นโดย แคทรียา บีเวอร์ 51% ลูค ยิมจ์ 49%
8.บริษัท อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ 4 รายการ ที่เปิดไว้กับ บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) 4,083 ล้านบาท บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) 929 ล้านบาท บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ 2 บัญชี รวม 871.79 ล้านบาท รวมมูลค่า 5,885 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทถือหุ้น โดย Alpha Global 51% และ อังกอร์ อิสชูแอนซ์ เอส เอ ลักเซมเบิร์ก 49% ที่เหลืออยู่ในชื่อ ณัฐกร อธิธนาวานิช โดยแหล่งเงินที่ใช้ลงทุนซื้อหุ้นบริษัทบางจาก คาดว่านำมาจากบริษัท CAI (Capital Asia Imvestment)จากสิงคโปร์
ทั้ง 8 บริษัท มีความเกี่ยวข้องกับ ยิม เลียก ภรรยายิม เลียก วิรินยา ยิมจ์ (วิษณี เทพเจริญ) และ เบน สมิธ ภรรยาเบน สมิธ แคทรียา บีเวอร์ และสุภารัตน์ สง่าเมือง (อดีตภรรยาเบน สมิธ)
คาดว่า‘ความสัมพันธ์’ ระหว่าง เบน สมิธ ที่มีกับ ยิม เลียก คือการทำหน้าที่เป็น มือทางการเงิน ในการวางแผนและบริหารจัดการเงินในการลงทุนทำธุรกิจ และลงทุนในกองทุนต่างๆให้กับ ยิม เลียก เพื่อแปรเปลี่ยนเงินเทาที่ได้มาให้เป็นเงินถูกกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า นางสาวแตงไทย มีธุรกรรมการเงิน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนทั้งสองในหลายๆกรณี
มีการคาดหมายว่ามีการใช้ ‘บริษัทเปลือกหอย’ Shell Company อย่างอัลฟา โกลบอลฯ และ อังกอร์ อิสชูแอนซ์ฯ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ‘อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี’ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้ามาถือหุ้นถึง 20.1% ในบริษัท บางจากฯ โดยเพิ่งมีการเปลี่ยนมือมาจาก CAI และ แคทรียา บีเวอร์ ที่เคยเข้ามาซื้อหุ้นบางจากฯก่อนหน้านี้ เพื่ออำพรางแหล่งเงินที่แท้จริง
ถึงแม้ ณัฐกร อธิธนาวานิช กรรมการของบริษัท ‘อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี’ จะยืนยันว่าตัดสินใจเข้ามาลงทุนใน บริษัทบางจากฯ เนื่องจากเล็งเห็นว่า โครงสร้างปัจจุบันของ บริษัทบางจากฯไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และมองเห็นศักยภาพของ บางจากฯ ในการลงทุนด้านพลังงานในไทย โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ยิม เลียก และเบน สมิธ แต่สิ่งที่เป็นคำถามก็คือเขาใช้เม็ดเงินลงทุนจากไหน และมีกลุ่มทุนกลุ่มไหนที่ให้การสนับสนุน
ประกอบกับการเคลื่อนไหวเข้ามาลงทุนใน บางจากฯ ของยิม เลียก และเบน สมิธ เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังการกลับมาของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้มีความใกล้ชิดกับ ฮุน เซ็น และตระกูลฮุน ซึ่งเคยพูดถึงแนวคิดในการร่วมกันขุดแก๊สจากพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้ถูกต่อต้านจากภาคประชาชน ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
นำไปสู่ กรณี ‘อังเคิล’ และเป็นสาเหตุให้ นายกฯ ‘อิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมาเป็น รัฐบาลของนายกฯ ‘หนู’ อนุทิน ชาญวีรกุล
ขณะเดียวกัน สำนักงานทนายความ บริษัทพิสุทธิ์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ทนายความของ ยิม เลียก และภรรยา มีการออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวของกับ นางสาวแตงไทย และทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้มิใช่ทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิด
นอกจากนี้ยังยืนยันว่าปัจจุบัน สหรัฐฯได้‘ถอด’ ชื่อของ ยิม เลียก อออกจาก 43 รายชื่อ ที่อยู่ในร่างกฎหมาย H.R. 5490 แล้ว รวมทั้งคู่ก็ไม่ได้หลบหนี เพียงแต่เดินทางออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา


