ก่อนหน้านั้น พรรคเพื่อไทย ก็ให้เหตุผลเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ได้ ‘ตกปาก’ รับคำกับหัวหน้าพรรคประชาชนไว้และเป็นนโยบายเรือธงหนึ่งของพรรค ที่ต้องการผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนด้วยเช่นกัน
แต่ในช่วงวันหยุดยาว ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาประสานเสียงเรื่อง ‘ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ’ รัฐบาลกันอีกครั้ง แบบหมูไม่กลัวน้ำร้อนและพร้อมวิ่งชนปังตอกันเลยทีเดียว
เริ่มจากเวทีปราศรัย พบปะเกษตรกรชาวสวนลำไย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศก้องให้ได้ยินมาถึงกรุงเทพฯ
‘พรรคเพื่อไทยไม่กลัวยุบสภา และพร้อมเลือกตั้งทันที เราอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเต็มที่ และพร้อมให้ประชาชนตัดสินใจในคูหาเลือกตั้ง’
ส่วนที่เมืองหลวงกทม.ก็มีข่าวสะพัดออกมาว่า เพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถาม สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคฯ ก็ออกอาการแบบกั๊กๆ ‘แบ่งรับแบ่งสู้’ ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการบริหารพรรค และกำลังดูช่วงเวลาที่เหมาะสม
‘กำลังดูช่วงเวลา เพราะไม่อยากเป็นแพะของการถูกโยงว่า เพื่อไทยทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้ไม่สำเร็จ’
ฟังดูเหมือนจะยังกล้าๆ กลัวๆ แต่ในบางประโยค ‘บอย-สรวงศ์’ ก็เหมือนพร้อมชนเต็มที่
‘เขาขู่ฟอดๆ ว่าถ้าเรายื่นก็จะยุบสภา ซึ่งถ้าจะยุบสภา เราไม่ได้กลัว เพราะเราทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน’
และตามมาด้วยประโยคใหญ่ที่ว่า
‘เพราะการที่รัฐบาลบริหารบ้านเมืองแล้วมีพี่น้องประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก หากฝ่ายค้านไม่ยื่นอภิปรายนั่นคือเรื่องแปลก และในฐานะฝ่ายค้านเราไม่สามารถให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศต่อไปได้แม้แต่วันเดียว เพราะขณะนี้ประเทศเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้ว’
สรวงศ์ ยังสำทับด้วยว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องใช้อำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ จะมาปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปโดยจะมากลัวนั่น กลัวนี่ กลัวยุบสภา มันไม่มีใครกลัวใครหรอก แต่เราต้องคำนึงถึงประเทศชาติว่าเสียหายอย่างไร และแม้จะเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนก็ตาม แต่อีกหนึ่งเดือนนั้น รัฐบาลอาจจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมหาศาล ดังนั้น พวกตนจึงไม่สามารถปล่อยไปได้
สุดท้าย เมื่อนักข่าวไปถามย้ำ เค้นเอาคำตอบชัดๆ จาก ‘หนิม-จุลพันธ์’ อีกรอบเรื่องวันที่ 12 ธันวาคม ปรากฎว่าสิ่งที่ได้คือ ‘ขออย่าเต้นตามข่าว เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุป’ เมื่อถามย้ำว่าเมื่อไหร่จะได้คำตอบ ก็ออกลีลาต่อว่า ‘ต่อให้รู้ก็บอกไม่ได้’
เอาเป็นว่า ทั้งหมดที่ว่ากันมานั้น ต้องนำไปพูดคุยกับ สส.ในพรรคและขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคจะเห็นเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุด ‘บิ๊กทิน’ สุทิน คลังแสง อดีตรมว.กลาโหม ที่หายไปนานกลับมาปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับประเด็นการร้องศาลรัฐธรรมนูญเอา ‘ผิดจริยธรรม’ รัฐมนตรีรายคนก่อนยื่นซักฟอกรัฐบาล และหนึ่งในนั้นมี อนุทิน ชาญวีรกูล รวมอยู่ด้วย
แต่ประเมินดูแล้ว การออกแรงฮึดของพรรคเพื่อไทยหนนี้ น่าจะเป็นการ ‘รักษาทรง’ ทางการเมืองเอาไว้มากกว่า ในท่ามกลางกระแสข่าวสะพัดเรื่องความไม่พร้อมทำศึกซักฟอก ทั้งจำนวนสส.ที่เหลือไม่ถึงร้อยเสียง และตัวขุนพลที่จะมาทำหน้าที่เพชรฆาตในสภา
ที่มากกว่านั้น คือ มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ผู้มีอำนาจเหนือพรรคของทั้งสีน้ำเงิน-สีแดง ได้ตกปากรับคำ ‘ปิดประตูลั่นดาล’ กันไปแล้ว ไม่ให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ยิ่งเจอคิวแทรกไทย-กัมพูชา เปิดฉากรบรอบใหม่ ที่ทำท่าจะกินวงกว้างและยาวนานกว่าเดิม คงทำให้ฤกษ์ยื่นซักฟอกรัฐบาลขยับยาว และอาจทำให้ ‘หมากการเมืองปรับใหม่’ ทั้งกระดาน มีสิทธิ์กระเทือนไปถึงไทม์ไลน์เลือกตั้งด้วยซ้ำ


