บัตร VIP คอนเสิร์ต: เมื่อราคาที่สูงลิบสวนทางกับประสบการณ์ที่ควรจะพรีเมียม

13 ต.ค. 2568 - 05:00

  • บัตร VIP คอนเสิร์ตในไทยมีราคาพุ่งสูงแต่สิทธิประโยชน์ที่ได้รับสวนทางกับราคา

  • แพ็คเกจ VIP หลายรายการใช้ระบบสุ่มสำหรับสิทธิพิเศษทำให้ผู้ซื้อต้องเสี่ยงไม่ได้รับบริการตามที่จ่ายเงินไป

บัตร VIP คอนเสิร์ต: เมื่อราคาที่สูงลิบสวนทางกับประสบการณ์ที่ควรจะพรีเมียม

ในยุคที่คอนเสิร์ตเป็นมากกว่าการฟังเพลงสดด้วยการกลับกลายเป็นประสบการณ์ที่แฟนคลับยอมควักกระเป๋าเพื่อให้ได้เข้าใกล้ศิลปินผู้เป็นที่รักพร้อมบัตรที่ระบุว่า VIP ที่ในปัจจุบันนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า VIP = Very Important Person (คนที่สำคัญมากๆ) หรือ VIP = Very Indecisive Package (แพ็คเกจที่ไร้ความเด็ดขาดมากๆ) กันแน่ 

ปัจจุบันนี้บัตร VIP กลายเป็นสินค้าพรีเมียมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้นแต่บางครั้งกลับต้องพบกับความผิดหวังจนหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ราคาที่จ่ายไปคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับจริงหรือ?” 

บัตร VIP ในปัจจุบันไม่ได้หมายถึงแค่ที่นั่งโซนแถวหน้าอีกต่อไปแต่กลายเป็นแพ็คเกจซับซ้อนที่รวมสิทธิพิเศษ เช่น ได้เข้างานก่อนเวลา ได้ถ่ายภาพแบบเร่งด่วน ได้ของที่ระลึกที่ผลิตจำนวนมาก และกิจกรรมที่บางครั้งใช้เวลาน้อยกว่าการต่อคิวซื้อกาแฟ ความพิเศษที่เฉพาะคุณควรจะได้รับกลับกลายเป็นเท่าเทียมกันหมดแถมบางครั้งยังต้องลุ้นผ่านระบบสุ่มอีกต่างหาก 

หลายคนยอมจ่ายหลักพันถึงหลักหมื่นเพื่อสิทธิ์ในการพูดคุยกับศิลปินเพียงไม่กี่วินาที หรือเพื่อโอกาสได้จับมือที่อาจไม่ได้รับจริงเพราะต้องผ่านการสุ่ม ความใกล้ชิดที่ควรจะเป็นหัวใจของบัตร VIP กลับกลายเป็นความเร็วในการเข้าแถวหรือการได้ของแถมที่ดูคล้ายของแจกตามงานสัมมนา 

แน่นอนว่าแฟนคลับจำนวนมากยอมจ่ายเพราะความรัก ความผูกพัน และความฝันที่จะได้ใกล้ชิดกับศิลปินแม้จะเป็นเพียงไม่กี่วินาที และนั่นคือพลังที่อุตสาหกรรมบันเทิงใช้เป็นเกณฑ์ในการตั้งราคาสูงลิ่ว แต่เมื่อความรักต้องแลกกับประสบการณ์ที่สวนทางกับราคาก็อาจถึงเวลาที่เราต้องตั้งคำถามว่า “VIP” ควรหมายถึงอะไร 

VIP ไม่ควรเป็นแค่คนที่จ่ายแพงกว่าแต่ควรเป็นคนที่ได้รับประสบการณ์ที่ลึกกว่า ใกล้ชิดกว่า และมีความหมายมากกว่าไม่ใช่แค่การเข้าเร็วหรือได้ของแถมที่ผลิตจำนวนมาก หากอุตสาหกรรมบันเทิงยังคงใช้กลยุทธ์เดิมในการตั้งราคาโดยไม่ปรับคุณภาพของประสบการณ์ให้สอดคล้องกันความเชื่อมั่นของผู้เข้าชมอาจลดลงและคำว่า “VIP” อาจกลายเป็นแค่ฉลากที่ติดไว้บนบัตรธรรมดาเท่านั้น 

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการตลาดที่ใช้ความหายากเป็นกลยุทธ์กระตุ้นการซื้อ บัตร VIP จำนวนจำกัดสร้างความเร่งรีบในการตัดสินใจโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคประเมินมูลค่าอย่างมีเหตุผล หลายคนซื้อเพราะกลัวพลาดไม่ใช่เพราะมั่นใจว่าคุ้มค่า และเมื่อความหายากนั้นถูกสร้างขึ้นโดยเจตนา ไม่ใช่ข้อจำกัดจริงของสถานที่หรือศิลปินก็ยิ่งทำให้คำว่าพิเศษดูพร่าเลือนลงไปทุกที 

สุดท้ายแล้วความคุ้มค่าของบัตร VIP ไม่ได้วัดจากจำนวนสิทธิ์ที่ให้แต่ควรคำนึงถึงความรู้สึกที่ผู้ชมจะได้รับ ถ้าได้กลับบ้านพร้อมหัวใจที่พองโตพร้อมความทรงจำที่ไม่อาจลืมและรอยยิ้มที่ยังอยู่แม้คอนเสิร์ตจบไปแล้วนั่นแหละคือ VIP ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ราคาที่สูงแต่คือความรู้สึกที่ล้ำค่าต่างหาก 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์