วง SONS. จากค่าย Tiny อีกหนึ่งวงดนตรีรุ่นใหม่ที่เดินหน้าปล่อยผลงานสะท้อนตัวตนอย่างจริงใจและมีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยสมาชิกทั้งห้า โตโต้ (ร้องนำ) , เติ้ล (กลอง) , ภพ (กีต้าร์) , ใหม่ (เบส) และ วี (กีต้าร์) ต่างก็มีบทบาทเติมเต็มซึ่งกันและกันทั้งในฐานะเพื่อนร่วมวงและเพื่อนร่วมความฝัน
ล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยผลงานเพลงใหม่ในชื่อว่า ‘ปลายฝน ต้นหนาว’ ซึ่งเป็นผลงานเพลงที่สองนับตั้งแต่เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายเพลง Tiny โดย Spacebar VIBE ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ถึงผลงานและจุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินของพวกเขา
พวกเขาเล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของเพลงใหม่ ‘ปลายฝน ต้นหนาว’ มาจากความรู้สึกเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนไป ฤดูฝนกำลังจะเปิดทางให้ความหนาวเย็นเข้ามาแทนที่ ช่วงเวลานั้นเหมือนบังคับให้หัวใจหันกลับไปมองเรื่องราวเก่าๆ และคนบางคนที่เคยอยู่เคียงข้างกันแต่วันนี้ไม่อาจหวนคืน โต้เล่าว่าได้ขึ้นเดโมแรกที่บ้านก่อนจะส่งให้เพื่อนในวงช่วยกันเติมเต็มจนกลายเป็นเพลงที่สมบูรณ์
เมื่อเราถามว่าทำไมต้องเล่าเรื่อง ‘ความคิดถึง’ ผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนฤดู พวกเขาได้บอกว่าเพราะช่วงปลายปีคือจังหวะที่ความทรงจำมักย้อนกลับมาอย่างหนักอย่างไม่มีเหตุผล เป็นเวลาที่ผู้คนเผลอคิดถึงเรื่องเก่าๆ ทั้งดีและร้ายอยู่เสมอ ความเย็นของต้นฤดูหนาวจึงกลายเป็นเครื่องกระตุ้นความรู้สึกวูบไหวที่กลับมาอย่างชัดเจน พวกเขามองว่าความคิดถึงในเพลงนี้ไม่ใช่ความรู้สึกคาดหวังหรือรอคอยแต่เป็นความจริงที่ต้องยอมรับมากกว่า โต้บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าการยอมรับมักเกิดขึ้นหลังจากการรอคอยนั้นหมดความหมายแล้ว สิ่งที่ทำได้คือเดินต่อไปข้างหน้า แม้จะเจ็บแต่ก็เป็นวิธีเดียวที่ทำให้เราไปต่อได้
เบื้องหลังกระบวนการทำเพลงวงเล่าว่าโต้เป็นคนขึ้นเดโมส่วนใหญ่ ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันฟังและร่วมแสดงความคิดเห็นจากนั้นจึงปรับรายละเอียดตามมุมมองของแต่ละคนทำให้ทุกเพลงเป็นเหมือนงานที่เกิดจากหัวใจรวมกันของสมาชิกทั้งห้าไม่ใช่เพียงความคิดของใครคนใดคนหนึ่ง การได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มากประสบการณ์ ดนัย ธงสินธุศักดิ์ หรือ Dano ยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้กับวงอย่างมาก พวกเขารู้สึกว่า Dano มองเห็นบางอย่างในตัววงที่พวกเขาเองยังมองไม่เห็นและช่วยดึงศักยภาพนั้นออกมาได้อย่างพอดีจนเกิดเป็นซาวนด์ที่มีความดิบแต่ยังคงความอบอุ่นแบบยุค 90s-2000s อย่างที่พวกเขาหลงใหล
ในมุมของคนที่รักความดิบฟุ้งของซาวนด์ยุคเก่าสิ่งที่ยากที่สุดคือการทำให้ทุกชิ้นดนตรีส่งกลิ่นอายอย่างจริงใจออกมาได้ เหมือนผลงานของศิลปินรุ่นก่อนที่เครื่องดนตรีแต่ละเสียงต่างถูกเล่นด้วยหัวใจจริงๆ ไม่ได้พึ่งเทคโนโลยีหรือความสะดวกสบายเหมือนยุคนี้ แต่ในขณะเดียวกันสมาชิกวงก็เข้าใจว่าความต่างระหว่างยุค 90s-2000s กับยุคปัจจุบันต่างก็มีเสน่ห์ของตัวเอง อุปกรณ์ที่ดีขึ้น เครื่องมือที่ตอบโจทย์มากขึ้นทำให้ศิลปินมีอิสระในการสร้างสรรค์มากกว่าเดิม ทุกยุคมีความดีงามของมัน อยู่ที่ผู้ฟังว่าชอบแบบไหน
เมื่อถามถึงการเติบโตจากซิงเกิลแรกในค่าย Tiny ตั้งแต่เพลง ‘หักปากกาเซียน’ มาถึงเพลงที่สอง ‘ปลายฝน ต้นหนาว’ วงยอมรับตรงๆ ว่าสิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือโปรดักชันที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดทั้งในเรื่องการอัดเสียงและการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ ทุกอย่างเนียนละเอียดขึ้นและใกล้เคียงสิ่งที่วงอยากนำเสนอมากกว่าเดิม การมีค่ายอยู่เบื้องหลังช่วยให้วงลดภาระในหลายเรื่องทั้งการโปรโมท การหางาน และการซัพพอร์ตด้านการผลิตเพลง ทำให้วงมีเวลาทุ่มให้กับงานสร้างสรรค์ได้เต็มที่กว่าเดิมมาก
มองไปถึงปี 2026 พวกเขาหวังเพียงให้มีงานเยอะขึ้น ได้เล่นในที่ใหญ่ขึ้น แต่ในความฝันลึกๆ ก็อยากให้วงกลายเป็นวงที่แมสแบบมีงานเข้ามาไม่หยุด มีสปอนเซอร์สนับสนุน ได้ขึ้นเวทีใหญ่รวมถึงโอกาสไปเล่นยังต่างประเทศ ทุกอย่างคือประสบการณ์ที่อยากให้เกิดขึ้นจริงในสักวัน
ท้ายที่สุดพวกเขาฝากข้อความสำคัญถึงคนที่กำลังเผชิญความคิดถึงแบบในเพลงว่าความคิดถึงคือหลักฐานว่าสิ่งนั้นเคยมีความหมายกับเรา ต่อให้เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดอย่างน้อยเราก็ผ่านมันมาได้จนเป็นเราในวันนี้ ทุกคนเก่งมากแล้ว แค่ใช้ชีวิตต่อไปและถ้าวันหนึ่งความรู้สึกคิดถึงย้อนกลับมาอีกก็อยากให้เพลงนี้เป็นเพื่อนในช่วงเวลานั้น
ปิดท้ายด้วยการฝากผลงานของวง SONS. ที่ตอนนี้มีสองเพลงกับค่าย Tiny แล้วคือ ‘หักปากกาเซียน’ และ ‘ปลายฝน ต้นหนาว’ พร้อมสัญญาว่าจะปล่อยเพลงใหม่ตามมาอีกเรื่อยๆ สามารถติดตามพวกเขาได้ทาง IG: sonstagram.wav, Facebook: SONS.Band และ YouTube: tinybkk และขอขอบคุณทุกคนที่ฟังและสนับสนุนอย่างสุดหัวใจ อยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ในทุกฤดูที่จะมาถึง
