สรุปประเด็นดราม่า แบมแบม-ณิชา ตัดสินใจดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่แสดงความเห็นไม่เหมาะสม

28 พ.ย. 2568 - 07:01

  • แบมแบมปล่อยอัลบั้มไทยเต็มรูปแบบแรก HOMETOWN พร้อม MV เพลง WONDERING ที่มีฉากเลิฟซีนกับนักแสดงหญิง

  • แฟนคลับส่วนหนึ่งโจมตีณิชาด้วยคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

  • เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างของปัญหาการคุกคามออนไลน์และขอบเขตของแฟนคลับในยุคดิจิทัล

สรุปประเด็นดราม่า แบมแบม-ณิชา ตัดสินใจดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่แสดงความเห็นไม่เหมาะสม

การเดินทางของอัลบั้มไทยเต็มรูปแบบชุดแรก ‘HOMETOWN’ ของ แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ BamBam จากวง GOT7 ที่มีกำหนดปล่อยในเดือนตุลาคม 2025 กลายเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่าที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะลุกลามจนถึงขั้นเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งที่โปรเจ็กต์นี้ตั้งใจเป็นพื้นที่ให้ศิลปินได้กลับมาเผยแพร่วัฒนธรรมบ้านเกิดของตัวเองให้โลกได้รับรู้  

อัลบั้มนี้ประกอบด้วยเพลงทั้งหมดห้าเพลงที่ร่วมงานกับศิลปินไทยหลากหลายแนวตั้งแต่ ธามไท, เจฟ ซาเตอร์ไปจนถึง อิ้งค์​ วรันธร และยังมี Pharrell Williams มาร่วมงานในเพลง ‘Angel in Disguise’ จนถูกจับตามองว่าเป็นอัลบั้มที่ทะเยอทะยานที่สุดในเส้นทางศิลปินเดี่ยวของเขา 

แต่สิ่งที่แบมแบมไม่คาดคิดคือกระแสตีกลับจากแฟนคลับบางส่วนหลังการปล่อย MV เพลง ‘WONDERING’ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งมีฉากจูบระหว่างเขากับนักแสดงหญิงชั้นนำ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ที่ร่วมแสดงในบทบาทคู่รักตามเนื้อเรื่อง่กลับถูกตีความไปในอีกมุมหนึ่งและขยายใหญ่จนกลายเป็นกระแสคุกคามที่ลุกลามอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ 

จากคลิปในงาน Listening Party ที่แบมแบมเผยความเขินอายของตัวเองต่อฉากดังกล่าวอย่างจริงใจ บรรยากาศสนุกในหมู่เพื่อนศิลปิน มินนี่ จากวง I-DLE และ นัทตี้ จากวง KISS OF LIFE ก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงวิจารณ์ที่รุนแรงจากแฟนคลับบางส่วน  

คอมเมนต์จำนวนหนึ่งมุ่งตรงไปยังณิชาอย่างไม่เป็นธรรมทั้งการใช้ถ้อยคำรุนแรง เหยียดหยาม และมีลักษณะคุกคามชัดเจน บางรายกล่าวหาว่าไม่ควรรับบทนี้ ขณะที่บางรายโจมตีแบมแบมราวกับเขาทำลายความคาดหวังของแฟนๆ ด้วยการนำเสนอซีนโรแมนติกในผลงาน ทั้งหมดนี้สะท้อนปัญหาของวัฒนธรรมแฟนคลับที่เริ่มข้ามเส้นจากความรักไปสู่ความครอบงำโดยไม่รู้ตัว 

เมื่อดราม่าทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แบมแบมจึงตัดสินใจออกมาแสดงจุดยืนอย่างตรงไปตรงมาเมื่อไม่นานมานี้ด้วยข้อความภาษาไทยที่สะท้อนความเจ็บปวดของเขาจากการถูกคอมเมนต์ทำให้รู้สึกผิดทั้งที่ไม่มีสิ่งใดผิดพลาดในเนื้องาน เขายืนยันว่าความเสียใจส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการถูกตำหนิแต่เกิดจากการที่เพื่อนร่วมงานของเขาถูกโจมตีโดยไม่สมควร เมื่อการตั้งขอบเขตด้วยคำพูดไม่ได้หยุดพฤติกรรมการโจมตีของคนบางส่วนที่เรียกตัวเองว่าแฟนคลับเขาจึงยกระดับท่าทีจากการขอโทษไปสู่การประกาศอย่างชัดเจนว่าครั้งนี้จะขอไม่นิ่งเงียบ หากไม่เคารพเขาและเพื่อนร่วมงานของเขาเขาก็จะไม่เคารพเช่นกันเพื่อบ่งชี้ว่าสถานการณ์เข้าสู่จุดที่ต้องจัดการอย่างจริงจังตามกฎหมาย 

ด้านณิชาที่มีประสบการณ์การแสดงมากกว่าสิบปีก็ออกมาตอบโต้ด้วยความเป็นมืออาชีพเช่นกัน พร้อมย้ำว่าเลิฟซีนเป็นเรื่องปกติของนักแสดงและไม่ควรถูกดราม่าเกินจริง คำตอบนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมั่นคงในอาชีพของเธอแต่ยังช่วยดึงบทสนทนากลับสู่ความเป็นจริงว่ามันคืองานที่ผู้ร่วมงานทุกฝ่ายตั้งใจสร้างสรรค์ด้วยความตั้งใจ 

เมื่อการคุกคามออนไลน์ขยายตัวสู่ระดับที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางจิตใจและชื่อเสียงของบุคคลทางต้นสังกัดทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มรวบรวมหลักฐานจากโพสต์ คอมเมนต์ และบัญชีที่มีพฤติกรรมรุนแรงเพื่อเตรียมดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา การคุกคาม และการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนว่าการล่วงละเมิดบนโลกออนไลน์ไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยให้ผ่านเลยได้อีกต่อไปแต่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายไทยซึ่งสามารถเอาผิดได้ทั้งในทางแพ่งและอาญา 

อีกสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือแบมแบมยอมรับว่าสถานการณ์นี้ทำให้เขาลังเลที่จะร่วมงานกับใครอีกครั้ง เป็นสัญญาณที่รุนแรงต่อวงการบันเทิงและแสดงให้เห็นว่าการคุกคามออนไลน์ไม่เพียงทำร้ายจิตใจแต่ยังทำลายเสรีภาพทางศิลปะของศิลปินที่หวังจะผลักดันผลงานไทยสู่เวทีโลก หากศิลปินต้องหวั่นกลัวเสียงตอบรับของแฟนจนต้องเซ็นเซอร์ตัวเองคุณภาพการสร้างสรรค์ผลงานย่อมถูกจำกัดโดยแรงกดดันที่ไม่สมควรมีมาตั้งแต่แรก 

ในท้ายที่สุดเหตุการณ์ระหว่างแบมแบมและณิชาจึงไม่ใช่เพียงเรื่องฉากจูบใน MV แต่เป็นบทเรียนสำคัญของสังคมดิจิทัล วงการบันเทิงจำเป็นต้องมีกลไกปกป้องศิลปินและผู้ร่วมงานจากการล่วงละเมิดทางออนไลน์อย่างเป็นระบบ ขณะที่แฟนคลับเองก็ต้องเรียนรู้ว่าการสนับสนุนที่ดีคือการเคารพขอบเขตไม่ใช่การควบคุมทิศทางชีวิตหรือการทำงานของศิลปินผู้เป็นที่รัก  

การฟ้องร้องครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยกำหนดมาตรฐานใหม่ว่าความรับผิดชอบบนโลกออนไลน์คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป เมื่อเส้นแบ่งระหว่างความรักและความครอบงำเริ่มเลือนรางคำถามที่ตามมาคือสังคมพร้อมหรือยังที่จะเลือกยืนอยู่ข้างการสร้างสรรค์อย่างเคารพศิลปินในฐานะมนุษย์จริงๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่แค่ภาพสะท้อนความคาดหวังของแฟนคลับเพียงฝ่ายเดียว 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์