ในวันที่ทั่วโลกกำลังจับตามองการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี 6G ประเทศไทยเริ่ม ‘นับหนึ่ง’ แล้วกับ 5.5G หรือ 5G-Advanced เทคโนโลยีที่ถูกขนานนามว่าเป็นความ ‘ก้าวกระโดด’ ก่อนเข้าสู่ยุค 6G อย่างเต็มตัว โดยในวันนี้ (21 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยได้เริ่มทดสอบ/ทดลองใช้ 5.5G อย่างเป็นทางการครั้งแรก ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของวงการโทรคมนาคมไทย
การทดลองนี้เกิดขึ้นภายใต้ “โครงการ 5G-A Spectrum Joint Exploration” โดยสำนักงาน กสทช. อนุญาตให้จุฬาฯ เป็นพื้นที่ regulatory sandbox ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ใช้คลื่นความถี่ Upper 6GHz ซึ่งเป็นความถี่ที่ยังไม่เคยใช้งานสำหรับ IMT มาก่อน และใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถึง 10Gbps — เร็วกว่า 5G เดิมถึง 10 เท่า
พื้นที่การทดลองครอบคลุมแนวถนนหน้าสระน้ำจุฬาฯ ไปถึงหลังหอประชุมใหญ่ และในอาคารของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ โดยมีการร่วมมือกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และบริษัทในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอย่าง แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ที่สนับสนุนเครือข่ายทดสอบ
5.5G ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘อินเทอร์เน็ตเร็วขึ้น’ แต่หมายถึงการเปิดโลกการใช้งานใหม่ๆ ที่เป็นไปไม่ได้ในยุคก่อน เช่น
- การผ่าตัดทางไกลแบบเรียลไทม์
- รถไร้คนขับที่ตอบสนองภายใน 1 มิลลิวินาที
- อุปกรณ์ IoT ที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ (Passive IoT)
- เมืองอัจฉริยะ-โรงงานอัตโนมัติ-ระบบจราจรอัจฉริยะ
การขับเคลื่อนเทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ทั้งจากผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS, True และพันธมิตรระดับโลกอย่าง Huawei ซึ่งร่วมมือผลักดันให้ประเทศไทยพร้อมรองรับ 5.5G ภายในปลายปี 2568
จากการทดลองครั้งนี้ จะเป็นการวางรากฐานสำคัญของเทคโนโลยีสื่อสารแห่งอนาคต และเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับขีดความสามารถของประเทศเข้าสู่ยุค Thailand 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม
